การจัดอันดับมหาเศรษฐีโลกจะได้รับการเผยแพร่กันทุกปีๆ จากสถาบันต่างๆอย่าง Forbes เราก็จะเห็นอันดับโลกที่ขึ้นลงกันคนนั้นรวยขึ้น คนนี้รวยขึ้น แต่สิ่งที่น่ารู้คือ.. คนไทยอยู่ในลำดับคนที่รวยที่สุดในโลกเนี่ย เค้าทำธุรกิจอะไรกัน? แล้วเราเคยใช้บริการของเหล่ามหาเศรษฐีเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน? สะท้อนอะไรกับตัวเราเองได้บ้าง?
งั้นเรามาเริ่มกันที่บุคคลที่รวยที่สุดในประเทศไทยก่อนแล้วกัน อันดับ1 ได้แก่… เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มช้าง ไทยเบฟเวอเรจ ที่เรารู้จักกันดี อยู่ในลำดับ 65 ของโลกด้วยทรัพย์สินรวม 560,170 ล้านบาท (อ่านไม่ผิดครับห้าแสนล้าน!!)
ลงลึกกันอีกหน่อยว่าเจ้าสัวเค้าทำอะไรบ้าง กลุ่มเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ น้ำชาเขียวโออิชิ น้ำอัดลมเอส สายดื่มทั้งหลายคงรู้จักดีอย่างเบียร์ช้าง เหล้าแสงโสม , กลุ่มประกัน อาคเนย์ประกันภัย , กลุ่มร้านอาหาร เครือโออิชิ และเคเอฟซี เป็นร้านที่แทบทุกคนต้องเคยเข้าไปจ่ายเงินให้แน่นอน , กลุ่มห้างค้าปลีก ห้างบิ๊กซี พันธุ์ทิพย์ เกตเวย์เอกมัย เซ็นเตอร์พอยท์ เอเชียทีค ไปถึงเดอะสตรีทรัชดา ถัดมาที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม อย่างพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน โรงแรมเครืออิมพีเรียล และศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ , มีหรือมหาเศรษฐีจะไม่มีสื่อของตัวเองต่อกันที่กลุ่มสื่อสาร ที่เจ้าสัวถือหุ้น อัมรินทร์ รวมทั้งหนังสือต่างๆ ในเครือ เท่านี้ยังไม่หมดเพราะเจ้าสัวถือหุ้น จีเอ็มเอ็มแชนแนล ทีวี GMM 25 และวิทยุเครือ เอ-ไทม์ เป็นต้น , มีเครื่องดื่มแล้วก็ต้องมีสินค้าอุปโภคบริโภค อย่าง ขนมขบเคี้ยว เทสโต้ ปาร์ตี้ แคมปัส โดโซะ ไบตี้ รวมถึงของใช้คลาสสิคอย่างสบู่นกแก้ว และกระดาษเซลล็อกซ์ , ท้ายสุดกลุ่มร้านหนังสือเอเชียบุ๊คส์ และยังมีธุรกิจในต่างประเทศ เช่น เบียร์เวียดนาม
ต่อกันที่อันดับสอง เป็นอีกหนึ่งคนที่เราชาวไทยแทบทุกคนต่างจ่ายเงินให้เขาทุกวันคือ เจ้าสัวซีพี ธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของธุรกิจเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ในอันดับ 95 ของโลก ด้วยทรัพย์สินรวม 467,119 ล้านบาท
มาดูกันหน่อยว่าทำไมถึงบอกว่าเราคนไทยแทบทุกคนต่างจ่ายเงินให้เจ้าสัวซีพีกันทุกวัน เริ่มต้นด้วยธุรกิจเกษตร และอาหาร บ.เจียไต๋ เจ้าของผลิตภัณฑ์ ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ต่างๆ ธุรกิจค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ และที่สำคัญอย่าง CPF ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร หรืออาหารตรา CP ไส้กรอก BKP ร้านไก่ทอด CHESTER’S GRILL ไก่ย่างห้าดาว รวมไปถึงนมที่เราดื่มๆกันอย่าง MEIJI ไปถึงอาหารหลักของคนไทยอย่างข้าวตราฉัตร , ธุรกิจค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อยักษ์ใหญ่ 7-Eleven ที่ตั้งอยู่ทุกหัวมุมถนน ถ้าเป็นร้านค้าก็ต้องคุ้นชินกับแบรนด์อย่าง MAKRO นั่นก็ของซีพี , ตัวแทนรับชำระค่าสินค้า ร้านกาแฟเบเกอรี่ บริการขนส่งและกระจายสินค้า , อีคอมเมิร์ซ 24 Shopping ไปถึงธุรกิจการศึกษาสถาบันการศึกษาด้านการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ถ้านับรวมต่างประเทศก็มีร้านค้าปลีก ห้างร้านในจีน ฮ่องกง เขยิบมาดูอีกธุรกิจที่ทุกคนต้องใช้อย่างการสื่อสารก็มีครบ ทั้ง เครือข่ายมือถือ ทรู , อินเทอร์เน็ต ทรูออนไลน์ , ทีวี ทรูวิชั่น เพย์เพอวิวเจ้าใหญ่ที่ครองตลาด(ดิจิทัลทีวีก็มี TNN24 , True4U) มีของกินของใช้ในชีวิต ก็ถัดไปเรื่องที่อยู่อาศัยก็มี CP LAND ธุรกิจพัฒนาอสังหา , ซี.พี.ทาวเวอร์ , ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ และโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ ฟอร์จูน ในเมื่อมีที่อยู่ อาหาร สื่อสาร ที่ตามมาติดก็ธุรกิจยานยนต์ บ.เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี ร่วมทุนผลิตและขายรถยนต์ MG ต่อกันด้วยธุรกิจเวชภัณฑ์ ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ธุรกิจวิจัยและพัฒนา จำหน่ายยารักษาโรค ถัดมาอีกนิดที่ธุรกิจการเงินและการธนาคารในประเทศจีน รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทการด้านการเงินตั้งแต่ ประกันครบวงจร แม้บางธุรกิจจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่ส่วนใหญ่เราก็คงต้องควักกระเป๋าให้เจ้าสัวซีพีเป็นแน่แท้
และอันดับ 3 ของไทย ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับเจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี คิง เพาเวอร์ ในอันดับ 388 ของโลกด้วยทรัพย์สินกว่า 156,751 ล้านบาท
ลงลึกไปอีกนิดที่ตัวธุรกิจกันหน่อย ถ้าใครได้ขึ้นเครื่องบินบ่อยๆย่อมต้องคุ้นเคยกับร้านค้าปลอดภาษีดิวตี้ฟรีอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ที่ครองธุรกิจดิวตี้ฟรีของไทยแต่พียงผู้เดียว , โรงแรมพูลแมนซอยรางนํ้า , ธุรกิจสายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่แทบจะกินรวบการบินโลว์คอสราคาถูกกันเลย และที่แฟนบอลหลายๆคนรู้จักกันดี จิ้งจอกสยาม สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ที่เคยผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษสร้างชื่อก้องโลกมาแล้ว รวมไปถึงสนามโปโล และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ
ดูตัวเลขกันสักหน่อยจากปี 59-60 มหาเศรษฐีไทย 50 ครอบครัว ครอบครอง มหาเศรษฐี 50 คนแรก มีทรัพย์สินเป็น 30% ของจีดีพี , คนรวย 10% มีทรัพย์สิน เป็น 79% ของประเทศ
หนึ่งสิ่งที่เราคงสังเกตเห็นกันคือเจ้าสัวต่างๆมีธุรกิจที่คอยสร้างรายได้เรียกเงินเข้ากระเป๋าจากคนอย่างเราๆตลอดเวลา และส่วนใหญ่ก็ต่างเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานในชีวิตคน ที่ต้องใช้ ต้องอยู่อาศัย ต้องกินดื่ม ต้องเดินทางท่องเที่ยว แล้วลองย้อนกลับมามองที่ตัวเราในทุกวันนี้ เรามีธุรกิจหรือทรัพย์สินอะไรที่สร้างรายได้ให้เราบ้างหรือยัง เราเป็นผู้ทำเงินหรือเป็นผู้จ่ายเงินตลอดเวลา
วันนี้เราเริ่มสร้างทรัพย์สิกันเถอะครับ แค่เริ่มออมเงิน ศึกษาการลงทุน มีภูมิคุ้มกัน ตอนเจ็บป่วย ตกงาน ไม่ต้องรวยแสนล้านหรือมีอสังหามากมาย แค่เริ่มสร้างการเงินให้เพียงพอ และพอเพียง
โดย กมลธร โกมารทัต.