เจาะลึกภัยเงียบ “บัญชีม้าคริปโต” อาชญากรรมดิจิทัลที่กัดกร่อนเศรษฐกิจไทย BINANCE เผย 5 สัญญาณเสี่ยงตกเป็นเหยื่อ

เจาะลึกภัยเงียบ "บัญชีม้าคริปโต" อาชญากรรมดิจิทัลที่กัดกร่อนเศรษฐกิจไทย BINANCE เผย 5 สัญญาณเสี่ยงตกเป็นเหยื่อ

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวัน การทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์กลายเป็นเรื่องที่สะดวกและรวดเร็ว แต่ในอีกด้านหนึ่ง อาชญากรรมทางไซเบอร์ก็มีวิวัฒนาการตามมาอย่างไม่หยุดยั้ง หนึ่งในภัยคุกคามที่น่าจับตาและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ คือ “บัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัล” ซึ่งเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวกว่าที่หลายคนคิด และกำลังสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

เมื่อได้รับข้อความเชิญชวนให้ “เปิดบัญชีคริปโต รับเงินง่ายๆ” หรือ โฆษณาในโซเชียลมีเดียที่จูงใจว่า “แค่ให้ยืมบัญชี รับเงินทันที 5,000 บาท” ข้อความประเภทนี้ ไม่ใช่แค่ข้อความหลอกลวงธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาใหญ่ที่กำลังกัดกร่อนเศรษฐกิจไทย นั่นคือ “บัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัล” ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน การโกงหลอกลวง และอาชญากรรมข้ามชาติ บทความนี้จะเจาะลึกถึงภัยเงียบที่เรียกว่า “บัญชีม้าคริปโต” ว่าคืออะไร ทำไมถึงอันตราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงคำแนะนำสำหรับประชาชนในการป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อหรือเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการเหล่านี้โดยไม่รู้ตัว

“บัญชีม้าคริปโต” ภัยร้ายใกล้ตัวที่ต้องรู้

“บัญชีม้าคริปโต” คืออะไร? คำถามนี้อาจเกิดขึ้นในใจของใครหลายคน บัญชีม้าคริปโต หมายถึง บัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่เจ้าของบัญชีอนุญาตให้ผู้อื่นนำไปใช้ทำธุรกรรมแทน โดยได้รับค่าตอบแทนเล็กน้อยเป็นสิ่งจูงใจ เช่น 2,000-5,000 บาท ตัวเลขเหล่านี้อาจดูเหมือนจำนวนเงินที่ไม่มากนักสำหรับใครบางคน แต่ผลกระทบที่ตามมานั้นกลับมหาศาลเกินกว่าจะประเมินได้  

รู้หรือไม่ว่า บัญชีม้าเหล่านี้มักถูกนำไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายต่างๆ มากมาย ซึ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง ได้แก่:

  • การฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด: ขบวนการค้ายาเสพติดมักใช้บัญชีม้าคริปโตในการเปลี่ยนถ่ายเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อปกปิดแหล่งที่มาของเงินและหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่
  • การโอนเงินจากการหลอกลวงออนไลน์: กลุ่มมิจฉาชีพที่ทำการหลอกลวงออนไลน์ เช่น การหลอกให้ลงทุนในโครงการที่ไม่มีอยู่จริง หรือการหลอกให้โอนเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน มักใช้บัญชีม้าคริปโตในการรับและโอนเงินที่ได้จากการหลอกลวง เพื่อให้ยากต่อการติดตามและจับกุม
  • การสนับสนุนเครือข่ายพนันผิดกฎหมาย: การพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความเสียหายให้กับสังคม กลุ่มผู้จัดให้มีการพนันออนไลน์มักใช้บัญชีม้าคริปโตในการรับและจ่ายเงินเดิมพัน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจพบจากเจ้าหน้าที่
  • การหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ: ในบางกรณี บัญชีม้าคริปโตอาจถูกนำไปใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เงินผิดกฎหมายเหล่านี้มีมูลค่ามหาศาล เมื่อหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ ยังบั่นทอนความน่าเชื่อถือของระบบการเงินและเศรษฐกิจโดยรวม ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาของนักลงทุนและนานาชาติ  

ภาพ : ธนาคารแห่งประเทศไทย

หน่วยงานรัฐผนึกกำลังกวาดล้างครั้งใหญ่ ปราบปรามอาชญากรรมดิจิทัล

เพื่อแก้ไขปัญหาบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ร่วมมือกับสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) และผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ประกาศยกระดับมาตรการกวาดล้างบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งใหญ่  

ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อสกัดกั้น:

