นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมาแม้ต้องเผชิญกับปัจจัยลบจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ผลการดำเนินงานของ Jubilee ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการปรับกลยุทธ์ธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ Jubilee ต้องปิดร้านค้า แต่ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว Jubilee ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาส เร่งพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เตรียมไว้ตั้งแต่ปลายปี 2562 อย่างจริงจัง จนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างยอดขายเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและช่วยเสริมรายได้ส่วนที่ขาดหายไปของร้านสาขา โดยยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ในปี 2563 คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3% ของยอดขายรวม ขณะที่ในปี 2564 ตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 5-6% ของยอดขายรวม
“สำหรับสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ตอนนี้ยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการขายผ่านหน้าร้าน แต่ถือว่าเติบโตได้ดี และทำให้มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น รวมทั้งมองเห็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ซึ่งเราอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางการกำหนดกลยุทธ์ในอนาคต เพราะหากช่องทางออนไลน์เติบโตมากขึ้นจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านสาขาได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามการขายเครื่องประดับเพชรยังต้องมีร้านสาขาและตลาดส่วนนี้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากเพราะเป็นช่องทางสำคัญในการช่วยเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในอนาคต” นางสาวอัญรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม
Jubilee เป็นเครื่องประดับเพชรแท้แบรนด์เดียวที่ทำระบบค้าขายอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบ สามารถผ่อนชำระและได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่นเดียวกับการซื้อที่ร้านค้าสาขา ซึ่งนอกจากการขายผ่านช่องทางของบริษัทฯ เองแล้ว Jubilee ยังได้เพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์ร่วมกับพันธมิตรอีกหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Lazada, Shopee, เซ็นทรัลและโรบินสันออนไลน์ เป็นต้น และมากไปกว่านั้น Jubilee เองยังได้มีการจัดกิจกรรมกระตุ้นการขายอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมลูกค้าช่วยในการบริหารจัดการ เพื่อมองเทรนด์ของลูกค้า เช่น วิเคราะห์กำลังซื้อของลูกค้าแต่ละพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร ก่อนที่จะวางแผนการขายให้สอดคล้องกัน
นางสาวอัญรัตน์ กล่าวเสริมว่า Jubilee มีการเก็บข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนทำกลยุทธ์การตลาดโดยทุกครั้งจะต้องนำข้อมูลมาวิเคราะห์ก่อน ซึ่งทำให้รู้ถึงความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างชัดเจน เพื่อเปิดทางให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเพชรแท้ได้ง่ายขึ้น ด้วยการกระตุ้นผ่านแคมเปญต่างๆ อาทิ การผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต 0% พร้อมรับเครดิตเงินคืน ขณะที่ราคาสินค้ามีหลายระดับลูกค้ามีเงินแค่หลักหมื่นต้นๆ ก็สามารถซื้อเพชรได้แล้ว ยิ่งปัจจุบันมีโซเชียลมีเดียเป็นส่วนที่เข้ามาช่วยเพิ่มช่องทางในการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มลูกค้าได้กว้างมากขึ้น และนอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยมีการรับประกันคุณภาพสินค้ารวมถึงการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าฟรี ซึ่งในส่วนนี้เป็นสิ่งที่ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อเครื่องประดับเพชรเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้ Jubilee จะมีการเปิดตัวคอลเลกชั่นพิเศษสำหรับช่องทางออนไลน์โดยเฉพาะอีกด้วย
