NTT DATA ผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการด้านไอทีชั้นนำระดับโลก เปิดผลการวิจัย Global Research into Corporate Banking’s Future โดยเปรียบเทียบความต้องการของธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ กับการให้ความสำคัญในการลงทุนของธนาคารทั่วโลก ในปัจจุบันพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในวงการการเงินและธนาคารภายใต้วิกฤตโควิด-19 ที่เน้นบูรณาการระบบดิจิทัลและความยั่งยืนมากขึ้น ให้สอดคล้องกับคนรุ่นมิลเลนเนียลรุ่นใหม่ที่ดำรงตำแหน่งระดับสูงในองค์กรเพิ่มขึ้น
มิเกล มาส ผู้อำนวยการธุรกิจธนาคารทั่วโลก บริษัท เอ็นทีที เดต้า ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (NTT Data EMEA Ltd.) เปิดเผยถึงผลการงานวิจัย Global Research into Corporate Banking’s Future เปรียบเทียบความต้องการขององค์กรขนาดใหญ่ กับสิ่งสำคัญในการลงทุนของธนาคารระดับโลกในปัจจุบัน พบว่าภายหลังวิกฤตโควิด-19 กลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กร ได้เปลี่ยนการทำงานเป็นแบบบูรณาการในรูปแบบดิจิทัลและเพิ่มความยั่งยืนมากขึ้น
–แสนสิริลุยตลาด Affordable เมืองหัวหิน กับ “เฮย์ หัวหิน” เริ่ม 1.39 ลบ.
–ไปรษณีย์ไทย ชวนร่วมแคมเปญ ไปรษณีย์ reBOX นำกล่อง/ซองที่ไม่ใช้แล้วมาส่ง รับทันที 1 แต้ม สะสมเพื่อแลกส่วนลดค่าส่งพัสดุสูงสุด 1,000 บาท
เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียลรุ่นใหม่ที่เริ่มมีตำแหน่งสูงขึ้นในองค์กร จากผลการวิจัยผู้มีอำนาจตัดสินใจระดับสูงจากธุรกิจธนาคารและองค์กรต่าง ๆ กว่า 880 คน จาก 12 ประเทศทั่วโลก เพื่อค้นหาแนวทางการปรับตัวในอนาคตของกลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กร พบว่าปัจจัยที่ทำให้พื้นฐานธุรกิจธนาคารเปลี่ยนไป เกิดจากการปรับใช้เทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเจเนอเรชันที่เปลี่ยนไปของลูกค้า บวกกับการฟื้นตัวจากวิกฤตโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ หันมาสื่อสารกับธนาคารผ่านแอปพลิเคชันบนระบบ APIs หรือ Application Programming Interfaces ซึ่งเป็นการสื่อสารด้วย เทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถส่งข้อมูลระหว่างกันผ่านการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องมือและอุปกรณ์อินเทอร์เน็ต (M2M) มากขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับการสื่อสารแบบตัวบุคคลถึงตัวบุคคล(Person-to-person)
ทั้งยังให้ความสำคัญกับขั้นตอนการนำกระบวนการแบบอนาล็อกและสิ่งที่เป็นรูปธรรมมาเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลไปจนเสร็จสิ้น (End-to-end digitization) และสามารถส่งมอบบริการที่ลื่นไหล (Frictionless Banking) มากกว่าการสร้างความสัมพันธ์ผ่านตัวบุคคลซึ่งเป็นภาพลักษณ์แบบเดิม ทั้งนี้ 85% ของธุรกิจธนาคารรายงานว่ากำลังเพิ่มประสิทธิภาพพอทัล (Portal) ต่าง ๆ ของธนาคารให้ดียิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค
“จากงานวิจัยพบว่าอนาคตของกลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กร จะเป็นการทำงานแบบบูรณาการ ดิจิทัล และยั่งยืนมากขึ้น ถึงแม้กฎเกณฑ์ใหม่ๆมีส่วนขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง แต่แท้จริงแล้วการเปลี่ยนเจเนอเรชันต่างหากที่กำหนดว่าธนาคารควรปฏิบัติงานอย่างไร ปัจจุบันกลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กรมีความรวดเร็วมากขึ้น เช่นเดียวกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น เห็นได้ว่าธนาคารต่าง ๆ เริ่มหันมาลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Ai และ Automation ซึ่งล้วนมาจากความต้องการของผู้บริโภค” มิเกล กล่าว
ทั้งนี้ งานวิจัยได้แนะให้ธนาคารผสานบริการเข้ากับความต้องการของผู้บริโภค ที่ปัจจุบันความต้องการขององค์กรได้เปลี่ยนจากธุรกิจค้าปลีกดั้งเดิมจากโปรดักส์เงินทุนหมุนเวียน (Working capital products) ไปสู่หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง(Structured products) รวมทั้งเทคโนโลยีก็เปลี่ยนไปแล้วเช่นกัน เราจึงเห็นธนาคารเริ่มนำระบบอัตโนมัติ (Automation) มาใช้ในการทำงานมากขึ้น
