ไฟเขียว รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านแอปฯ ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลขึ้นทะเบียนรถสาธารณะได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผย ที่ประชุม ครม. ไฟเขียว ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ประชาชนใช้รถยนต์ส่วนบุคคลขึ้นทะเบียนรถสาธารณะได้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (25พ.ค.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแล้ว ซึ่งจะทำให้ประชาชนที่มีรถยนต์ส่วนบุคคลและต้องการนำมาบริการโดยสารสาธารณะสามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นรถสาธารณะให้บริการผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชั่นอย่างถูกกฎหมายกับกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)ได้ ภายใต้ข้อกำหนด เช่น ตัวรถต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 9 ปี ,​ มีการทำประกันภัยเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองผู้โดยสาร , ติดเครื่องหมายแสดงการใช้แอปพลิเคชั่น

ส่วนคนขับรถ ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะ , ผ่านการตรวจประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ใช้แอปพลิเคชั่นของผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น ที่ผ่านการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก ขณะที่อัตราค่าโดยสารต้องไม่เกินอัตราของรถแท็กซี่ในปัจจุบัน และสามารถมีค่าบริการเพิ่มเติมกรณีอื่นได้ แต่ต้องไม่เกิน 200 บาท และ รัฐมนตรีจะเป็นผู้ประกาศกำหนดอัตราค่าโดยสาร

สำหรับผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น จะต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท มีสถานประกอบการในประเทศไทย มีความพร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง ไม่เคยถูกเพิกถอนการได้รับอนุญาตเป็นผู้ให้บริการระบบ GPS ตามกฎหมาย โดยแอปพลิเคชั่นที่จะนำมาใช้ จะต้องเป็นแอปฯ สำหรับเรียกใช้บริการรถยนต์รับจ้างฯ จะต้องมีระบบยืนยันตัวตนผู้ขับรถ เช่น Pin Code , แสกนใบหน้า หรือ ลายนิ้วมือ มีระบบคำนวณเส้นทาง ระยะเวลาและค่าโดยสารโดยประมาณ , มีระบบรับส่งข้อความ/ โทรศัพท์ กับผู้โดยสาร นอกจากนี้ ต้องมีระบบให้ผู้โดยสารสามารถลงทะเบียนผู้โดยสาร , ระบบเรียกใช้งานแบบทันทีและจองล่วงหน้า​, ระบบประเมินความพึงพอใจของผู้โดยสาร และ ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน

ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบกจะต้องออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข การรับรองผู้ให้บริการ และ แอปพลิเคชั่น ที่จะนำมาให้บริการ โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือรหลังจากกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้

ซึ่งตามขั้นตอนหากผ่าน ครม. เรื่องก็จะเสนอต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อเสนอเป็นกฎหมายก่อนออกประกาศให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งคาดว่าตามขั้นตอนน่าจะมีผลประกาศออกมามีผลบังคับใช้ไม่เกิน 30 วัน หลัง ครม.อนุมัติ และจะทำให้ผู้ที่มีรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีความประสงค์จะนำมาให้บริการโดยสารสาธารณะ นำรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายได้ที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.)ต่อไป

• Facebook
• X
• Line