ResMed ปักธงบุกตลาดไทย เผยข้อมูลสำคัญพบว่า 22% ของประชากรในประเทศไทย เคยมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) พร้อมสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขและพันธมิตรในประเทศไทย เพื่อยกระดับการเข้าถึงการรักษา ลดความเสี่ยงและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพการนอนและการหายใจ พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ตั้งเป้าหมายช่วยผู้คนกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกใช้ชีวิตเต็มศักยภาพภายในปี 2030 ผ่านเทคโนโลยีการนอนและการหายใจ
คาลอส มอนเทียล รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ResMed Asia Pte. Ltd. เปิดเผยว่า ด้วยประสบการณ์กว่า 35 ปี เรามีความมุ่งมั่นที่จะช่วยผู้คนทั่วโลก ได้นอนหลับดีขึ้นด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์และซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย ครอบคลุมตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการจัดการภาวะ OSA และปัญหาสุขภาพการนอนอื่นๆ
สำหรับประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยศักยภาพการเติบโตทั้งในด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาระบบด้านสุขภาพ การเปิดสำนักงานในประเทศไทยช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้พันธมิตรทางธุรกิจของเรา และข่วยให้เราสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยและแพทย์ในประเทศ
นอกจากนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่ตั้งเป้าหมายช่วยผู้คนกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกใช้ชีวิตเต็มศักยภาพภายในปี 2030 ผ่านเทคโนโลยีการนอนและการหายใจ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุขในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพการนอนและการหายใจ ตลอดจนการให้ความรู้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการเข้าถึงเครื่อง CPAP และยังพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงฯ และพาร์ทเนอร์ในประเทศไทย ซึ่งผลการสำรวจ ResMed Global Sleep Survey 2024 กลุ่มตัวอย่างในประเทศไทย 1,500 คน ระบุว่า 22% มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea: OSA)
เทคโนโลยี Connected Health และ Digital Health
ResMed ได้สร้างระบบที่ช่วยให้แพทย์ ผู้ดูแลและผู้ป่วยสามารถเชื่อมต่อ พร้อมติดตามผลการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเทคโนโลยี Connected Health และ Digital Health
โดยมีข้อมูลด้านการหายใจมากกว่า 19 พันล้านคนจากผู้ป่วยทั่วโลก (เป็นข้อมูลด้านการหายใจส่วนบุคคล) ซึ่งเติบโตถึง 28% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และมีผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคการนอนไม่หลับมากกว่า 28 ล้านคนทั่วโลกที่อยู่ในระบบซอฟต์แวร์ AirView ซึ่งมีเพียง 0.02% เท่านั้นที่ได้เข้ารับการวินิจฉัย
ดังนั้นการส่งมอบองค์ความรู้และสร้างการตระหนักแก่ประชากรในวงกว้างเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพเหล่านี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของงค์กร คือ การพลิกโฉมการดูแลตรวจเช็คสุขภาพการนอน สุขภาพการหายใจได้จากที่บ้านผ่านโซลูชัน
สำหรับช่องทางการทำตลาด พิมพ์มนัส รินทร์ศรี ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาค บริษัท เรสเมด เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เรสเมดจะมีตัวแทนจำหน่ายทั้งในส่วนการขายเข้าโรงพยาบาลและการขายออนไลน์ การสื่อสารการตลาด และการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพให้กับผู้ป่วยในประเทศไทย โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจและสนับสนุนการทำงานของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ในการตรวจวินิจฉัย รักษา และติดตามผลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังมีบริการหลังการขาย เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยจะได้รับการดูแลที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการมีสำนักงานในไทยช่วยเสริมความยั่งยืนในการดูแลสุขภาพ สร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อชีวิตผู้ป่วย และยกระดับสังคมไทย
ด้าน ศาสตราจารย์แพทย์หญิงนฤชา จิรกาลวสาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาด้านการนอนหลับ ศูนย์นิทราเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย หน่วยโรคระบบหายใจและภาวะวิกฤต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายกสมาคมโรคจากการหลับแห่งประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การรักษาด้วยเครื่อง CPAP ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดสมอง ทำให้ผู้ป่วยที่มีภาวะOSA สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ ปัจจุบันยังมีนวัตกรรมระบบติดตามทางไกลที่ช่วยให้แพทย์และผู้ดูแลสามารถติดตามการใช้งานของผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิดและปรับปรุงแผนการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาว
–ความเครียด ภัยเงียบกระตุ้นโรคเบาหวาน วงจรอันตรายที่วัยรุ่น-วัยทำงานควรระวัง