Categories: FinanceNews Update

คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.75 ต่อปี

นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 คณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.75 ต่อปี ในการตัดสินนโยบาย คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มใกล้เคียงกับขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในระดับปัจจุบันมีส่วนช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ประกอบกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยในประเทศยังมีอยู่สูงในระยะข้างหน้า ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เพื่อรอประเมินผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ ให้ชัดเจนขึ้น

เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากการส่งออกสินค้าและการลงทุน  โดยการส่งออกสินค้าขยายตัวชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงผลของมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับด้านอุปสงค์ในประเทศ การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แต่ยังได้รับแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และการจ้างงานโดยรวมที่เริ่มทรงตัวและมีสัญญาณ

การชะลอลงของการจ้างงานในภาคการก่อสร้างและภาคการผลิตเพื่อส่งออก การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง อย่างไรก็ดี การย้ายฐานการผลิตมายังไทยและโครงการร่วมลงทุนของรัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยสนับสนุนการลงทุนในระยะต่อไป ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความล่าช้าของโครงการลงทุนภาครัฐ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะติดตามความเสี่ยงด้านต่างประเทศจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนและประเทศอุตสาหกรรมหลักที่จะส่งผลมาสู่อุปสงค์ในประเทศ รวมทั้งจะติดตามความไม่แน่นอนของปัจจัยในประเทศ รวมถึงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลใหม่และการใช้จ่ายภาครัฐ ตลอดจนความคืบหน้าของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและผลต่อเนื่องไปยังการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีมีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ โดยราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นจากการประชุมครั้งก่อน ช่วยชดเชยผลของราคาอาหารสดที่ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงจากภาวะภัยแล้งในระยะข้างหน้า สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง อาทิ ผลกระทบจากการขยายตัวของธุรกิจ e-commerce การแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น รวมถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีที่ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้ช้ากว่าในอดีต

ภาวะการเงินที่ผ่านมาอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ สภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำ ภาคเอกชนยังสามารถระดมทุนได้ต่อเนื่อง โดยสินเชื่อขยายตัวต่อเนื่องทั้งสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่ออุปโภคบริโภค ด้านอัตราแลกเปลี่ยน นับจากการประชุมครั้งก่อน เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ สรอ. โดยเคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินสกุลภูมิภาค ในระยะข้างหน้า อัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มผันผวนจากความไม่แน่นอนทั้งในและต่างประเทศ คณะกรรมการฯ จึงเห็นควรให้ติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด

ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสร้างความเปราะบางให้เสถียรภาพระบบการเงินได้ในอนาคต คณะกรรมการฯ เห็นว่ามาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินที่ได้ดำเนินการไปและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผ่านมาจะช่วยดูแลการสะสมความเปราะบางในระบบการเงินจากพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) ในภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ซึ่งอาจนำไปสู่การประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร (underpricing of risks) ได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังต้องติดตามการก่อหนี้ของภาคครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ การขยายสินทรัพย์และความเชื่อมโยงภายในของสหกรณ์ออมทรัพย์ การปรับตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ภายหลังการปรับปรุงเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) มีผลบังคับใช้ รวมถึงการก่อหนี้ของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่อาจประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร ทั้งนี้ การลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินในช่วงต่อไปยังจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลด้วยเครื่องมือที่หลากหลายทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสม มาตรการกำกับดูแลสถาบันการเงิน (microprudential) และมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน (macroprudential) ที่จะต้องให้ความสำคัญ
เพิ่มขึ้นกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้

มองไปข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้แรงส่งจากอุปสงค์ต่างประเทศชะลอลง คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายในปัจจุบันยังมีความเหมาะสม โดยจะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมในระยะต่อไป

BizTalk NEWS

Recent Posts

HMD เปิดตัวสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ “HMD CREST 5G” และ “HMD AURA2” ชูจุดเด่นสเปคคุ้มค่า ราคาเข้าถึงได้

HMD ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ได้แก่ HMD CREST 5G และ HMD AURA2 ที่มาพร้อมสเปคจัดเต็ม ในราคาที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้…

11 minutes ago

LINE ALERT ขยายบริการแจ้งเตือนค่าฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์ ครอบคลุมทั่วประเทศ

ท่ามกลางสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่ทวีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนชาวไทย LINE ประเทศไทย ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เข้าถึงผู้คนกว่า 56 ล้านรายทั่วประเทศ ได้ประกาศความร่วมมือกับกรมควบคุมมลพิษ ในการยกระดับบริการแจ้งเตือนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ผ่าน LINE ALERT Official…

15 minutes ago

Xiaomi 15 Series เตรียมเปิดตัวในไทย 3 มีนาคม 68 นี้

เสียวหมี่ประกาศวันเปิดตัวสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นใหม่ ‘Xiaomi 15 Series’ โดยเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลก (Global Launch) ในวันที่ 2 มีนาคม 2568 และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย (Thailand Launch) ในวันที่ 3 มีนาคม 2568 แฟนๆ เสียวหมี่และผู้ที่สนใจห้ามพลาด สำหรับสเปค Xiaomi 15 Ultra ที่ถูกเปิดเผยผ่าน gsmarena…

26 minutes ago

realme เปิดตัวสมาร์ทโฟนกล้องเทพ เซ็นเซอร์ใหญ่พิเศษที่ MWC 2025

เรียลมี (realme) เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพสุดล้ำที่งาน "Mobile World Congress 2025 (MWC 2025)" ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคม นี้ ณ กรุงบาร์เซโลนา…

3 hours ago

CENTEL เผยผลประกอบการปี 67 กำไรพุ่ง 40% ธุรกิจโรงแรมโกอินเตอร์ อาหารในประเทศแกร่ง

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ผู้ให้โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา "Centara" หรือ (CENTEL) เผยประกาศผลประกอบการปี 2567 ธุรกิจโรงแรมหรูโกอินเตอร์ ขยายฐานลูกค้าต่างชาติ อาหารไทยรสเลิศครองใจคนทั่วโลก ดันกำไรพุ่งทะยาน 40%…

3 hours ago

ผู้ว่าการรถไฟฯ เร่งแก้ปัญหาอุบัติเหตุ “ทางลักผ่าน” ลดบาดเจ็บ-สูญเสีย ปิดแล้ว 107 แห่ง

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับการแก้ปัญหาอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางรถไฟกับถนนที่เป็นทางลักผ่านนั้น การรถไฟฯ ได้เร่งรัดดำเนินการแก้ไขให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยทางลักผ่านมีจำนวนทั้งสิ้น 793 แห่ง ขณะนี้ดำเนินการปิดไปแล้ว 107 แห่ง คงเหลือ…

3 hours ago