“แม็กซ์ StockRadars” ชี้ภาครัฐควรปรับบทบาท เร่งส่งเสริมสินทรัพย์ดิจิทัลก่อนเสียโอกาส

กระแสการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Cryptocurrency หรือ Digital Token เติบโตอย่างมากในปี 2564 นี้ ขณะเดียวกันก็ได้เห็นหน่วยงานภาครัฐออกมากำกับดูแลการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ทั้งการเตือนผู้ลงทุน รวมไปถึงการไม่สนับสนุนให้คนใช้จ่ายซื้อสินค้าด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล

–เปิด 10 เทคโนโลยี GIS มาแรงปี 2565 “กุญแจ” สู่การบริหารจัดการองค์กร
–เอไอเอส ประกาศ 5G ครอบคลุมสูงสุด พร้อมเปิดตัวโครงข่ายไฟเบอร์อัจฉริยะ รับมือความท้าทายปี 65

จนเกิดคำถามว่า ถ้าหน่วยงานกำกับดูแยังคงคุมเข้ม และปิดกั้นการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ จะทำให้ไทยเสียโอกาสไหม?

ธีระชาติ ก่อตระกูล CEO และผู้ก่อตั้ง StockRadars หรือ “แม็กซ์ StockRadars” กล่าวกับ Biztalk ว่า โลกการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมันใหม่มาก ปัจจุบันยังไม่มีใครรู้ว่ามันจะไปทิศทางไหน และไม่มีใครเห็นชัดเจนขนาดนั้น เพราะฉะนั้นการควบคุมสิ่งที่ยังมองไม่เห็นชัดเจนโดยการออกกฎเกณฑ์ คือการสร้างกรอบเอาไว้ก่อนที่มันจะเกิด ลักษณะนี้เหมือนกับการ ”แท้งก่อนเกิด” เพราะฉะนั้นทางที่ดีหน่วยงานรัฐควรจะคอยติดตามเป็นหลัก และเปลี่ยนบทบาทจากการกำกับดูแล ควบคุม เป็นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ เหมือนกับการเลี้ยงดูคนที่อยู่ในวัยรุ่น

“การให้ความรู้มันดีกว่าการบังคับว่าต้องไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ที่ผ่านมาเรารีบออกกฎเกณฑ์กันอย่างรวดเร็ว ถ้าเทียบกับระดับโลกถือว่าเร็วมาก ซึ่งความภูมิใจมันไม่ควรจะอยู่ตรงที่เราออกกฎเกณฑ์เร็วกว่า แต่มันควรจะอยู่ตรงที่เราส่งเสริมได้มากกว่า”

แม็กซ์ กล่าวต่อว่า การเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัล ทำให้เกิดโปรเจกต์ใหม่ๆ ของเด็กไทยรุ่นใหม่ที่ไปเติบโตในระดับโลก จะเห็นว่าเด็กรุ่นใหม่เก่งขึ้น มีโอกาสเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถ้ายังออกกฎเกณฑ์มาบังคับก็จะทำให้เกิดการควบคุม โอกาสที่คนไทยจะเติบโตก็ยากขึ้น

อีกส่วนหนึ่งคือ โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้ายังกำกับดูแลแบบเดิมในโลกใบใหม่ ก็จะมีแต่ความสับสนและยากมากในการปรับปรุงขอบเขต เพราะเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ได้สนใจว่าใครอยู่ประเทศอะไร เทคโนโลยีมันเปิดกว้างให้คนทั้งโลก

“บาทดิจิทัล” ช่วยดันคนเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล?

สำหรับ “บาทดิจิทัล” ที่คาดว่าจะเปิดให้ทดลองใช้ในปี 2565 นั้น จะช่วยให้คนไทยเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นหรือไม่ แม็กซ์ StockRadars ให้ความเห็นว่า ภาพใหญ่คนไทยน่าจะมีความคุ้นเคยกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นมหาศาล เพราะแบงก์ชาติเป็นตัวกลางทำ Digital Currency ของตัวเอง

สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ จะมี Use Case อีกมากมาย ต่อไปคนอาจจะไม่ต้องพกกระเป๋าเงิน เงินจะถูกย้ายไปเก็บอยู่ในสมาร์ทโฟน หรือ Cash Card แทน แต่ก็จะไม่ได้เร็วในระดับ Mass ซึ่งถ้าจะทำให้ Mass รัฐจะต้องช่วยกระตุ้นเช่นเดียวกับการทำโครงการคนละครึ่ง การจ่ายเงินผ่าน QR Code จนกลายเป็นเรื่องปกติของคนในประเทศ

“ถ้าประเทศไทยใช้โอกาสนี้ ให้คนเข้ามาใช้เงินดิจิทัลกันมากก็จะได้เปรียบ ทุกอย่างจะโปร่งใสมากขึ้น เช่น ถ้าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ใช้เงินดิจิทัลทั้งหมด เราจะสามารถตรวจสอบได้หมดว่าเงินไหลไปทางไหน ก็จะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้นทั้งประเทศ”

• Facebook
• X
• Line