Dyson Zone เฮดโฟนตัดเสียงรบกวนตัวแรกจาก Dyson เปิดพรีออเดอร์ในไทยแล้ว เริ่มต้น 28,900 บาท

Dyson Zone เฮดโฟนตัดเสียงรบกวนตัวแรกจาก Dyson เปิดพรีออเดอร์ในไทยแล้ว เริ่มต้น 28,900 บาท

Dyson เตรียมสร้างปรากฎการณ์ที่ล้ำไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ Dyson Zone เฮดโฟนตัดเสียงรบกวนในประเทศไทย มอบประสบการณ์การฟังแบบดื่มด่ำขั้นสุดด้วยเสียงสมจริง กับการใช้งานยาวนานได้สูงสุดถึง 50 ชั่วโมง ทั้งยังช่วยลดความผิดเพี้ยนของเสียงให้ต่ำเป็นพิเศษ พร้อมตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและสร้างรายละเอียดเสียงที่สมจริงเต็มสเป็กตรัม

นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์เพื่อการฟังที่ดื่มด่ำและสมจริง

โดยทั่วไปในอุตสาหกรรมนี้ บริษัทผู้พัฒนาอุปกรณ์เครื่องเสียงหลายแห่งจะใช้ผู้ทดสอบที่มีทักษะการฟังระดับ ‘Golden Listener’ ในการทดสอบเครื่องเสียงและกำหนดนิยามของเสียงว่าเป็นเสียงที่ ‘ดี’ แต่วิศวกรของ Dyson จะใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย ด้วยการวัดค่าการทำสำเนาเสียง เช่น ค่าสมดุลเสียงซ้าย-ขวา, ค่าการบิดเบือนฮาร์โมนิก และการตอบสนองความถี่เพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม โดยวิศวกรจะอาศัยผลการทดสอบการใช้งานของผู้ใช้อย่างครอบคลุม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามเป้าหมายคุณสมบัติการใช้งานที่กำหนด เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone™ ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและระบบชาร์จ USB-C ให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินกับการรับฟังเสียงสมจริงได้นานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง

เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone™ สามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ภายใน 3 ชั่วโมง และมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนขั้นสูงแบบแอ็คทีฟ รวมถึงสร้างรายละเอียดเสียงที่สมจริง เก็บครบทุกสเป็กตรัมเสียง มาพร้อมไมโครโฟน 11 ตัว โดยมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ จำนวน 8 ตัว เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุดที่ 38 เดซิเบลและตรวจจับเสียงรอบข้างได้ถึง 384,000 ครั้งต่อวินาที

Lenovo เปิดตัว Legion 9i เกมมิ่งแล็ปท็อปแบบ AI-Tuned ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อน Integrated Liquid-Cooling System ในตัว

เพื่อมอบเสียงที่คมชัดและสมจริง เก็บครบทุกสเป็กตรัมเสียง เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone™ สามารถสร้างช่วงความถี่เสียงตั้งแต่ 6Hz ถึง 21kHz เพื่อให้มั่นใจว่าผู้สวมใส่สามารถได้ยินครบทุกโน้ตและชัดเจนทุกคำพูด โดยช่วงความถี่ดังกล่าวขับเคลื่อนด้วยระบบวิศวกรรมอิเล็กโทรอคูสติก และส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ลำโพงนีโอไดเมียม 16 โอห์ม ขนาด 40 มม. ที่เป็นหัวใจของระบบเสียงของ Dyson ZoneTM

