Samsung Electronics ประกาศเปิดตัว Samsung Vision AI ภายในงาน CES 2025 First Look มุ่งสู่การสร้างสรรค์หน้าจออัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อยกระดับประสบการณ์การรับชมและการใช้ชีวิตประจำวัน โดย Samsung Vision AI จะถูกนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Neo QLED, OLED, QLED และ The Frame พร้อมยกระดับหน้าจอทีวีแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ใช้
นอกจากนี้ Samsung ยังได้เปิดตัว Neo QLED 8K QN990F รุ่นเรือธงล่าสุด พร้อมอัปเดตไลน์อัพทีวีไลฟ์สไตล์ และเทคโนโลยีหน้าจอแห่งอนาคต สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Samsung ในการเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นเพื่อนคู่ใจที่ชาญฉลาด ปรับเปลี่ยนได้ และช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น
SW Yong ประธานและหัวหน้าฝ่ายธุรกิจจอภาพของ Samsung Electronics กล่าวว่า “Samsung มองว่าทีวีไม่ใช่อุปกรณ์สำหรับการรับชมแบบพาสซีฟเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเหมือนคู่หูที่ชาญฉลาด สามารถโต้ตอบและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ด้วย Samsung Vision AI เราจะพลิกโฉมหน้าที่ของหน้าจอ เชื่อมโยงความบันเทิง ส่วนบุคคล และโซลูชันไลฟ์สไตล์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นและช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น”
หน้าจออัจฉริยะ ปรับเปลี่ยนได้ เพื่อชีวิตที่ราบรื่น
Samsung Vision AI คือ ก้าวสำคัญในการพัฒนาหน้าจออัจฉริยะที่ใช้งานง่ายและมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นไร้รอยต่อ ด้วยความสามารถในการรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว ปรับเปลี่ยนตามความชอบของผู้ใช้ และมอบฟีเจอร์อัจฉริยะต่างๆ ได้อย่างอิสระ โดยสามารถเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นเพื่อนคู่ใจที่ชาญฉลาด ช่วยยกระดับความบันเทิง ทำให้การใช้งานง่ายขึ้น และผสานรวมเข้ากับไลฟ์สไตล์การเชื่อมต่อได้อย่างลงตัว
หัวใจสำคัญของ Vision AI คือ ฟีเจอร์ส่วนบุคคล ซึ่งจะกำหนดนิยามใหม่ของการโต้ตอบระหว่างผู้ใช้กับหน้าจอ
- Click to Search นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการระบุตัวนักแสดง หรือสำรวจเนื้อหาที่แสดง โดยไม่รบกวนประสบการณ์การรับชม
- Live Translate ขับเคลื่อนด้วยโมเดลการแปลภาษา AI บนอุปกรณ์ ช่วยขจัดอุปสรรคด้านภาษาด้วยการแปลคำบรรยายแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินกับเนื้อหาจากทั่วโลกได้อย่างราบรื่น
- Generative Wallpaper เปลี่ยนหน้าจอให้เป็นผืนผ้าใบศิลปะแบบไดนามิกที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์ภาพที่ตรงกับรสนิยมหรือโอกาสต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
นอกเหนือจากฟีเจอร์ส่วนบุคคลแล้ว Vision AI ยังวางตำแหน่งหน้าจอให้เป็นศูนย์กลางสำหรับการใช้ชีวิตที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ผ่านการผสานรวมกับระบบนิเวศ SmartThings
- Home Insights นำเสนอข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน รวมถึงการแจ้งเตือนความปลอดภัยและข้อมูลอัปเดตรายวัน เพื่อความอุ่นใจ ไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ที่บ้านหรืออยู่นอกบ้าน
- Pet and Family Care คอยดูแลคนที่คุณรัก ตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติของทั้งสัตว์เลี้ยงและสมาชิกในครอบครัว ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการปรับการตั้งค่าห้องโดยอัตโนมัติ เช่นหรี่ไฟเมื่อเด็กหลับ พร้อมทั้งมอบข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์และบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ผ่านทีวี
นอกจากนี้ Vision AI ยังมอบความก้าวหน้าที่โดดเด่นในด้านคุณภาพของภาพและเสียง ทำให้ทุกช่วงเวลาบนหน้าจอน่าประทับใจ เทคโนโลยีภาพและเสียง AI บนอุปกรณ์จะวิเคราะห์เนื้อหาและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมแบบเรียลไทม์ ปรับภาพและเสียงแบบไดนามิกเพื่อประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม
ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานด้านนวัตกรรม ฟีเจอร์ล่าสุดของ Samsung Vision AI เช่น Click to Search และ Live Translate รวมถึงผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยอย่าง Ballie เพื่อนคู่ใจ AI และ Smart Monitor M9 ที่มี Copilot ได้รับรางวัล CES Innovation Award ประจำปี 2025 อันทรงเกียรติ
ขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านความร่วมมือแบบเปิดในด้าน AI
ศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยการทำงานร่วมกับพันธมิตร AI รายต่างๆ เช่น Microsoft ซึ่งจะช่วยปูทางไปสู่ประสบการณ์ที่ชาญฉลาดและเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น รวมถึงการขยายระบบนิเวศหน้าจอ AI
Samsung ร่วมมือกับ Microsoft เปิดตัว Smart TV และ Smart Monitor รุ่นใหม่ที่มาพร้อม Microsoft Copilot ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการ Copilot ที่หลากหลาย รวมถึงคำแนะนำเนื้อหาส่วนบุคคล
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตร AI ชั้นนำรายอื่นๆ เช่น Google เพื่อขยายขีดความสามารถของ Vision AI
ด้วย Vision AI ทาง Samsung กำลังกำหนดนิยามใหม่ให้กับหน้าที่ของหน้าจอ มอบประสบการณ์ที่ชาญฉลาด เป็นส่วนตัว ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ช่วยให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น และยกระดับคุณภาพชีวิต
ยุคแห่งหน้าจอ AI
Samsung กำลังนำเสนอเทคโนโลยีหน้าจอที่ขับเคลื่อนด้วย AI ยุคใหม่ โดยฟีเจอร์ Samsung Vision AI ได้รับการผสานรวมเข้ากับไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งรวมถึง Neo QLED, OLED, QLED และ The Frame การขยายตัวครั้งนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Samsung ในการนำหน้าจออัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนได้มาสู่ผู้ใช้มากขึ้น กำหนดนิยามใหม่ให้กับความบันเทิงภายในบ้านและการใช้ชีวิตอัจฉริยะ
ผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดคือน Neo QLED 8K QN990F ทีวีรุ่นล่าสุดที่ล้ำสมัยที่สุดของ Samsung ออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้น ดีไซน์โฉบเฉี่ยว และประสบการณ์ AI ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ขับเคลื่อนด้วย NQ8 AI Gen3 Processor ทีวีรุ่นนี้ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ AI บนอุปกรณ์มากมาย เพื่อยกระดับคุณภาพของภาพ ความคมชัดของเสียง และประสบการณ์การรับชมโดยรวม
- 8K AI Upscaling Pro: ยกระดับเนื้อหาความละเอียดต่ำขึ้นไปสู่คุณภาพ 8K ที่น่าทึ่ง มอบรายละเอียดและความคมชัดที่เหลือเชื่อในทุกเฟรม
- Auto HDR Remastering Pro: วิเคราะห์เนื้อหาแบบเฟรมต่อเฟรม ปรับสีให้เข้ากับฉากเพื่อภาพที่สมจริงและสีสันสดใส แม้ในฉากมืด
- Adaptive Sound Pro: ใช้ AI เพื่อแยกและปรับแต่งองค์ประกอบเสียง เช่นเสียงพูด เพลง และเสียงประกอบ มอบเสียงที่คมชัดและสมดุล
- Color Booster Pro: เพิ่มมิติสีสันด้วยการวิเคราะห์ฉากที่ขับเคลื่อนด้วย AI และปรับปรุงการประมวลผลภาพสำหรับแต่ละเฟรม
- AI Mode: ปรับแต่งภาพและเสียงให้เหมาะสมโดยใช้การจดจำเนื้อหาและการวิเคราะห์พื้นที่ทีวีที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุดในทุกสภาพแวดล้อม
QN990F มาในดีไซน์แบบมินิมอลที่บางเฉียบ เป็นอุปกรณ์ความบันเทิงภายในบ้านระดับพรีเมียมที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความสวยงาม ด้วยฟีเจอร์ขั้นสูงและดีไซน์ที่หรูหรา ทีวีรุ่นนี้จะช่วยยกระดับทั้งประสิทธิภาพและสไตล์ของพื้นที่อยู่อาศัย มอบประสบการณ์ความบันเทิงที่ล้ำสมัยอย่างแท้จริง
วิสัยทัศน์ใหม่แห่งศิลปะ: ขยาย Samsung Art Store และเปิดตัว The Frame Pro
