จับจังหวะปรับสินทรัพย์ลงทุนหลังประชุมเฟดแม้ตลาดหุ้นจีนเริ่มคลายกังวล แนะกระจายลงทุนใน Private Asset และ Structure Note หนุนลดความผันผวนของพอร์ต
SCB CIO ประเมินผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด (Fed) เป็นไปตามที่ตลาดคาด จากการขึ้นดอกเบี้ย 25 bps สู่ระดับ 0.25%-0.5% และคาดว่าเฟดมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีได้อีกราว 6 ครั้ง คาดทั้งปีจะขึ้นรวม 175 bps ครั้งละ 0.25% ส่งผลให้ปลายปีดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯจะอยู่ที่ระดับ 1.75-2.00%
ด้านตลาดหุ้นจีนเริ่มฟื้นตัวหลังเผชิญความผันผวนจากความกังวลเรื่องการคุมเข้มกฎระเบียบและความเสี่ยงหุ้นจีนที่จะถูกถอดถอนออกจากตลาดสหรัฐฯ จากการที่ทางการจีนออกมาให้ความเชื่อมั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพของตลาดและดูแลประเด็นหุ้นจีนในต่างประเทศมากขึ้น SCB CIO มองตลาดหุ้นโลกคลายกังวลช่วงสั้น แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่ในระยะข้างหน้า แนะถือสภาพคล่องในสัดส่วนมากกว่าปกติที่ 20-30% เพื่อรอความชัดเจนก่อนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเช่นตลาดหุ้นโลก เมื่อความผันผวนน้อยลง
–บลูบิค เปิดแผนรุกตลาดต่างประเทศ เตรียมปักธงอาเซียน ยุโรปและอเมริกา
–TOPGOLF เปลี่ยนสนามไดร์ฟกอล์ฟให้เป็นพื้นที่ของทุกคนด้วย เทคโนโลยี-ความบันเทิง
การลงทุนในตลาดหุ้นไทยและเวียดนามยังเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในช่วงนี้ และควรกระจายการลงทุนในPrivate Assets เพื่อช่วยลดความผันผวน และการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ Structure Note ที่สามารถบริหาร Downside Risk ของพอร์ตได้ดีขึ้น
ศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย SCB Chief Investment Office (SCB CIO ) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด (Fed)แผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในปีนี้เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ แต่ยังต้องจับตาระดับเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยในระยะข้างหน้าหากพิจารณาผลการประชุมเฟด เมื่อวันที่ 15-16 มี.ค. ที่ผ่านมา การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25 bps สู่ระดับ 0.25%-0.5% โดยได้ปรับคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ย (Dot Plot)
ล่าสุดในปี 2022 อยู่ที่ 7 ครั้ง ในปี 2023 อยู่ที่ 3-4 ครั้ง และในปี 2024 อยู่ที่ 2 ครั้ง ทำให้ปลายปีนี้ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ จะอยู่ที่ระดับ 1.75%-2.00% โดย SCB CIO มองว่าเฟด ให้ความสำคัญต่อเป้าหมายเสถียรภาพเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนการลดงบดุลมองว่าเฟดจะประกาศรายละเอียดและเริ่มทำการลดงบดุลในการประชุมเดือน พ.ค. ทั้งนี้ ยังต้องติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมจากรายงานการประชุมเฟดรอบนี้ที่จะถูกเปิดเผยในวันที่ 6 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ สัญญาณราคาพลังงานและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าที่จะเป็นตัวกำหนดระดับการขึ้นดอกเบี้ยในแต่ละรอบการประชุม โดยเฉพาะการขึ้นดอกเบี้ยในรอบที่เหลือของปีจะมีโอกาสขึ้นได้มากกว่า 25 bps หรือไม่ หากสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อและราคาสินค้าโภคภัณฑ์และน้ำมันยังพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง หากเป็นเช่นนั้น มองว่าเฟดอาจมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยตามในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งอาจจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดได้ต่อเนื่อง SCB CIO คาดว่าผลกระทบต่อดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น (2 ปี) และระยะยาว (10 ปี) ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่อาจจะยังไม่เกิดสภาวะ Inverted Yield Curve (เส้นผลตอบแทนพันธบัตรที่กลับด้านจากปกติ จากการที่ระดับดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มสูงขึ้นเร็วจนมีค่ามากกว่าระดับระยะยาว) ทำให้มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่เสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะข้างหน้า