นอกจากนี้ ทั้งลำโพง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ระบบกลไกการทำงาน การใช้วัสดุ และเสียง ยังได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อลดความผิดเพี้ยนของเสียงให้น้อยที่สุด อีกทั้งสัญญาณเสียงขาออกของลำโพงยังมีการควบคุมและชดเชยย่านความถี่เสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยเทคโนโลยีประมวลผลสัญญาณอัจฉริยะที่ระดับ 48,000 ครั้งต่อวินาที เมื่อผสานกับระบบตัดเสียงรบกวน จะปรับค่าความผิดเพี้ยนฮาร์โมนิกให้เป็นกลางจนถึงระดับที่ไม่สามารถได้ยินในทุกย่านความถี่ (เหลือ 0.08% ที่ระดับความดัง 94 เดซิเบล ที่ความถี่ 1 กิโลเฮิร์ตซ์)

Dyson Zone เฮดโฟนตัดเสียงรบกวนตัวแรกจาก Dyson เปิดพรีออเดอร์ในไทยแล้ว เริ่มต้น 28,900 บาท

สะดวกสบายด้วยดีไซน์ที่ลงตัว

วิศวกรของ Dyson พัฒนาอุปกรณ์ให้เสียงที่มีความแม่นยำสูง พร้อมทั้งให้ความสบายสูงสุดแก่ผู้ใช้งาน โดยได้สร้างแผ่นรองหูฟังที่สามารถปรับองศาให้เข้ากับรูปทรงหูของผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยโฟมครอบหูที่หนาและแถบคาดศีรษะที่ยึดกระชับ

เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone™ ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงและดีไซน์ของอานม้า เพื่อให้กระจายถ่ายเทน้ำหนักได้เท่ากันทั้งสองข้างของศีรษะ แทนการกระจายน้ำหนักด้านบนศีรษะเพียงจุดเดียว นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงรูปทรงศีรษะที่หลากหลายของผู้ใช้งานทั่วโลก เพื่อปรับให้ใส่ได้กระชับพอดีและแนบสนิทหูผู้ใช้ทุกคน

ความสะดวกสบาย ความแม่นยำ และระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ คือเหตุผลสำคัญสามประการในการเลือกวัสดุสำหรับการสร้างสรรค์หูฟัง Dyson Zone™ โดยโฟมครอบหูถือเป็นวัสดุสำคัญสำหรับหูฟัง ส่งผลให้วิศวกรของ Dyson ได้ศึกษาองค์ประกอบต่าง ๆ ของโฟมอย่างละเอียด และเลือกโฟมที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดโดยพิจารณาจากความหนาแน่น อัตราส่วนการบีบอัด และความยืดหยุ่นในการคืนตัว เพื่อมอบประสิทธิภาพเสียงที่ดีที่สุด ป้องกันเสียงรบกวนที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งยังออกแบบมาให้แบนกว่าเฮดโฟนแบบปกติ เพื่อตัดเสียงรบกวนและให้ความรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่

เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone™ ยังได้รับการออกแบบตามหลักวิศวกรรม เพื่อจัดการกับมลภาวะทางเสียงและมลพิษทางอากาศ

ปัจจุบัน ประชากรโลกมากกว่าครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ โดยคาดว่า ภายในปี 2593 สัดส่วนของคนที่อาศัยในตัวเมืองจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ใน 10 คน และเมื่อประชากรที่อาศัยในตัวเมืองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น การคมนาคม การก่อสร้าง การจราจร ย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่ ก่อให้เกิดทั้งมลภาวะทางเสียงและมลพิษทางอากาศ ตัวอย่างเช่น

  • ผลการวิจัยในปี 2563 พบว่า ระดับมลพิษทางเสียงจากการจราจรในกรุงเทพฯ สูงกว่า 90 เดซิเบล โดยเฉพาะจากรถบิ๊กไบค์ รถจักรยานยนต์ รถตุ๊ก ๆ และรถบรรทุกสิบล้อ
  • ในปี 2562 กรมควบคุมมลพิษพบว่า ถนนดินแดงเป็นถนนที่มีเสียงดังมากที่สุดในกรุงเทพฯ โดยมีระดับค่าเฉลี่ยในช่วง 24 ชั่วโมง อยู่ระหว่าง 71.6-81.6 เดซิเบล ซึ่งสูงกว่าระดับมาตรฐานที่ 70 เดซิเบล
  • องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า ระดับการสัมผัสเสียงไม่ควรเกิน 70 เดซิเบลในช่วง 24 ชั่วโมง และ 85 เดซิเบลในช่วงเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงความบกพร่องทางการได้ยิน