Samsung ยังคงมุ่งมั่นที่จะผสมผสานศิลปะและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ด้วยการขยาย Samsung Art Store และเปิดตัว The Frame Pro ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดในไลน์อัพ The Frame อันโด่งดัง นวัตกรรมเหล่านี้ตอกย้ำพันธกิจของ Samsung ในการทำให้ศิลปะเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เป็นส่วนตัว และผสานรวมเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
Samsung Art Store ขณะนี้มีผลงานศิลปะกว่า 3,000 ชิ้นจากพันธมิตรระดับโลก เช่น MoMA และผลงานของ Magritte และ Basquiat สำหรับปี 2025 คอลเลกชันที่ขยายใหญ่ขึ้นนี้จะมีให้บริการไม่เฉพาะใน The Frame และ MICRO LED เท่านั้น แต่ยังรวมถึง Neo QLED และ QLED อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากขึ้นในการเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นแกลเลอรีส่วนตัว นับเป็นอีกก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นของ Samsung ที่จะเติมเต็มบ้านด้วยประสบการณ์ศิลปะแบบไดนามิก
เพื่อเติมเต็ม The Frame ทาง Samsung ได้เปิดตัว The Frame Pro ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดในไลน์อัพนี้ ช่วยยกระดับประสบการณ์ศิลปะและความบันเทิงด้วยคุณภาพของภาพ Neo QLED ขั้นสูง มอบสีสันที่สดใส ความคมชัดที่มากขึ้น และการหรี่แสงเฉพาะจุดที่ดีขึ้นเพื่อสีดำที่เข้มขึ้น ขับเคลื่อนด้วย NQ4 Gen3 AI Processor ทำให้ The Frame Pro มอบคุณภาพของภาพที่เหนือชั้นสำหรับทั้งงานศิลปะและเนื้อหาวิดีโอ นอกจากนี้ยังมาพร้อม Wireless One Connect อันล้ำสมัย ช่วยให้ติดตั้งได้อย่างยืดหยุ่นและกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม
เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงกับโลกศิลปะ Samsung ได้ร่วมมือกับ Art Basel ทำให้ The Frame กลายเป็นจอแสดงผลงานศิลปะอย่างเป็นทางการของงานระดับโลกนี้
Hayley Romer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโตของ Art Basel กล่าวว่า “ภารกิจของเราคือการขับเคลื่อนโลกศิลปะ การมี Samsung เป็นพันธมิตรด้านจอแสดงผลงานศิลปะอย่างเป็นทางการระดับโลก ช่วยให้เราสามารถทำลายกำแพงทางกายภาพและดิจิทัล ทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นสามารถสัมผัสประสบการณ์ศิลปะในรูปแบบใหม่ๆ ที่มีความหมาย ผ่าน The Frame และ Samsung Art Store คนรักศิลปะสามารถนำผลงานระดับโลกมาไว้ในบ้าน เปลี่ยนวิธีการมีส่วนร่วมและชื่นชมศิลปะ”
Samsung Vision AI อนาคตของเทคโนโลยีหน้าจอ
Samsung ยังคงเป็นผู้นำในการกำหนดบทบาทใหม่ของหน้าจอ ความก้าวหน้าต่างๆ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยี แต่ยังสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลที่มีความหมาย ช่วยยกระดับชีวิตประจำวัน
ในงาน First Look 2025 ทาง Samsung ได้เปิดตัว The Premiere 5 โปรเจคเตอร์แบบเลเซอร์สามสีรุ่นแรกของอุตสาหกรรมที่ฉายภาพระยะใกล้พิเศษ (UST) The Premiere 5 ออกแบบมาเพื่อกำหนดนิยามใหม่ของความบันเทิงภายในบ้าน มาพร้อมฟีเจอร์หน้าจอสัมผัสแบบอินเทอร์แอคทีฟ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับหน้าจอได้โดยตรง นวัตกรรมนี้ผสมผสานการฉายภาพคุณภาพสูงเข้ากับฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย นำเสนอเทคโนโลยี Samsung LightWARP เพื่อฉายภาพลงบนวัตถุต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เพื่อประสบการณ์ที่สร้างสรรค์และสมจริง
Samsung ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีหน้าจอด้วย MICRO LED Beauty Mirror กระจกอัจฉริยะรุ่นใหม่นี้ผสมผสานความสามารถในการสะท้อนแสงและการส่องผ่านขั้นสูงเข้ากับข้อมูลเชิงลึกด้านความงามส่วนบุคคล แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีล้ำสมัยสามารถยกระดับกิจวัตรประจำวันได้อย่างไร กระจกนี้จะวิเคราะห์ผิวของแต่ละบุคคล และให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อให้การดูแลตัวเองง่ายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากโซลูชันความงามที่พัฒนาโดย Amorepacific บริษัทเครื่องสำอางชั้นนำของเกาหลี
ที่มา news.samsung.com