  • การหลอกลวงลงทุน: ป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีอยู่จริง หรือโครงการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงเกินจริง
  • การฟอกเงิน: ป้องกันไม่ให้บัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย
  • อาชญากรรมทางเทคโนโลยี: ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล

มาตรการใหม่นี้จะเริ่มบังคับใช้อย่างจริงจังในเดือนมีนาคมนี้ โดยจะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล  

ความร่วมมือระดับภูมิภาค ต้านภัยอาชญากรรมข้ามชาติ

ปัญหาบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ ความร่วมมือในระดับภูมิภาคและนานาชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ล่าสุด BINANCE ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีชั้นนำของโลก ได้ร่วมกับ BINANCE TH by Gulf Binance จัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านกฎหมายระดับภูมิภาคเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและพัฒนาทักษะในการรับมือกับอาชญากรรมทางดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล  

การอบรมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเข้าร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนต่อต้านอาชญากรรมทางการเงิน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล  

นายยาเร็ก ยาคุบเช็ค (Jarek Jakubcek) หัวหน้าฝ่ายฝึกอบรมหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของ BINANCE ให้ข้อมูลว่า อาชญากรรมไซเบอร์มีหลากหลายรูปแบบ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นจากการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งแนวโน้มการใช้คริปโต หรือบิตคอยน์เป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนและฟอกเงินของอาชญากรรมก็เพิ่มสูงขึ้นตามแนวโน้มการปรับใช้และยอมรับคริปโตด้วยเช่นกัน  

นายยาเร็ก ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการร้องขอข้อมูล (Data Request) เกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าสงสัยที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีจากทั่วโลกมากถึง 65,000 ครั้ง ขณะที่ในประเทศไทยมีการร้องขอข้อมูลมากกว่า 1,000 ครั้ง โดยการร้องขอข้อมูลนี้ครอบคลุมหลายกรณี  

เขาย้ำชัดว่า ปริมาณการร้องขอข้อมูลไม่ได้สัมพันธ์กับจำนวนคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตโดยตรง แต่สะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานรัฐของไทยให้ความสำคัญและตื่นตัวกับอาชญากรรมทางดิจิทัลมากขึ้น เจ้าหน้าที่มีความกระตือรือร้นที่ต้องการขยายผลการสืบสวนให้ละเอียดยิ่งขึ้น  

“Binance เราตระหนักดีว่าการรักษาความปลอดภัยสภาพแวดล้อมดิจิทัลนั้นเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อได้รับความร่วมมืออย่างเหนียวแน่นจากภาครัฐและเอกชน และเรามุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อจะอำนวยความสะดวกและผลักดันความพยายามดังกล่าว ให้เห็นถึงความร่วมมือและความมุ่งมั่นในวงกว้างที่จำเป็นต่อการแสวงหาความยุติธรรมในพื้นที่ดิจิทัล และเราหวังว่าจะรักษาโมเมนตัมนี้ต่อไป” นายยาเร็ก กล่าว  

5 สัญญาณเตือนภัย เสี่ยงตกเป็นเหยื่อ “บัญชีม้าคริปโต”

การป้องกันตนเองจากภัยคุกคามของบัญชีม้าคริปโตเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักรู้ โดยมีสัญญาณเตือนภัย 5 ประการที่คุณควรระวังเป็นพิเศษ ได้แก่:

  1. มีคนติดต่อมาชวนให้เปิดบัญชีคริปโทเพื่อรับเงินง่ายๆ: หากมีบุคคลที่ไม่รู้จักติดต่อมาชักชวนให้คุณเปิดบัญชีคริปโท โดยอ้างว่าจะได้รับเงินง่ายๆ หรือผลตอบแทนสูงๆ ให้พึงระลึกไว้ว่านี่อาจเป็นกลลวงของมิจฉาชีพ  
  2. ขอให้คุณยืมบัญชีที่มีอยู่แล้ว โดยอ้างว่าบัญชีตัวเองมีปัญหา: การให้บุคคลอื่นยืมบัญชีของคุณ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคารหรือบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล มีความเสี่ยงสูงที่คุณจะถูกนำบัญชีไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย  
  3. เสนอค่าตอบแทนสูงผิดปกติสำหรับงานที่ดูง่ายมาก: หากมีข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง เช่น งานที่ดูเหมือนจะง่ายมากแต่ได้รับค่าตอบแทนสูงผิดปกติ ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าอาจเป็นกลลวง
  4. ขอข้อมูลส่วนตัว เช่น รหัสผ่าน หรือรหัส OTP: ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงิน เช่น รหัสผ่าน หรือรหัส OTP (One-Time Password) ให้กับบุคคลอื่นโดยเด็ดขาด  
  5. กดดันให้ตัดสินใจเร็วๆ บอกว่าเป็นโอกาสที่มีจำกัด: มิจฉาชีพมักใช้กลยุทธ์ในการกดดันให้เหยื่อตัดสินใจอย่างรวดเร็ว โดยอ้างว่าเป็น “โอกาสทอง” หรือ “มีจำนวนจำกัด” เพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ  

