EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2561 โตต่อเนื่องที่ 4.0 % ตามกำลังซื้อจากต่างประเทศที่ขยายตัวดี และการลงทุนที่ฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น แต่การบริโภคยังกระจุกตัว และไม่ถึงมือเศรษฐกิจฐานราก
นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยผลการประมาณการเศรษฐกิจครั้งนี้ว่า ฐานเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง จะส่งผลให้ทั้งภาคการท่องเที่ยว และการส่งออกสินค้าของไทยเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในปีนี้ โดยมูลค่าการส่งออกน่าจะ ขยายตัวที่ 5.0 % และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นที่ 7.9 %
การส่งออกที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตปรับสูงขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกต่อการลงทุนภาคเอกชนในระยะต่อไป ซึ่งยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการขยายตัวของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะความชัดเจนที่มีเพิ่มขึ้นของโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor หรือ EEC) หลังพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกผ่านการอนุมัติให้เป็นกฎหมาย
อย่างไรก็ตามการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศ แม้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มกระจุกตัว การใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผู้มีรายได้สูงเป็นสำคัญ สะท้อนจากการบริโภคสินค้าคงทน นำโดยยอดขายรถยนต์นั่งที่เติบโตได้ในระดับสูงในช่วงต้นปี 2561 แต่ในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยมีข้อจำกัด ทั้งจากภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และการฟื้นตัวของภาวะการจ้างงาน และรายได้ที่ยังไม่ชัดเจน ดูได้จากอัตราการว่างงานที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงหลัง ขณะที่จำนวนการจ้างงานแบบล่วงเวลาลดลง รายได้เกษตรกรลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2561 ประการแรก คือมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่จะมีผลกระทบโดยตรงต่อบางกลุ่มสินค้าของไทย ได้แก่ แผงโซลาร์ เครื่องซักผ้า เหล็กและอะลูมิเนียม ตลอดจนสินค้าที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตของสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน อย่างไรก็ดี สินค้ากลุ่มดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนน้อยของมูลค่าการส่งออกรวมของไทย
ประการที่สอง การแข็งค่าและความผันผวนของค่าเงินบาทที่จะส่งผลกระทบทั้งต่อรายได้ผู้ส่งออกในรูปเงินบาทและความสามารถในการแข่งขันของสินค้าจากภาคเกษตร และประการที่สาม ความผันผวนทางการเงินของโลกอันเป็นผลมาจากทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้าสู่สมดุล ของเศรษฐกิจสำคัญนำโดยสหรัฐฯ ที่จะทำให้สภาพคล่องทางการเงินของโลกลดน้อยลง ทั้งหมดนี้ทำให้ EIC ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้น 4 % เพิ่มจากปีก่อนที่ขยายตัวได้ 3.9 % เพียงเล็กน้อย