และด้วยโครงสร้างธุรกิจที่เข้มแข็งของ Jubilee ในฐานะการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรในเมืองไทยมากว่า 92 ปี และมีการกระจายช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมอย่างทั่วถึง โดยปัจจุบันมีร้านสาขาจำนวน 130 สาขาทั่วประเทศ มีฐานสมาชิกลูกค้ากว่า 180,000 ราย รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่เข้ามาเสริม ทำให้ฐานลูกค้าจะยังเติบโตต่อเนื่องใน 3-5 ปีข้างหน้า ท่ามกลางโอกาสในการทำธุรกิจเครื่องประดับที่มีเพิ่มมากขึ้น เพราะเพชรกลายเป็นสินค้าแฟชั่นที่ลูกค้าต้องการครอบครองและเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา สามารถถือครองได้ในระยะยาว ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการซื้อเพิ่มมากขึ้น
“ในปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายเบื้องต้นเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีที่ผ่านมา แต่อาจทบทวนอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง เพราะขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และเริ่มเห็นสัญญาณกำลังซื้อกลับมาดีขึ้น แม้ว่าจะยังไม่เหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ก็ตาม โดยการเติบโตของเรายังคงมาจากช่องทางการขายหน้าร้านสาขาเป็นหลัก ซึ่งเรามีแผนในการเปิดตัวแคมเปญใหม่ๆ ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าและสร้างความประทับใจในแบรนด์ยูบิลลี่ ไดมอนด์ อีกทั้งยังเสริมด้วยยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ในปัจจุบันถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญ โดยจะเห็นได้ว่า Jubilee เรามีการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ของเราไม่ใช่แค่โฆษณาสินค้า แต่ลูกค้าสามารถเลือกช้อปปิ้งและจ่ายเงินได้เบ็ดเสร็จ อีกทั้งยังมีให้ความรู้ในเรื่องการเลือกซื้อเครื่องประดับเพชรคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ” นางสาวอัญรัตน์ กล่าวสรุป
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนาได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับศิลปินและชุมชนท้องถิ่น สร้างสรรค์ผลงานคราฟต์ต้นคริสต์มาสที่ผสานเสน่ห์ของ 2 วัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก ถ่ายทอดผ่าน ต้นคริสต์มาส Local Pride ซึ่งสะท้อนอัตลักษณ์อันโดดเด่นของแต่ละภูมิภาคในประเทศไทย ผลงานเหล่านี้ถูกนำเสนออย่างงดงามในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ “Place for All” ที่มุ่งยกระดับให้พื้นที่ศูนย์การค้าเป็นเดสติเนชั่นที่เชื่อมโยงเมือง ผู้คนในชุมชน และศิลปินท้องถิ่น ร่วมกันพัฒนาผลงานศิลปะที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์อัตลักษณ์ไทยให้โดดเด่น นำเสนอสู่สายตาของคนทั่วประเทศและทั่วโลก ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่…
ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างรวดเร็ว การทำความเข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์ต่างๆ และหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปัจจุบันก็คือ Gen Z หรือคนรุ่นใหม่ที่เกิดระหว่างปี 1997 ถึง 2012 พวกเขาเติบโตมากับโลกดิจิทัล มีมุมมองที่แตกต่าง และให้ความสำคัญกับคุณค่าที่หลากหลาย บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึง Gen Z…
"ฟอร์ติเน็ต" เผยรายงานช่องว่างด้านทักษะไซเบอร์ ชี้ 92% ขององค์กรในไทยเผชิญภัยคุกคามจากปัญหาขาดแคลนบุคลากร แนะ 3 แนวทางรับมือ ผนึกกำลังภาครัฐ-เอกชน สร้าง "กองทัพไซเบอร์" ปกป้องเศรษฐกิจดิจิทัล ฟอร์ติเน็ต เปิดเผยรายงานช่องว่างด้านทักษะความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกประจำปี 2024…
FUJIFILM Business Innovation (Thailand) Co., Ltd., a leading provider of office solutions and innovative printing…
FUJIFILM Business Innovation ผู้ให้บริการโซลูชันสำนักงานและเครื่องพิมพ์ ประกาศทิศทางกลยุทธ์ไตรมาส 3 ปี 2024 ภายใต้แนวคิด "Make a Leap to the New…
Solar D เปิดตัว “หุ่นยนต์ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์” นวัตกรรมสุดล้ำ Light Speed ติดตั้งเร็วกว่าแรงงานคนถึง 10 เท่า! ชูจุดเด่นลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ หนุนเป้าหมายเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ปี 2569…