NIA – ม.แม่โจ้ ร่วมผลักดัน สมาคมสตาร์ทอัพด้านการเกษตรไทย ปูพรมวัลเลย์นวัตกรรมการเกษตร

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดตัวสมาคมสตาร์ทอัพด้านการเกษตรไทย (Thai AgTech Startup Association; TASA) หรือ “ทาซ่า” เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมแนวคิดใหม่ๆ ของสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมแก้ปัญหาทางการเกษตร พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนให้เกิดพลิกโฉมสู่การเกษตรสมัยใหม่ และตั้งเป้าสร้างย่านนวัตกรรมเกษตรแม่โจ้ให้เป็น “วัลเลย์นวัตกรรมการเกษตรของไทย” ณ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งงานดังกล่าวนี้จัดขึ้นในการประชุมวิชาการระดับชาติ ประจำปี 2564 เรื่อง “นวัตกรรมเกษตร อาหาร และสุขภาพ”

เปิดโผ 5 Gadget ยอดนิยมแห่งปี 2564 รับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุค New Normal
กทปส. โชว์นวัตกรรมเบรคเกอร์ 4.0 ด้วยระบบ Home Cloud Platform และ AI ปฏิวัติอุตสาหกรรมไฟฟ้ายุคดิจิทัล

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)กล่าวว่า ประเด็นความท้าทายสำคัญด้านการเกษตรที่ทั่วโลกและประเทศไทยต้องเผชิญ ทั้งจำนวนประชากรโลกที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มมากกว่า 9 พันล้านคนในปี 2050 รวมถึงมูลค่าของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารทั่วโลกที่สูงถึง 7.8 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 234 ล้านล้านบาท ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการผลิตอาหารและการจ้างงานสูงถึงร้อยละ 40 ของอุตสาหกรรมทั่วโลก ทำให้สตาร์อัพด้านการเกษตร หรือ AgTech Startup เป็นหนึ่งในสาขาที่มีโอกาสการเติบโตสูง

ด้วยเหตุนี้ NIA จึงมีนโยบายในการเร่งส่งเสริมและผลักดันสร้างสตาร์ทอัพด้านการเกษตรให้เป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงในภาคการเกษตรของประเทศไทย รวมถึงสร้างให้เกิดระบบนิเวศด้วยความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งการจัดตั้งสมาคมสตาร์ทอัพด้านการเกษตรไทย หรือ TASA ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านการเกษตร ในการรวมพลังของสตาร์ทอัพด้านการเกษตร เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมแนวคิดใหม่ๆ ของสตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมแก้ปัญหาทางการเกษตรที่จะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยตั้งเป้าสร้างให้ย่านนวัตกรรมเกษตรและอาหารแม่โจ้ให้กลายเป็น “วัลเลย์นวัตกรรมการเกษตรของไทย” ที่จะมีความพร้อมทั้งด้านงานวิจัย พื้นที่ทดสอบ รวมถึงความร่วมมือกับหน่วยงานชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดสตาร์ทอัพด้านการเกษตรไทยที่สามารถขยายสู่ระดับประเทศ ภูมิภาค และระดับโลกต่อไป

รองศาสตราจารย์ ดร. วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรเป็นจุดแข็งและแนวทางสำคัญในการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยแม่โจ้  เรามีองค์ความรู้แบบครบวงจร และก้าวสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่ม 2  คือกลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม โดยไม่ละเลยความกินดีอยู่ดีและความเจริญวัฒนาของชุมชนฐานราก เรามีนโยบายในการส่งเสริมระบบนิเวศด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเร่งพัฒนาผู้ประกอบการ ซึ่งคำว่าระบบนิเวศหรือ Ecosystem นี้ หมายรวมถึงทั้งภายในมหาวิทยาลัยและภายนอกมหาวิทยาลัยให้ได้รับการพัฒนา เติบโต และทำงานสอดประสานกันทั้งองคาพยพ เป็นภาคีเครือข่ายที่มีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน

แน่นอนว่า การจัดตั้งสมาคมสตาร์ทอัพด้านการเกษตรไทย หรือ TASA (ทาซ่า) ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับพัฒนาการเกษตรของไทย ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการสร้างความร่วมมือ การต่อยอดองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ผนวกกับการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรและอาหารที่จะสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับพี่น้องเกษตรกร ด้วยการพัฒนานวัตกรรมการเกษตรร่วมกันผ่านหลากหลายกิจกรรม เช่น การสร้างย่านนวัตกรรมเกษตรและอาหารแม่โจ้ ที่ได้รับความร่วมมือจาก NIA เทศบาลท้องถิ่น และวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาและยกระดับกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ ตลอดจนเกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ชุมชน

ซึ่งสตาร์ทอัพด้านการเกษตรจะเป็นกำลังสำคัญที่จะเข้ามาเชื่อมโยงและร่วมสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการพัฒนาเชิงพื้นที่ หรือกิจกรรมที่มีการเริ่มดำเนินการแล้วอย่างโครงการ “เชียงใหม่โมเดล”  โครงการ MJU-2-T (เอ็มเจยู ทูที) หรือโครงการที่สร้างคนรุ่นใหม่ เช่น  New Breed Smart Farmer ตลอดจนโครงการอื่นๆ ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ตลอด Supply Chain ให้ได้ผลิตผลคุณภาพสูงและเพิ่มมูลค่าได้มากขึ้น ทั้งยังเชื่อมโยงกับสตาร์ทอัพเกษตรในกลุ่มการสร้างตลาดออนไลน์ ให้กระจายผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดในวงกว้าง  รวมถึงการสร้างสตาร์ทอัพด้านการเกษตรรายใหม่ร่วมกับอุทยานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเกษตรและอาหาร  Maejo Agro Food Park หรือ MAP  ได้อีกด้วย”

คมธัช วัฒนศิลป์ นายกสมาคมสตาร์ทอัพด้านการเกษตรไทย หรือ TASA ได้กล่าวขอบคุณ NIA และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่จะร่วมมือบูรณาการสนับสนุนการทำงานร่วมกันในการร่วมพลิกโฉมภาคการเกษตรไทย “การจัดตั้ง TASA ในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายในการผสานความร่วมมือระหว่างสตาร์ทอัพด้านการเกษตรด้วยกัน ตลอดจนสมาชิกกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรไทยประสบความสำเร็จในการประกอบการ ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหา และพัฒนาภาคการเกษตรไทยเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายประเทศไทย 4.0 และ BCG model ของรัฐบาล โดยมีพันธกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่

1) Synergy: สร้างความร่วมมือ เชื่อมโยง เชื่อมประสานธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการเกษตรไทยด้วยกันเองและกับองค์กรพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างการพัฒนานวัตกรรมสูงสุดต่อเกษตรกรไทย

2) Standard: สร้างมาตรฐานด้านนวัตกรรมเกษตรให้เป็นที่ยอมรับและสอดคล้องตามหลักสากล

3) Sustainable: สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันในทุกภาคส่วน ทั้งธุรกิจสตาร์ทอัพ และธุรกิจชุมชนของเกษตรกรด้วยการสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์ และสามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคการเกษตร

สมาคมฯ จึงเป็นกลุ่มอาสาที่สร้างการเปลี่ยนแปลง หรือ Change Maker เพื่อพลิกโฉมวงการเกษตรไทยและภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ ในช่วงก่อตั้งมีสมาชิกอยู่ 26 ราย ที่มีแนวทางใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหาทางการเกษตรตลอดทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่ต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีแนวทางร่วมกันที่จะสนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพ การเพิ่มผลผลิต การลดต้นทุน และการสร้างตลาดให้กับสินค้าเกษตร ซึ่งต่อไปจะมีการเพิ่มทั้งจำนวนและคุณภาพของสตาร์ทอัพเกษตรได้อย่างหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้การใช้เทคโนโลยีเชิงลึก หรือ Deep Tech ที่จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดแบบ S-curve ต่อไป ดังนั้นสตาร์ทอัพด้านการเกษตร และหน่วยงานพันธมิตร ที่สนใจร่วมดำเนินงานกับสมาคมฯ สามารถสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกได้ตั้งแต่วันนี้ โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : TASA-Thai AgTech Startup Association

supersab

Recent Posts

AIS ยกขบวนดีไวซ์ พร้อมโปรโมชั่นจัดเต็มในงาน Thailand Mobile Expo 2024

AIS โชว์ศักยภาพผู้นำอุตสาหกรรมสื่อสารและโทรคมนาคมไทย พร้อมจัดทัพนวัตกรรม ดีไวซ์ และสมาร์ทโฟนระดับเทพ นำโดย แว่นตา AR สุดล้ำจาก XREAL, Cloud PC เดสก์ท็อปบนคลาวด์ บริการคอมพิวเตอร์รูปแบบใหม่ที่ใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของข้อมูล…

4 hours ago

Samsung เปิดตัว Galaxy Ring แหวนอัจฉริยะ ราคาเริ่มต้น 14,900 บาท

เปิดตัว Samsung Galaxy Ring แหวนอัจฉริยะที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ ด้วยการติดตามสุขภาพได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วิเคราะห์การนอนหลับ ไปจนถึงการตรวจจับการกรน ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาให้อยู่ในแหวนไทเทเนียมสุดหรู  ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน พร้อมเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน…

4 hours ago

ทรู คอร์ปอเรชั่น หนุนแฟนความเร็วทั่วโลกรองรับงานระดับนานาชาติ “MotoGP”

ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้าสนับสนุนการจัดงานระดับโลก "PT Grand Prix of Thailand 2024" หรือ "ไทยแลนด์ โมโตจีพี 2024" ศึกชิงเจ้าแห่งความเร็ว ณ…

18 hours ago

Virgin Active เปิดตัวแคมเปญ ‘Real Wellness My Way’ ตอกย้ำจุดยืนแบรนด์ใหม่ล่าสุด ผลักดันการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอย่างเป็นรูปธรรม

Virgin Active Thailand เปิดตัวแคมเปญที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจุดยืนระดับโลกของแบรนด์อย่าง 'Where Wellness Gets Real' ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม ตอกย้ำวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์เบื้องหลังที่มาของจุดยืนของแบรนด์ล่าสุดที่พร้อมมอบแนวทางในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมอย่างเป็นรูปธรรม และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทยอย่างแท้จริง 'Where Wellness Gets…

18 hours ago

ซีพีแรม ร่วมแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์ Smart Logistics Talk : The Future of Business Transformation ในงาน LogiMAT Southeast Asia 2024

คุณวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ร่วมแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ด้านการจัดการระบบโลจิสติกส์ ภายใต้หัวข้อ “Smart Logistics Talk: The Future of…

18 hours ago

Beam สตาร์ทอัพฟินเทคไทย ปิดจุดอ่อนระบบรับชำระเงิน ด้วยภารกิจ สร้างการชำระเงินที่ง่ายที่สุด สร้างรายได้ปีละ 100 ล้านใน 3 ปี

Beam สตาร์ทอัพฟินเทคที่โตเร็วอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ตอบรับกระแสคอมเมิร์ซที่มาแรงต่อเนื่องด้วยระบบชำระเงินครบวงจร ช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากซ้ำซ้อน เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการทำธุรกรรม ตอบโจทย์ธุรกิจทุกขนาด พร้อมตั้งเป้าสร้างระบบการชำระเงินที่ง่ายที่สุดในโลก ตอกย้ำวิสัยทัศน์ “The World’s Simplest Ways…

18 hours ago