บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมกับ ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด เปิดรับสตาร์ทอัพคนรุ่นใหม่ร่วมนำนวัตกรรมยกระดับธุรกิจขนส่ง ผ่านโครงการบ่มเพาะนวัตกรรม “Thailand Post: Journey to Startup Sandbox 2022”ภายใต้โจทย์ “เราจะส่งมอบคุณค่าที่เหนือกว่าความต้องการ และความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างไร?” โดยความร่วมมือดังกล่าว เป็นการเปิดโอกาส และเปิดรับแนวคิดจากคนรุ่นใหม่เพื่อยกระดับงานบริการของไปรษณีย์ไห้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
ผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 3 ทีมสุดท้าย จะได้รับสิทธิ์รางวัลเงินทุนสนับสนุนทีมละ 100,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจ พร้อมทั้งได้รับสิทธิ์ในการใช้พื้นที่ Co-Working Space ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค สถานที่ทำงานที่มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบสำหรับสตาร์ทอัพแห่งแรกในไทย และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นระยะเวลา 3 เดือน มูลค่ากว่า 70,000 บาท
–NIA ผนึกกำลัง AIEAT เปิดรับดีพเทคสตาร์ทอัพด้าน ARI-Tech สู่การขยายตลาดเติบโตแบบก้าวกระโดด
–เอ็นไอเอ รุกการทูตนวัตกรรมไทย – ฝรั่งเศส พร้อมดันสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการไทยสู่การลงทุนระดับโลก
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ตระหนักถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและผลักดันประสิทธิภาพธุรกิจขนส่ง ล่าสุดจึงได้ประสานความร่วมมือกับ บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด ในการจัดตั้งโครงการบ่มเพาะนวัตกรรมสู่ความเป็นเลิศ “Thailand Post: Journey to Startup Sandbox 2022” เพื่อดึงคนรุ่นใหม่มาร่วมระดมสมอง ร่วมต่อยอดความคิด และร่วมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาธุรกิจขนส่งที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จึงได้มีการกำหนดโจทย์ “เราจะส่งมอบคุณค่าที่เหนือกว่าความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างไร?” (How Might We Go Above And Beyond Customers’ Expectation) เพื่อสรรหานวัตกรรมสำหรับตอบสนองความต้องการและปัญหาของผู้บริโภค รวมทั้งนำไปต่อยอดการพัฒนาธุรกิจใหม่ (New S-Curve) ที่จำเป็นต่อองค์กรในอนาคต
“สำหรับโครงการบ่มเพาะนวัตกรรมสู่ความเป็นเลิศ เป็นโครงการนำร่อง และยังเป็นหนึ่งในแผนงานของการส่งเสริมและขับเคลื่อนการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม ประจำปี 2565 ของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งมีแนวทางการดำเนินงาน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1. Leadership Program: Problem Statement defined workshop เป็นการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการให้แก่คณะกรรมการ ปณท และผู้บริหารระดับสูง เพื่อให้ได้โจทย์ในการทำนวัตกรรมในปีนี้ ระยะที่ 2. Intensive Innovation Challenge Program เป็นการจัดกิจกรรมแข่งขันนวัตกรรมภายในองค์กร และระยะที่ 3. Startup Sandbox Program เป็นการจัดกิจกรรมบ่มเพาะสตาร์ทอัพ”
ดร.ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการจัดตั้งโครงการนำร่องดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การบ่มเพาะและต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ในโลกอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งยังเป็นการช่วยสร้างประสบการณ์และส่งเสริมศักยภาพของผู้ที่เข้าร่วมโครงการให้แข็งแกร่งในสนามประลองฝีมือ Business Ideas Challenge กับเหล่าสตาร์ทอัพชั้นนำระดับประเทศโดยไปรษณีย์ไทยเปิดรับทุกไอเดีย ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมด้านกระบวนการทำงาน หรือนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการ
นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังสอดรับกับทิศทางหรือเป้าหมายของการทำนวัตกรรมของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด คือ “มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยกระดับการดำเนินงานและการให้บริการอย่างก้าวกระโดด ควบคู่กับการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคมและเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน” โดยได้ดำเนินงานด้านนวัตกรรมตั้งแต่ปี 2554 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีนโยบายการบริหารจัดการนวัตกรรมโดยมุ่งเน้นไปยังการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐานและเพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติของภาครัฐภายใต้นโยบาย Digital Economy ที่จะยกระดับและขับเคลื่อนเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล บนแผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และยุทธศาสตร์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด อีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตลอดจนถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2565 และติดตามประกาศผลทีมที่ผ่านเข้ารอบการคัดเลือกในวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ศึกษารายละเอียด โครงการเพิ่มเติมได้ที่ https://forms.gle/fG4zw7qoYWweSEa7A ทั้งนี้ ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 3 ทีมสุดท้าย จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วม Journey to Startup Sandbox เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม – 7 ตุลาคม 2565 พร้อมรับรางวัลเงินทุนสนับสนุนทีมละ 100,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจ พร้อมทั้งได้รับสิทธิ์ในการใช้พื้นที่ Co-Working Space ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค สถานที่ทำงานที่มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบสำหรับสตาร์ทอัพแห่งแรกในไทยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นฐานบรรยากาศการทำงานที่สอดรับกับไอเดียของคนรุ่นใหม่ที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นระยะเวลา 3 เดือน มูลค่ากว่า 70,000 บาท