LINE แปลงโฉม “LINE TIMELINE” สู่แพลตฟอร์มวิดีโอใหม่ล่าสุด “LINE VOOM” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานรุ่นใหม่บนโลกแห่งการสื่อสารที่เน้นการใช้งานบนแพลตฟอร์มสำหรับคลิปวิดีโอสั้น ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกสนุกได้อย่างไม่สิ้นสุด โดย “LINE VOOM” จะเปิดใช้งานพร้อมกันในประเทศไทย ญี่ปุ่น และไต้หวัน โดยผู้ใช้งาน LINE สามารถใช้งาน LINE VOOM ได้บน LINE เวอร์ชัน 11.20 ขึ้นไป เท่านั้น
ในฐานะส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ LINE ที่ครองอันดับหนึ่งแอปพลิเคชันที่คนไทยไว้วางใจใช้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน แพลตฟอร์ม LINE VOOM มุ่งมั่นที่จะผสานเข้าสู่ความปกติใหม่ เพื่อที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้บนแพลตฟอร์มเดียว สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “LINE สำหรับทุกไลฟ์สไตล์ หรือ Life on LINE” LINE VOOM จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย และเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน โดยจะนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายให้คนไทยได้เลือก ชม-แชร์-ช้อป-ชาเลนจ์ โดย LINE VOOM ตั้งเป้าผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคนผ่านการพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เพิ่มจากฐานผู้ใช้งานต่อเดือนของ LINE TIMELINE เดิมที่มีอยู่กว่า 35 ล้านคน นอกจากนั้น LINE VOOM ยังพร้อมมอบประสบการณ์อันมีสีสันกว่าเดิมให้กับผู้ใช้งาน อาทิ
-ปรับรูปแบบการมองเห็นคอนเทนต์ของผู้อื่น จากรูปแบบการเพิ่มเพื่อน (Friend-based) สู่การติดตามบัญชี (Follow-based) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานอื่นได้อย่างง่ายดายมากขึ้น และเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์แชร์ให้กับผู้ใช้งาน LINE อื่นอีกกว่า 50 ล้านคน
-คอนเทนต์พิเศษจากทั่วโลกที่สามารถรับชมได้ผ่าน LINE VOOM เท่านั้น รวมถึงคอนเทนต์สุดพิเศษสาย K-Pop ซึ่งจะขนขบวนมาให้รับชมได้ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นไป
“LINE TIMELINE” แจ้งเกิดใหม่ในฐานะแพลตฟอร์มวิดีโอโดยใช้ชื่อ “LINE VOOM” ด้วยแนวคิด “เข้าถึงทุกคอนเทนต์ จัดเต็มทุกความสนุก” ที่ผู้ใช้งานสามารถส่งไอคอนแสดงความรู้สึกหรือเขียนคอมเมนต์ให้กับวิดีโอ ที่ชื่นชอบและสามารถแชร์ต่อให้กับเพื่อนในแอปพลิเคชัน LINE ได้ โดยคำว่า “VOOM” มาจากการผสมกันของคำว่า ว่า “Video Room” “Visual Room” และ “Boom” สื่อให้เห็นถึงการที่ผู้ใช้งานสามารถสนุกกับวิดีโอได้ทุกที่ ทุกเวลา อันแน่นด้วยเทรนด์ใหม่ๆ และเรื่องราวยอดนิยม
“LINE VOOM” คือคลังคอนเทนต์วิดีโอสำหรับทุกความสนใจ อาทิ วิดีโอตลกขบขัน วิดีโอบล็อก สัตว์เลี้ยง เสียงเสมือนจริง การเต้น และสูตรอาหาร โดยระบบจะศึกษาประวัติการเข้าชมคอนเทนต์ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานเข้าดู และวิเคราะห์ความสนใจเพื่อแสดงผลวิดีโอ ที่ตรงต่อความสนใจนั้นๆ บนแถบ “แนะนำ” โดยวิดีโอที่ระบบแนะนำจะปรับเปลี่ยนไปตามผู้ใช้งานแต่ละคน ยิ่งรับชมมาก ระบบจะยิ่งแนะนำวิดีโอที่น่าสนใจมากขึ้น เพื่อความสนุกที่มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถเรียนรู้และค้นพบสิ่งใหม่ๆ ผ่านทางคอนเทนต์วิดีโอที่หลากหลายได้อีกด้วย