แกร็บ ประเทศไทย ขานรับนโยบายรัฐ-หนุนเทรนด์พลังงานสะอาด ประกาศตั้งเป้าเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้ได้ 10% ของพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดภายในปี 2569 เล็งหารือกับกลุ่มผู้ผลิต-สถานีชาร์จเพื่อส่งเสริม และผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับ ควบคู่ไปกับผนึกพันธมิตรกับธนาคาร-ไฟแนนซ์เพื่อสนับสนุนการวางแผนทางการเงินและการปล่อยสินเชื่อ พร้อมให้ความร่วมมือภาครัฐกระตุ้นการรับรู้ และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้รถไฟฟ้าในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับ สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการร่วมมือกับกลุ่มอาเซียนขับเคลื่อนพลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภูมิภาค
วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศนับเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต และความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก แนวคิดในการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนหรือเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำได้กลายเป็นหนึ่งในทางออกเพื่อแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ และด้วยการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด ทำให้ปัจจุบันยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดอย่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้กลายเป็นทางเลือกใหม่และกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในวงกว้าง ทั้งนี้ การผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักและถือเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงและน้ำมัน รวมถึงปัญหามลพิษอย่างยั่งยืน”
–ทรูบิสิเนส เผยยุทธศาสตร์ 2022 Professional Digital Solutions รุกตลาดลูกค้าองค์กรด้วยธุรกิจดิจิทัล
–เปิดตัว realme GT 2 Pro สมาร์ทโฟนแฟล็กชิปพรีเมียม เขย่าวงการด้วยนวัตกรรม ที่ราคา 24,990 บาท
“ที่ผ่านมา แกร็บ ประเทศไทย ในฐานะผู้ให้บริการแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ได้ตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม จึงได้ริ่เริ่มโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด และพยายามลดผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในเชิงสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการนำร่องที่ส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์คนขับใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในการให้บริการจัดส่งอาหาร และการเปิดตัวฟีเจอร์พิเศษที่ชวนให้ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมในการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนผ่านการบริจาคเงินเพื่อสมทบในการปลูกป่า เป็นต้น และเพื่อเป็นการแสดงถึงเจตนารมณ์ และความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม ในปีนี้ แกร็บ จึงได้ประกาศเป้าหมายระยะยาว (2565-2569) ในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้ได้ 10% ของจำนวนพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดภายในระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนพลังงานสะอาด ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภูมิภาค”
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ แกร็บ ประเทศไทย จะมุ่งดำเนิน 3 กิจกรรมหลัก อันประกอบด้วย
• การประสานความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อสรรหารถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีสเป็คตรงตามความต้องการของกลุ่มกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับและผู้จัดส่งอาหาร-พัสดุ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนหลายแสนคน รวมไปถึงการส่งเสริมการทดลองใช้งานและการทำการตลาดร่วมกัน นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงบริการที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ผู้ให้บริการสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าและระบบบริหารจัดการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมและผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม
• การผนึกพันธมิตรกับกลุ่มธนาคารหรือสถาบันทางการเงิน เพื่อนำเสนอแผนการจัดไฟแนนซ์ หรือบริการสินเชื่อด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษและการชำระคืนแบบรายวัน เพื่อสร้างแรงจูงใจและลดภาระหนี้ให้กับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบ
• การให้ความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐเพื่อส่งเสริมความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับและผู้จัดส่งอาหาร-พัสดุ โดยเฉพาะในเรื่องของประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเทรนด์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างการรับรู้และการยอมรับ ซึ่งจะส่งผลต่อการทดลองใช้และบอกต่อ
“การประกาศเป้าหมายระยะยาวของ แกร็บ ประเทศไทย ในการส่งเสริมการใช้ EV ในครั้งนี้ ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่สะท้อนความตั้งใจของแกร็บในการมีส่วนแก้ปัญหาและสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจ GrabForGood หรือ แกร็บ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ที่มุ่งส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้คนในสังคม โดยแกร็บพร้อมเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนในการสร้างการรับรู้และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดให้เกิดขึ้นในวงจรธุรกิจของเรา และพร้อมให้การสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการผลักดันนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้” วรฉัตร กล่าวทิ้งท้าย
RIDDARA (ริดดารา) ประกาศเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วไทย เปิดตัว 4 โชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐานใหม่ในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2568 ประเดิมแห่งแรก "RIDDARA AKAYAR" ในย่านลำลูกกา ปทุมธานี ชูจุดเด่นบริการครบวงจร ทั้งจัดแสดงรถ,…
เปิดตัว vivo V50 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในตระกูล V Series ที่มาพร้อมคอนเซปต์ "ถ่ายที่รักอย่างโปร" ชูจุดเด่นกล้อง ZEISS ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลรอบด้าน อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ AI…
กระแสชาไทย Specialty ฟีเวอร์! ข้อมูลจาก LINE MAN เผยให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาด "ชาไทย Specialty" ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่มียอดสั่งซื้อทะยาน 81% ร้านใหม่ตบเท้าเปิดตัวเพิ่มขึ้นถึง…
China Unicom has launched its ambitious 5G-Advanced Action Plan, setting the stage for a significant…
AIS จับมือ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.), กสทช., กรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมทีมวิศวกรเข้าดำเนินการจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าและนำลงใต้ดิน บริเวณถนนวิทยุ ตั้งแต่แยกวิทยุ ถึงแยกเพลินจิต ทั้งสองฝั่ง ตลอดแนวถนน การดำเนินงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของประชาชนและการลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ…
ในยุคที่ "Trumpism" กำลังเขย่าวงการโลกอีกครั้ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดเวทีเสวนา “Trump 2.0 วิกฤตหรือโอกาสของระบบ ววน. ไทย” เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบาย "America…