ฮอนด้า (Honda) และ นิสสัน (Nissan) สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์ญี่ปุ่น กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาควบรวมกิจการ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยเฉพาะในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก
รายงานข่าวจาก Nikkei ระบุว่า ทั้งสองบริษัทกำลังพิจารณาการดำเนินงานภายใต้บริษัทโฮลดิ้งเดียวกัน และคาดว่าจะลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในเร็วๆ นี้ โดยมีเป้าหมายในการสร้างกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
การเจรจาในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายที่ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า
ฮอนด้าและนิสสันต่างประสบปัญหาในการรักษาส่วนแบ่งการตลาดในจีน ซึ่งคิดเป็นเกือบ 70% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยยอดขายรวมทั่วโลกของทั้งสองแบรนด์ในปี 2566 อยู่ที่ 7.4 ล้านคัน แต่ยังคงต้องดิ้นรนเพื่อแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกกว่า เช่น BYD ซึ่งมียอดขายรายไตรมาสพุ่งสูงขึ้น แซงหน้า Tesla เป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม
ความร่วมมือที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ Honda และ Nissan ได้ประกาศความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น
- มีนาคม 2566: ตกลงที่จะสำรวจความเป็นไปได้ในการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
- สิงหาคม 2566: ขยายความร่วมมือไปสู่การพัฒนาแบตเตอรี่ เพลาไฟฟ้า และเทคโนโลยีอื่นๆ
- สิงหาคม 2566: ร่วมมือกับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อหารือเกี่ยวกับระบบอัจฉริยะและการใช้พลังงานไฟฟ้า
ความท้าทายและโอกาส
อย่างไรก็ตาม การควบรวมกิจการของฮอนด้าและนิสสันอาจต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น
- การตรวจสอบจากรัฐบาลญี่ปุ่น: เนื่องจากอาจนำไปสู่การปรับลดพนักงานจำนวนมาก
- การยุติพันธมิตรกับเรโนลต์: นิสสันอาจต้องเผชิญกับการยุติพันธมิตรกับเรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์ฝรั่งเศส
ถึงกระนั้น การควบรวมกิจการครั้งนี้ก็อาจนำมาซึ่งโอกาส เช่น
- การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
- การลดต้นทุนการผลิต: ผ่านการใช้ทรัพยากรร่วมกัน
- การพัฒนาเทคโนโลยี: โดยเฉพาะในด้านแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
ด้าน เจสเปอร์ คอลล์ จาก Monex Group ตั้งคำถามว่าการควบรวมกิจการจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทแข่งขันได้มากขึ้นจริงหรือ “ฮอนด้าและนิสสันมีผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีที่ผู้บริโภคทั่วโลกต้องการหรือไม่” เขามองว่าการควบรวมกิจการอาจเป็นเพียงการ “จัดเรียงเก้าอี้บนเรือไททานิก” และไม่ได้สร้าง “แชมป์เปี้ยนแห่งชาติ” ขึ้นมาใหม่
ในขณะที่ เจสสิก้า คาลด์เวลล์ นักวิเคราะห์จาก Edmunds กล่าวว่า “การที่ผู้เล่นรายเล็กเหล่านี้จะอยู่รอดและเติบโตได้นั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตรถยนต์จีน”
อนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์
การเจรจาควบรวมกิจการระหว่างฮอนด้าและนิสสันสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการแข่งขัน ต้นทุน และเทคโนโลยี การควบรวมกิจการ การร่วมทุน และการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการอยู่รอดและเติบโตในยุคของยานยนต์ไฟฟ้า
#ฮอนด้า #นิสสัน #ควบรวมกิจการ #รถยนต์ไฟฟ้า #ตลาดจีน #อุตสาหกรรมยานยนต์
ที่มา edition.cnn.com , bbc.com
–Volvo เปิดโชว์รูม-ศูนย์ซ่อมสีแห่งใหม่ บนถนนพัฒนาการ รองรับลูกค้า EV เพิ่มขึ้น