หากพบเจอสถานการณ์เหล่านี้ ให้ตระหนักได้ทันทีว่าอาจกำลังถูกชักชวนให้เป็น “บัญชีม้า” และควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด  

หากถูกชักชวนให้เป็น “บัญชีม้า” ควรทำอย่างไร?

หากถูกชักชวนให้เป็นบัญชีม้า สิ่งที่ควรทำทันที คือ:

  • ปฏิเสธทันที: ไม่ว่าข้อเสนอจะดูน่าสนใจหรือมีผลตอบแทนสูงเพียงใด จงปฏิเสธข้อเสนอนั้นทันที จำไว้เสมอว่าไม่มีเงินได้มาง่ายๆ โดยไม่มีความเสี่ยง  
  • ตัดการติดต่อ: ตัดการติดต่อกับบุคคลที่ชักชวนคุณ และบล็อกช่องทางการติดต่อของบุคคลนั้น หากจำเป็น เพื่อไม่ให้ถูกติดตามหรือชักชวนอีก  
  • รายงานต่อเจ้าหน้าที่: หากคุณสงสัยว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย  

คำแนะนำในการป้องกันตนเองจาก “บัญชีม้าคริปโต”

เพื่อป้องกันไม่ให้คุณตกเป็นเหยื่อหรือเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการบัญชีม้าคริปโตโดยไม่รู้ตัว โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้:

  • ใช้บัญชีของคุณเพื่อทำธุรกรรมของคุณเองเท่านั้น: ไม่ว่าจะเป็นบัญชีธนาคารหรือบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล ห้ามให้บุคคลอื่นใช้บัญชีของคุณทำธุรกรรมแทนโดยเด็ดขาด  
  • ศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล: ก่อนที่จะลงทุนหรือทำธุรกรรมใดๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดรอบคอบ  
  • ระมัดระวังข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง โดยเฉพาะจากคนที่คุณไม่รู้จักดีพอ: หากมีข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง หรือมาจากบุคคลที่คุณไม่รู้จักหรือไว้ใจได้ ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ และอย่าหลงเชื่อโดยง่าย  
  • เก็บรักษาข้อมูลส่วนตัว และรหัสผ่านของคุณให้ปลอดภัย ไม่แชร์กับผู้อื่น: ข้อมูลส่วนตัวและรหัสผ่านเป็นข้อมูลสำคัญที่คุณต้องเก็บรักษาไว้เป็นความลับ ห้ามเปิดเผยหรือแชร์ให้กับบุคคลอื่นโดยเด็ดขาด  
  • หากต้องการรายได้เสริม เลือกช่องทางที่ถูกกฎหมายและโปร่งใส: หากคุณต้องการหารายได้เสริม ควรเลือกช่องทางที่ถูกกฎหมายและโปร่งใส ตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดของงานให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจทำ  

บทสรุป: รู้ทันกลโกง ป้องกันตนเองจากภัย “บัญชีม้าคริปโต”

ในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โอกาสทางการเงินมีมากมาย แต่ความเสี่ยงก็มีเช่นกัน การเป็นบัญชีม้าอาจดูเหมือนเป็นทางลัดสู่รายได้ก้อนโต แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจเป็นทางลัดสู่คุกที่อาจทำลายอนาคตของคุณได้ตลอดไป  

จงตระหนักถึงความเสี่ยง ศึกษาข้อมูลให้เข้าใจ และปกป้องตนเองจากการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีเงินก้อนใดคุ้มค่ากับอิสรภาพและอนาคตของคุณ  

รู้ไว้ ก่อนตกเป็นเหยื่อหรือกลายเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการทำลายเศรษฐกิจชาติโดยไม่รู้ตัว!

AIS จับมือ Gulf Binance ให้ลูกค้ารายเดือน เปิดบัญชีคริปโตฯ รับเหรียญ BNB มูลค่า 150 บาท

-ก.ล.ต.-ผู้ประกอบธุรกิจคริปโต เข้มกวาดล้างบัญชีม้า มี.ค.นี้

Scroll to Top