นอกจากนี้ยังมี “โหมด Transparent” ซึ่งเป็นระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟที่เหนือชั้น ช่วยลดมลภาวะทางเสียงและตรวจจับเสียงรอบข้าง พร้อมทั้งมอบความตื่นตัวตลอดเวลาให้กับผู้ใช้งานขณะเดินทาง

เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone™ มีไมโครโฟนเสริมโดยเฉพาะสำหรับการโทร บันทึกเสียง หรือควบคุมเสียง เพื่อความชัดเจนในการส่งสัญญาณเสียงได้มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ยังสามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างตามสภาพแวดล้อมของผู้ใช้งาน

เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone™ ยังสามารถติดตั้งหน้ากากกรองอากาศสำหรับการเดินทาง เพื่อปล่อยอากาศบริสุทธิ์แก่ผู้ใช้งานเมื่อต้องเดินทางในเขตเมืองที่มีมลพิษหรือขณะใช้บริการขนส่งสาธารณะ เทคโนโลยีนี้เกิดจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ Dyson สั่งสมมากว่า 30 ปีในด้านเทคโนโลยีการไหลเวียนของอากาศ การกรอง เทคโนโลยีมอเตอร์ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับคุณภาพอากาศภายในและภายนอกอาคาร การทำงานของเครื่องกรองอากาศขับเคลื่อนด้วยคอมเพรสเซอร์ที่อยู่ในบริเวณด้านนอกตัวหูฟังแต่ละข้าง โดยจะดึงอากาศผ่านตัวกรอง 2 ชั้น และปล่อยอากาศบริสุทธิ์ 2 กระแสไปยังจมูกและปากของผู้ใช้ผ่านหน้ากากกรองอากาศสำหรับการเดินทาง ขณะเดียวกัน ตัวกรองประจุไฟฟ้าสถิตจะขจัดอนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน และตัวกรองคาร์บอนจะดูดซับก๊าซ เช่น ไนโตรเจนไดออกไซด์ จากมลภาวะในเมือง

เทคโนโลยีการตรวจจับและเชื่อมต่อผ่านแอป MyDyson™

แอปพลิเคชัน MyDyson™ สามารถใช้ในการควบคุมเฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson Zone™ ปรับความเร็วการไหลเวียนของอากาศและโหมดการตัดเสียงรบกวน รวมถึงการปรับสมดุลเสียง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งการรับฟังเสียงที่แตกต่างกันได้ 3 รูปแบบ ทั้ง Dyson EQ, Bass Boost และ Neutral นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถจำกัดระดับเสียงตามคำแนะนำด้านสุขภาพการได้ยินด้วย

ในแอปพลิเคชันยังสามารถเช็คระดับค่าไนโตรเจนไดออกไซด์ในอากาศและควบคุมระบบการกรองได้ในทันที ทั้งยังสามารถตรวจสอบระดับเสียงรบกวนรอบข้างแบบเรียลไทม์ นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์แบบเดียวกับเครื่องฟอกอากาศของ Dyson ทั้งการให้ข้อมูลสภาพแวดล้อมของผู้ใช้ที่สามารถเข้าไปดูได้เพียงไม่กี่คลิก เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

เฮดโฟนตัดเสียงรบกวน Dyson ZoneTM เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้ ที่ www.dyson.co.th และ Dyson Demo Store ทุกสาขาจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ที่ Dyson Demo Store ทุกสาขา

Dyson Zone เฮดโฟนตัดเสียงรบกวนตัวแรกจาก Dyson เปิดพรีออเดอร์ในไทยแล้ว เริ่มต้น 28,900 บาท
Scroll to Top