ยุคสมัยนี้สมาร์ทโฟนคืออุปกรณ์ที่เราพกติดตัวไปใช้งานแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากเรื่องของประสิทธิภาพที่แรงและรองรับการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดแล้ว การได้เครื่องที่จะมาตอบโจทย์ในทุกๆ ไลฟ์สไตล์และสามารถทำงานได้ครบจบในเครื่องเดียวก็เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกสมาร์ทโฟนเพื่อให้ได้ความคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งหนึ่งในสมาร์ทโฟนเรือธงที่คุ้มค่ามากที่สุดรุ่นหนึ่ง คือ “Mi 10T Pro และ Mi 10T” และนี่คือ 4 เหตุผลที่จะบอกคุณว่าทำไมควรเลือก Mi 10T Pro และ Mi 10T เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องเก่งของคุณ
1. หมดปัญหาถ่ายภาพได้ไม่คมชัด ด้วยกล้องความละเอียดสูงระดับ 108 ล้านพิกเซล
เมื่อการถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอเก็บช่วงเวลาประทับใจเพื่อแชร์ลงโซเชียลกลายมาเป็นวิถีของผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน เชื่อว่าทุกๆ คนต้องเคยเจอปัญหาถ่ายภาพได้ไม่คมชัด จับโฟกัสช้าไม่ทันวินาทีที่ต้องการ จนถึงการถ่ายภาพในที่แสงน้อยที่เก็บรายละเอียดได้ไม่ครบ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อเลือกใช้สมาร์ทโฟนที่มากับเทคโนโลยีขั้นสูงที่รวมความสามารถของเซ็นเซอร์กล้องความละเอียดสูง และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้าไป
ทำให้ Mi 10T Series ได้เข้ามาแก้ปัญหาเหล่านั้น ด้วยการผสมผสานความสามารถของกล้องหลัก ความละเอียดสูงระดับ 108 ล้านพิกเซล f/1.69 เข้ามา ช่วยให้สามารถเก็บภาพที่ความละเอียดชัดเจน จนถึงการถ่ายภาพในที่แสงน้อย เมื่อทำงานร่วมกับ AI จะช่วยให้ภาพที่ได้คมชัด รวมถึงมีฟีเจอร์สนุกๆ เข้ามาให้ใช้งานอย่างการถ่ายภาพแบบ Long Exposure / AI Skyscaping 3.0 ในการใช้ AI แทนที่ท้องฟ้า พร้อมกันนี้ ยังมีเลนส์เพิ่มเติมอย่าง Ultra-Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ในการเก็บภาพมุมกว้าง เลนส์มาโคร 5 ล้านพิกเซล ช่วยถ่ายวัตถุขนาดเล็ก และเลนส์วัดระยะชัดลึก (Depth) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มาช่วยในการประมวลผล ส่วนหน้าให้ให้ความละเอียดมาถึง 20 ล้านพิกเซล ทำให้การถ่ายภาพเซลฟี่สวยๆ ได้ไม่ยาก
2. เล่นเกมหรือดูหนังได้ไม่สะดุด ด้วยหน่วยประมวลผลที่ทรงพลังและหน้าจอการแสดงผลที่คมชัด
การใช้งานสมาร์ทโฟนเพื่อเล่นเกมและความบันเทิงต่างๆ ได้กลายมาเป็นกิจวัตรประจำวันที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าถ้าเครื่องไม่แรงพอ เกมที่เล่นกระตุกหรือแสดงผลได้ไม่ลื่นไหล ก็จะทำให้ประสบการณ์ในการใช้งานไม่ดีเพียงพอ การมีหน่วยประมวลผลที่ทรงพลัง และการเชื่อมต่อที่รวดเร็วจะเข้ามาแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป ด้วยเหตุนี้ ทั้ง Mi 10T และ Mi 10 T Pro จึงเลือกนำชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon 865 ™ และมีหน่วยประมวลผลกราฟฟิก Adreno 650 หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR5 ขนาด 8GB และ 12GB หน่วยความจำภายใน (ROM) UFS3.1 ขนาด 128GB และ 256GB ซึ่งเป็นที่สุดของอุตสาหกรรมมาให้ใช้งานในกลุ่มแอนดรอยด์เรือธงเวลานี้
เมื่อตัวเครื่องแรง เล่นเกมได้ลื่นไหลแล้ว อีกปัจจัยที่มีผลอย่างมากในการใช้งานสมาร์ทโฟนคือหน้าจอ
ในสมาร์ทโฟน Mi 10T Series ที่มีจอแสดงผลขนาด 6.67 นิ้ว ซึ่งนอกจากความละเอียดหน้าจอที่เป็นแบบ Full HD+ 2400 x 1080 พิกเซล ที่รองรับอัตราการแสดงผล (Refresh Rate) สูงสุดที่ 144Hz รองรับขอบเขตสี DCI-P3 98% ให้ความสว่างหน้าจอสูงสุด 650 nits ทำให้ใช้งานได้ในทุกสภาพแสงแล้ว เครื่องรุ่นนี้ยังมากับการแสดงผลแบบ AdaptiveSync ที่ปรับการแสดงผลหน้าจอให้สัมพันธ์กับคอนเทนต์ ได้ถึง 7 ระดับ ตั้งแต่ 30Hz ไปจนถึง 144Hz ดังนั้น ไม่ว่าใช้งานอีบุ๊ก สตรีมวิดีโอ เล่นเกม จนถึงไถฟีดโซเชียลมีเดีย ก็จะได้การแสดงผลที่ให้รายละเอียดคมชัดมากที่สุด
3. ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
เมื่อใช้งานไหลลื่นดีทุกอย่าง แต่จะมาสะดุดเพราะแบตหมดเร็วก็คงไม่ใช้สมาร์ทโฟนในฝันของใครหลายๆ คนแน่ๆ ดังนั้นแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งปัจจัยที่ทำให้ Mi 10T Series โดดเด่นเช่นกัน เพราะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ทำให้รองรับการใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดวัน แม้จะใช้งานหนักแค่ไหนก็ตาม และในกรณีที่ต้องการชาร์จแบตเตอรี่ ด้วยเทคโนโลยี MMT (Middle Middle Tab) และกระบวนการชาร์จเร็วแบบมีสาย 33W อันรวดเร็วที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ทำให้สะดวกยิ่งขึ้น ทำให้สามารถชาร์ตแบตเตอรี่จนเต็มได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง และที่สำคัญแถมอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W มาให้ในกล่องด้วย
4. คุ้มค่าที่สุดในสมาร์ทโฟนระดับสเปคเรือธง
ถ้าดูถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทำมาใช้งานใน Mi 10T Series ข้างต้นแล้วต่างเป็นเทคโนโลยีระดับสูงที่หลายแบรนด์มักจะเลือกใช้งานกับเครื่องระดับไฮเอนด์ที่มีราคาสูง ซึ่งแน่นอนว่าด้วยวิสัยทัศน์ของเสียวหมี่ ที่ต้องการให้ผู้บริโภคทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีในราคาที่จับต้องได้ทำให้ Mi 10T Series ราคาเริ่มต้นที่ 12,990 บาท เท่านั้น จึงกลายเป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากที่สุดในช่วงระดับราคานี้ก็ว่าได้