Categories: News UpdateStartUp

ADA แนะธุรกิจไทยใช้ Data เจาะตลาดถูกวิธี รับมือการทำธุรกิจยุค Digital Transformation

ทุกวันนี้ แนวคิดการตลาดที่เรียกว่า “data-driven marketing” หรือ “การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้า” ไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ที่แค่ผ่านมาแล้วผ่านไปเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีการตลาดที่เกิดขึ้นจริงแล้วในปัจจุบัน และยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่จะช่วยให้นักการตลาดได้เข้าใจ ข้อมูลเชิงลึกและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่า การนำมาข้อมูล (data) มาใช้นั้นสามารถช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับแผนการตลาดได้อย่างมหาศาล ไม่เพียงแบรนด์สามารถขายของได้มากขึ้น ผู้บริโภคเองก็ยังได้รับบริการหรือมีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์ในทางที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งในอนาคตต่อไป แนวคิดการทำตลาดเช่นนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกแบรนด์ต้องทำในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้เกิดความสำเร็จสูงสุด

นายศุภกิตติ์ ลิ้มบุญทรง ผู้อำนวยการบริหาร เอดีเอ ประเทศไทย บริษัทโฆษณาดิจิทัลครบวงจร ในเครือเอเชียต้า กรุ๊ป จากประเทศมาเลเซีย ระบุว่า สำหรับประเทศไทย ธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่งได้เริ่มปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด และหันมาใช้ดาต้ากันมากกว่า 80% แล้ว แต่ส่วนใหญ่ยังใช้ดาต้าได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจากประสบการณ์การทำงานกับลูกค้าที่ผ่านมา การใช้ดาต้ามาช่วยในการวิเคราะห์หาแผนการตลาดที่เหมาะสมนั้น สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญการตลาดได้มากกว่า 3 เท่าตัว นั่นหมายความว่า ธุรกิจสามารถประหยัดงบประมาณในการซื้อโฆษณาได้ถึง 1 ใน 3 หรือมากกว่านั้นเลยทีเดียว

อีกทั้งปัจจุบันเรากำลังมุ่งไปสู่การทำการตลาดแบบ 1 ต่อ 1 ซึ่งเป็นการสื่อสารแบบเฉพาะสำหรับลูกค้าแต่ละคน ดังนั้นดาต้าจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก แต่การจะใช้ดาต้าให้เกิดประโยชน์ได้นั้น นักการตลาดจะต้องอาศัยการวิเคราะห์อย่างแม่นยำ เพื่อเปลี่ยนดาต้าให้กลายมาเป็นข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคซึ่งต้องคอยเฝ้าสังเกตติดตามพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด นำมาประกอบกับเทรนต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้นๆ ดาต้าจึงจะกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังได้ เพราะจะช่วยให้แบรนด์เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง และสามารถตอบสนองในสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ที่การแข่งขันแย่งชิงลูกค้ามีแต่จะยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น เพราะฉะนั้น ใครเริ่มก่อนย่อมได้เปรียบ

นายศุภกิตติ์ กล่าวเสริมอีกว่า ปัจจุบันการเข้าถึงดาต้าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับธุรกิจไทยอีกต่อไปเพราะมีเครื่องมือให้เลือกใช้มากมาย อีกทั้งยังมีผู้ให้บริการหรือเอเจนซี่คอยให้คำปรึกษาอยู่มากมายในตลาด แต่การจะนำดาต้ามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หรือก่อให้เกิดอัตราส่วนผลตอบแทนจากการลุทุนตามที่ต้องการได้นั้น ต้องมีปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน ได้แก่