รวมทั้งการใช้โมเดล Advanced Machine learning ในงานต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านเครดิต ตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าธนาคารควรฟังเสียงจากกลุ่มลูกค้าองค์กร และความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรมเพื่อส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างตรงจุด อาทิ 70% ของกลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างยังคงต้องการโซลูชันด้านการกู้เงิน และการบริหารเงินสดขององค์กรแบบ Omni-channel แต่บริการดังกล่าวกลับไม่ถูกผสมผสานเข้ากับแพลตฟอร์มของธนาคารพาณิชย์
อีกทั้งแนวคิด ESG (Environmental, social and corporate governance) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อกลุ่มการเงินและธนาคารที่ให้บริการแก่ธุรกิจองค์กร ผู้กำหนดกฎเกณฑ์และนโยบายต่างเรียกร้องให้มีการนำ ESG มาปรับใช้มากขึ้นเพื่อมุ่งสู่โลกแห่งอนาคต แม้จะทราบดีว่าการเดินหน้าสู่แนวคิดเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low-carbon economy) จะเพิ่มความยุ่งยากให้กับธุรกิจบริการด้านการเงิน ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงจากบริการที่เปลี่ยนไป
ทั้งนี้ องค์กรต่าง ๆ ต้องการทำธุรกรรมกับธนาคารที่สะท้อนมุมมองและความเชื่อของตน ด้วยลูกค้าในกลุ่มธุรกิจองค์กรรุ่นใหม่ เริ่มให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน จากผลการวิจัยพบว่า 48% ของผู้ตอบแบบสอบถามกลุ่มองค์กรต้องการให้ธนาคารของตนลงทุนในผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความยั่งยืนมากขึ้น โดย 44% ของธุรกิจธนาคารเริ่มลงทุนในด้านดังกล่าวแล้ว
“ความยั่งยืนคือกุญแจสำคัญในการแข่งขัน องค์กรเกือบครึ่งต่างต้องการให้ธนาคารของตนลงทุนในด้านนี้เพิ่มขึ้น และธนาคารที่มีวิสัยทัศน์ได้เริ่มสร้างทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้าน ESG เพื่อตอบโจทย์นี้แล้ว ทั้งความยั่งยืนยังเป็นโอกาสสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจเหนือคู่แข่งอีกด้วย” มิเกล กล่าวทิ้งท้าย
โค้ก โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับตลาดเครื่องดื่มอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "โค้ก" ซีโร่ กลิ่นวานิลลา ความอร่อยใหม่ที่ผสานความซ่าส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ "โค้ก" เข้ากับความหอมหวานละมุนละไมของวานิลลาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือมาในสูตรไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen…
บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น (Epson) ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและตัวแทนผู้อำนวยการ (President and Representative Director) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (Chief…
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดย กองสิ่งแวดล้อม ฝ่ายพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง ช่วงเวลากลางคืน การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดยเริ่มตั้งแต่จุดก่อสร้าง Cut…
LINE MAN ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายฐานบริการ LINE MAN MART ให้ครอบคลุมกว่า 1,400 สาขาทั่วประเทศ…
พฤกษา ผนึกกำลัง โรงพยาบาลวิมุต มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพครบวงจรให้ลูกบ้านตลอดปี 2568 ภายใต้แนวคิด "สุขภาพดีเริ่มต้นที่บ้าน" จิตชญา ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง…
ออเนอร์ (HONOR) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป HONOR Magic7 Pro 5G ที่สร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 2.4 เท่า นับตั้งแต่เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568…