Accenture Life Trends 2025 ชี้ “ความเชื่อมั่น” เป็นหัวใจหลัก ธุรกิจต้องปรับตัวรับมือพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล

Accenture Life Trends 2025 ชี้ “ความเชื่อมั่น” เป็นหัวใจหลัก ธุรกิจต้องปรับตัวรับมือพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดด พฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รายงาน Accenture Life Trends 2025 ฉบับล่าสุด โดย เอคเซนเชอร์ (NYSE: ACN) เผยให้เห็นถึง 5 เทรนด์สำคัญที่จะกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคในปี 2025 โดยมี “ความเชื่อมั่น ไว้วางใจ” เป็นหัวใจสำคัญที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ

1: ความลังเลมีต้นทุน (The Cost of Hesitation)

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Generative AI แม้จะนำมาซึ่งความสะดวกสบาย แต่ก็ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสาร ผู้คนเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่เห็นและได้ยินบนโลกออนไลน์มากขึ้น งานวิจัยของเอคเซนเชอร์ระบุว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริโภค เกิดความลังเลใจ และตั้งคำถามกับความถูกต้องของเนื้อหาออนไลน์

“Deepfake” กลายเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ โดย 33% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่าเคยตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงด้วยเทคโนโลยีนี้ในปีที่ผ่านมา ความลังเลใจ และความไม่ไว้วางใจ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้า และการมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์

สิ่งที่ธุรกิจควรทำ: สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ด้วยการสื่อสารที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา เน้นย้ำถึงความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยของสินค้าและบริการ รวมถึงการใช้เทคโนโลยี เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล และป้องกันการปลอมแปลง

2: ผู้ปกครองหัวหมุน (The Parenting Paradox)

พ่อแม่ผู้ปกครองในยุคดิจิทัล ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ ในการสร้างสมดุล ระหว่างการส่งเสริมให้บุตรหลาน ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี กับการปกป้องพวกเขา จากภัยอันตราย ที่แฝงตัวอยู่บนโลกออนไลน์

ผลสำรวจพบว่า คนรุ่นใหม่ มีแนวโน้มที่จะได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดีย ในการสร้างอัตลักษณ์ และตัวตน มากกว่าคนรุ่นก่อน ขณะเดียวกัน คน Gen Z และ Millennials จำนวนมาก ยอมรับว่าพวกเขาใช้เวลากับโลกออนไลน์มากเกินไป

สิ่งที่ธุรกิจควรทำ: ร่วมมือกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ในการสร้างสรรค์สื่อและเครื่องมือ ที่ช่วยให้เด็กและเยาวชน ใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย และมีความรับผิดชอบ รวมถึงสนับสนุนการสร้างพื้นที่ปลอดภัยบนโลกออนไลน์สำหรับเด็กและเยาวชน

3: เศรษฐกิจไร้ความอดทน (The Impatient Economy)

ในยุคที่ทุกอย่าง รวดเร็ว ทันใจ ผู้บริโภคคาดหวังให้แบรนด์ตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้อย่างทันท่วงที พวกเขาต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และเข้าถึงได้ง่าย

ผู้บริโภคพร้อมที่จะ “เปลี่ยนใจ” ไปหาแบรนด์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่า

สิ่งที่ธุรกิจควรทำ: ปรับตัวให้ “เร็ว” และ “คล่องตัว” มากขึ้น นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และตอบสนองความต้องการของลูกค้า แบบเรียลไทม์

4: ความภาคภูมิในงาน (The Proud Work)

การนำ Generative AI มาใช้ในที่ทำงาน แม้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และคุณภาพของงาน แต่ก็ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในอาชีพ และบทบาทของมนุษย์ ในอนาคต

สิ่งที่ธุรกิจควรทำ: ส่งเสริม และสนับสนุนให้พนักงานพัฒนาทักษะและความสามารถ ใหม่ๆ เพื่อให้ “อยู่รอด” และ “เติบโต” ในยุค AI รวมถึงสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่ให้ความสำคัญกับ “คุณค่า” และ “ศักดิ์ศรี” ของ “มนุษย์”

5: ฟื้นคืนสังคม (The Rekindled Society)

ผู้คน เริ่ม “โหยหา” การเชื่อมต่อกับโลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้นหลังจาก “จมอยู่” กับโลกดิจิทัลมาเป็นเวลานาน พวกเขามองหาประสบการณ์ที่ “แท้จริง” “ลึกซึ้ง” และ “มีความหมาย”

สิ่งที่ธุรกิจควรทำ: สร้างสรรค์ประสบการณ์ แบบ O2O (Online to Offline) ที่ผสมผสาน โลกดิจิทัล และโลกแห่งความเป็นจริง เข้าด้วยกัน อย่างลงตัว เพื่อตอบสนองความต้องการ ของผู้บริโภค ยุคใหม่

บทสรุป:

รายงาน Accenture Life Trends 2025 สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ในพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัล “ความเชื่อมั่น ไว้วางใจ” กลายเป็น “กุญแจสำคัญ” ที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าและประสบความสำเร็จในระยะยาว

สุนาถ ธนสารอักษร กรรมการผู้จัดการ Accenture Song (ประเทศไทย) กล่าวว่า “คนไทยกำลังทบทวนเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเทคโนโลยี โดยประเมินว่า การใช้โซเชียลมีเดีย มีผลต่อการสร้างตัวตนของพวกเขาอย่างไร จึงเลือกที่จะถอยห่าง หรือ ไม่เชื่อมต่อกับโซเชียล แต่ไปมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจริงๆ มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนเลือกที่จะมีความสุขโดยไม่ต้องตามเทรนด์ หรือกระแสทางโซเชียล (JOMO หรือ Joy of Missing Out) กันมากขึ้น เมื่อค้นพบว่า ยิ่งห่างออกจากการตามโซเชียลตลอดเวลาจะยิ่งช่วยให้ พัฒนาความสัมพันธ์ที่จริงใจและลึกซึ้งได้ คนไทยนั้นให้ค่ากับเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มผลผลิตหรือประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาสายสัมพันธ์ที่มีความหมายในแบบที่ต้องพบเจอหน้ากัน หรือแม้แต่ในพื้นที่ออฟไลน์ สิ่งนี้สร้างโอกาสที่ดีสำหรับแบรนด์ในการสร้างประสบการณ์ที่ชัดเจนและเสริมพลังให้ผู้คน ตอบโจทย์ความคาดหวังต่างๆ เหล่านี้ สร้างความเชื่อมั่นไว้ใจและพัฒนาสายสัมพันธ์กับลูกค้าให้แข็งแกร่งมากขึ้น ต่อยอดสู่การเติบโตได้ในอนาคต”

LifeTrends2025 #ความเชื่อมั่น #เทรนด์ผู้บริโภค #Accenture #เอคเซนเชอร์ #GenAI #JOMO

เจาะ 8 ทักษะ พนักงานบริษัทต้องมี ในปี 2025 หากไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

Scroll to Top