1. ต้องมีการบริหารจัดการดาต้าที่ดี เพราะดาต้ามีอยู่อย่างมหาศาล แบรนด์ต้องมีผู้ช่วยในการเก็บข้อมูล หรือมีเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยในการจัดเก็บ และสามารถดึงข้อมูลที่ต้องการออกมาใช้ในเวลาที่ต้องการได้ด้วย ดาต้าเหล่านี้ จะทำให้แบรนด์ได้รู้ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เกิดขึ้นของผู้บริโภค รู้ว่าผู้บริโภคเป็นใคร ทำอะไรกันบ้าง รับข้อมูลข่าวสารทางช่องทางไหน ปัจจุบัน บางบริษัทยังไม่เริ่มเก็บข้อมูล บางบริษัทมีการเก็บข้อมูลแล้วแต่ไม่เคยนำมาใช้ ซึ่งล้วนแต่เป็นการเสียโอกาส

2. มีการทำ data analytics หรือการนำข้อมูลไปวิเคราะห์เชิงลึกต่อโดยผู้เชี่ยวชาญ เมื่อเราได้ดาต้า หรือข้อมูลมากองรวมกันแล้ว ขั้นต่อไปจะเป็นการตีความหาความหมายของข้อมูลนั้นๆ เพราะการที่มีข้อมูลเยอะไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จได้ แต่นักการตลาดจะต้องสามารถกรองเอาแต่เฉพาะดาต้า ที่จำเป็นเพื่อมาใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ ต้องทำความเข้าใจความหมายของข้อมูลแต่ละชุดว่ากำลังบอกอะไรกับเราบ้าง การวิเคราะห์ที่เจาะลึกจะทำให้เราได้ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภค หรือลูกค้า ที่เรียกว่า “insight” หรือคำตอบว่า สิ่งที่ผู้บริโภคทำไปนั้น มีเหตุจูงใจอะไร ทำอย่างนั้นไปทำไม ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะแบรนด์จะได้ทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของลูกค้า เพื่อจะได้วางกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้องตรงจุด เป็นการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้า และต่อยอดเป็นการสร้างฐานลูกค้าเพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในระยะยาวได้อีกด้วย

3. เปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกและดาต้าที่มีให้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบโจทย์ธุรกิจ เป็นขั้นที่ต้องอาศัยการประสานงานกันระหว่างฝ่ายการตลาด มีเดียและฝ่ายครีเอทีฟ เพื่อที่จะหากลยุทธ์มาสร้างความมีส่วนร่วม หรือดึงความสนใจลูกค้า โดยผลลัพธ์ปลายทางต้องตอบโจทย์เรื่อง ROI หรือผลตอบแทนจากการลงทุนของบริษัทได้ ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในวงการการตลาดให้ความสำคัญกับการทำคอนเทนต์เป็นอย่างมาก แต่มาถึงยุคนี้ แบรนด์เริ่มหันมามองและทำความเข้าใจตนเองใหม่ว่า จุดประสงค์หลักของการทำธุรกิจ ไม่ใช่การผลิตคอนเทนต์ที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่การที่จะทำให้บริษัทอยู่รอดได้นั้น เป็นการสร้างคอนเท้นต์ที่มาช่วยขายสินค้า และบริการให้ได้ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการทำธุรกิจ ดังนั้น data เป็นส่วนสำคัญในการคิดแคมเปญ และแคมเปญต้องตอบโจทย์เรื่องยอดขายและผลตอบแทนต่อการลงทุน

สำหรับภาพรวมของธุรกิจไทยเรื่องการใช้ดาต้านั้น ยังถือว่าอยู่ในช่วงกำลังปรับตัว ยังไม่ถึงจุดที่มีการใช้ดาต้าอย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกภาคส่วน ซึ่งในอนาคตถ้าธุรกิจไทยสามารถใช้ดาต้าที่มีอยู่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณในการซื้อสื่อโฆษณาได้หลายพันล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว

เอดีเอเป็นเอเจนซี่รุ่นใหม่แห่งอนาคต ผู้นำด้าน data-driven marketing ให้บริการในหลายมิติครอบคลุมทั้งส่วนงานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีดาต้า ที่ปรึกษาการตลาด และเอเจนซี่โฆษณา ตอบโจทย์เรื่อง ผลตอบแทนจากการลงทุนสำหรับลูกค้าในยุคของการขับเคลื่อนด้วยดาต้าเชื่อว่าโมเดลธุรกิจของเอดีเอจะเป็นที่สนใจของตลาด เพราะเป็นแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยมูลค่า (value-driven) ของผลลัพธ์ทางธุรกิจต่อไป

