iPhone XI และ iPhone XI Max อาจมีการปรับราคาสูงขึ้นอีกราว ๆ 3,000 บาท เหตุจากนโยบายกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับจีน

นโยบายกำแพงภาษีของ Donald Trump ระหว่างสหรัฐฯ และจีนนั้น นอกจากจะส่งผลกระทบทำให้ Huawei ถูกแบนจาก Google รวมถึงบริษัทผู้ผลิตชิปเซ็ตอย่าง Qualcomm และ Intel แล้ว ล่าสุด ดูเหมือนว่า Apple เองก็จะได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน เมื่อมีรายงานว่า นโยบายดังกล่าวอาจส่งผลทำให้ ราคา iPhone เพิ่มขึ้นอีกราว ๆ 14%

โดยบทวิเคราะห์ล่าสุดจากทาง J.P. Morgan เผยว่า ด้วยนโยบายกำแพงภาษีที่จะเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 25% นั้น อาจส่งผลทำให้ราคา iPhone มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นราว ๆ 14% ซึ่งจะทำให้ iPhone XS รุ่นปัจจุบัน ปรับราคาเพิ่มจากเดิม $999 เป็น $1,142 เช่นเดียวกับ iPhone XR ก็โดนหางเลขด้วยเช่นกัน จากราคาเดิม $799 เป็น $911 และมีแนวโน้มว่า จะส่งผลกระทบต่อ iPhone รุ่นใหม่ปี 2019 อย่าง iPhone XI, iPhone XI Max และ iPhone XIR ด้วยเช่นกัน

ซึ่งจากข้อมูลการคาดคะเนข้างต้น จะเห็นว่า ส่งผลเสียต่อ Apple อย่างมาก เพราะในปัจจุบัน iPhone รุ่นใหม่ประสบปัญหาด้านยอดขายอยู่แล้ว เนื่องจากราคาที่สูงจนเกินไป ซึ่งถ้าหาก Apple เพิ่มราคา iPhone ตามกำแพงภาษี อาจจะส่งผลทำให้ยอดขาย iPhone เข้าขั้นวิกฤตได้

อย่างไรก็ดี ทาง J.P. Morgan เชื่อว่า Apple จะไม่เลือกวิธีเพิ่มราคา iPhone เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว แต่เลือกที่จะรับต้นทุนด้านกำแพงภาษีไว้เอง ซึ่งจะส่งผลทำให้รายได้ iPhone ในส่วนของ Gross Margin นั้น ลดลงราว ๆ 4%

สำหรับนโยบายการปรับภาษีของ Donald Trumps นั้น ส่วนหนึ่งต้องการกดดันให้ Apple ย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไว้ที่สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นหนทางเดียวที่ Apple จะสามารถเลี่ยงภาษีดังกล่าวได้ แต่ก็อาจส่งผลทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นอีก

เครดิต : techmoblog.com

• Facebook
• X
• Line