BizTalk NEWS

Recent Posts

ฮอนด้า ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง “โคจิ อิวานามิ” นั่งแท่น CEO คนใหม่ มุ่งยกระดับประสบการณ์ลูกค้าทุกมิติ

ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประกาศแต่งตั้ง โคจิ อิวานามิ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ อย่างเป็นทางการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป การเข้ารับตำแหน่งของนายอิวานามิ ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์รอบด้านทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนายนตรกรรม รวมถึงการพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับคุณค่าหลักของแบรนด์ฮอนด้าให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น ภายใต้การนำทัพของนายอิวานามิ…

2 hours ago

Xiaomi ส่ง Redmi Pad Pro 5G จอใหญ่ 12.1 นิ้ว พร้อม 5G ราคาเร้าใจ เริ่มต้น 13,990 บาท แถมฟรีคีย์บอร์ด

เสียวหมี่ ประเทศไทย เปิดตัวแท็บเล็ตสุดคุ้มค่า Redmi Pad Pro 5G ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา 12.1 นิ้ว ความละเอียด 2.5K พร้อมอัตรารีเฟรช 120Hz มอบประสบการณ์การรับชมที่คมชัดและลื่นไหล ตอบโจทย์ทุกความบันเทิงและการทำงานได้อย่างลงตัว จุดเด่นของ Redmi Pad Pro 5G ไม่ได้มีแค่หน้าจอใหญ่สะใจ แต่ยังมาพร้อมการเชื่อมต่อ 5G ให้คุณออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่มีสะดุด เสริมพลังด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® 7s…

2 hours ago

Green Business ของไทยจะขึ้นเบอร์หนึ่งอาเซียน ใน 5 ปี

การสร้างตัวตนของประเทศไทยในระดับโลก เป็นสิ่งที่คนไทยทำมาตลอด 50 ปี ไม่ว่าจะเป็น ดินแดนแห่งรอยยิ้ม ครัวไทยสู่ครัวโลก ฯลฯ และมันส่งผลต่อวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเราในปัจจุบันอย่างยิ่ง ที่สำคัญอานิสงส์ที่ส่งตรงต่อธุรกิจต่างๆ ที่รองรับตัวตนของประเทศนั้นมหาศาลเหลือเกิน จนเราปฏิเสธไม่ได้ว่าการสร้างตัวตนที่ชัดเจนต่อสายตาชาวโลกนั้นเป็นมรดกตกทอดไปสู่คนยุคใหม่ๆ อย่างน้อยช่วงหนึ่งอายุคนกันเลยทีเดียว “ประเทศไทยจะเป็นผู้นำทางด้าน Green…

17 hours ago

“Durian Decadent Afternoon Tea” มิติใหม่แห่งความหอมหวาน เอาใจสายทุเรียน ณ โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท

โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท ขานรับเทรนด์ Gastronomy Tourism ที่กำลังเติบโตในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ผนึกกำลัง Toby’s Farm สวนทุเรียนพรีเมียมจากจันทบุรี เปิดตัวแคมเปญสุดพิเศษ “Durian Decadent…

21 hours ago

CANON เขย่าตลาดเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ล่าสุด imagePROGRAF TC-21 และ TC-21M ในงานสถาปนิก’68

แคนนอน (CANON) เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องพิมพ์หน้ากว้างแบบตั้งโต๊ะรุ่นใหม่ล่าสุดถึง 2 รุ่น ได้แก่ imagePROGRAF TC-21 และ imagePROGRAF TC-21M ในงานสถาปนิก 68 (ASA Architect'25)…

21 hours ago

BBIK อนุมัติจ่ายปันผล 0.22 บ./หุ้น เตรียมย้ายเข้า SET ภายในปีนี้

บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) เผยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.22 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 30 เมษายน 2568…

21 hours ago

This website uses cookies.