ศรชัย กล่าวต่อไปว่า ความผันผวนในตลาดหุ้นจีนยังไม่หมดไป แม้ตลาดเริ่มคลายความกังวลในช่วงสั้น พร้อมจับตาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนโดยเฉพาะหุ้น Offshore (จดทะเบียนนอกตลาดจีน) ปรับฐานรุนแรงทั้งจากความกังวลด้านการคุมเข้มกฎระเบียบและความเสี่ยงที่หุ้นจีนบางบริษัทจะถูกถอดถอน (Delist) ออกจากตลาดสหรัฐฯ SCB CIO มองประเด็นความเสี่ยงด้านการปฏิรูปกฎระเบียบ (Regulation Risk) ยังเป็นความเสี่ยงต่อหุ้นจีนในระยะข้างหน้า แต่เชื่อว่าขนาดของผลกระทบจะไม่รุนแรงดังเช่นในปี 2021 ที่ทางการจีนเน้นคุมเข้มทั้งอุตสาหกรรม แต่การคุมเข้มในระยะข้างหน้าจะเน้นเฉพาะบริษัทที่ไม่ทำตามกฎและขัดขืนคำสั่งมากกว่า
ด้านความกังวลการถูกถอดถอนออกจากตลาดสหรัฐฯ (Delisting Risk) SCB CIO มองความเสี่ยงนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่และเป็นที่รับรู้ของตลาดอย่างกว้างขวางอยู่แล้ว หลังจาก HFCAA (Holding Foreign Companies Accountable Act) ถูกลงนามเป็นกฎหมายในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2020 ทั้งนี้ การเพิกถอนไม่ได้เกิดทันที โดยจะเกิดการเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดเฉพาะในกรณีที่ PCAOB (Public Company Accounting Oversight Board) ของสหรัฐฯ ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลจากผู้สอบบัญชีของบริษัทได้เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันเท่านั้น อีกทั้ง กรณีเลวร้ายหากถูกถอดถอน หลายบริษัทจีนในตลาดสหรัฐฯ ยังสามารถกลับเข้ามาจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงได้ ทำให้มองผลกระทบค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตาม
ประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิดเพิ่มเติม คือ กรณีความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีนจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งหากสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรหรือกีดการทางการค้าการลงทุนต่อจีนเพิ่มจากการที่จีนไม่ยอมประกาศคว่ำบาตรรัสเซียตามชาติมหาอำนาจอื่นๆ ความเสี่ยงนี้อาจสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงินโลกได้มากในระยะต่อไป และจะยิ่งทำให้ความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีนที่ตึงเครียดอยู่เดิมกลับมาเพิ่มความเข้มข้นและส่งผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกได้ โดยเฉพาะต่อตลาดหุ้นจีนในอนาคต
SCB CIO มองกลยุทธ์การลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตลาดหุ้นโลก ยังมีความไม่แน่นอน การถือครองเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงเป็นสัดส่วนมากกว่าปกติยังเป็นสิ่งจำเป็นในช่วงสั้นเช่น 20-30% ของเงินลงทุน เพื่อรอจะหวะเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นตลาดหุ้นโลก เมื่อความผันผวนลดลง ตลาดหุ้นไทยและเวียดนามยังน่าลงทุน และควรทยอยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน Private Assets เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความผันผวนด้านราคาน้อยกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น และการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ Structure Note จะช่วยบริหาร Downside Risk ของพอร์ตการลงทุนได้ดีมากขึ้น
กลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ SCO CIO แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยตราสาร (Duration) ต่ำเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของดอกเบี้ยโลกขาขึ้น ส่วนตราสารทุน แนะนำทยอยลงทุนในตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบต่ำจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน เช่น ตลาดหุ้นไทยและเวียดนาม เนื่องจาก ทั้ง 2 ประเทศ มีเสถียรภาพเศรษฐกิจแข็งแกร่งและตลาดหุ้นรับความผันผวนได้ดีในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับการจัดสรรพอร์ตการลงทุน SCO CIO แนะนำคงสัดส่วนการถือครองเงินสดและสภาพคล่องในระดับมากกว่าปกติ เช่น 20-30% ของเงินลงทุนในช่วงสั้น และทยอยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน Private Assets ทั้งในส่วนของ Private Equity และ Private Debt เนื่องจากราคาสินทรัพย์ Private Assets เช่น หุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาด จะได้รับผลกระทบด้านราคาต่ำกว่าราคาสินทรัพย์ Public Assets เช่น หุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงการลงทุนใน Structured Notes เช่น หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง ซึ่งให้ผลตอบแทนหรือมีมูลค่าเชื่อมโยงกับหลักทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ซึ่งอ้างอิงกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น เช่น ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ หุ้นรายตัว หุ้นหลายตัว ตราสารหนี้ โภคภัณฑ์ สกุลเงิน อัตราดอกเบี้ย ฯลฯ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถออกแบบและจำกัดความเสี่ยงได้ตามความเหมาะสม และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ตามความเสี่ยงที่รับได้ในช่วงที่ตลาดหุ้นโลกและตลาดสินทรัพย์เสี่ยงอื่นยังมีความไม่แน่นอนสูง
ภาพประกอบจาก unsplash
ในยุคที่ชีวิตเร่งรีบ อาหารแปรรูปกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมของคนทุกวัย ด้วยความสะดวก รสชาติอร่อยถูกปาก และหาซื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แฮม หรืออาหารกระป๋อง แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยสารกันบูดและสารเคมี ถ้ากินบ่อย ๆ ก็จะเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็ง ซึ่งรวมถึง “มะเร็งเต้านม” ได้เช่นกัน…
ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าเป็นอย่างยิ่ง ช้อปปี้ จึงมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจในทุกประสบการณ์การซื้อขายบนแพลตฟอร์ม ช้อปปี้มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เหนือระดับ พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ซื้อ เรามอบประสบการณ์การช้อปที่ปลอดภัย ยุติธรรม และมีคุณภาพสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกการทำธุรกรรม ซึ่งทำให้ทุกการช้อปปิ้งเป็นไปได้อย่างราบรื่น ด้านผู้ขาย ช้อปปี้มุ่งยกระดับความเชื่อมั่นในด้านการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับกฎหมาย…
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่น่าจับตามองในวงการอสังหาริมทรัพย์ เมื่อ MGallery Residences MontAzure (เอ็มแกลเลอรี เรสซิเดนซ์ มอนท์เอซัวร์) คอนโดมิเนียมสุดหรูริมทะเลสาบพร้อมกรรมสิทธิ์ถือครองอย่างสมบูรณ์ (Freehold) ตั้งอยู่บนทำเลไพร์มโลเคชันในอาณาจักร MontAzure (มอนท์เอซัวร์) ได้จัดพิธีเทปูนปิดโครงสร้างอาคารไปเป็นที่เรียบร้อย พร้อมประกาศเร่งเดินหน้าต่อเพื่อให้โปรเจกต์ระดับเวิลด์คลาสแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ตามแผนงานที่วางไว้…
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "True" รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2567 เผยมีกำไรต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังปรับปรุงรายการพิเศษ (Normalized Net Profit After Tax)…
BizTalk x Sunny Horo กับคอลลัมน์ ดวงธุรกิจ Weekly ชวนมาอัพเดต ดวงประจำวันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2567 กัน ใครเกิดตรงกับวันไหน…
Biztalk วันอาทิตย์ที่ 27 ต.ค. 67 พาไปคุยกับ ณัฐภัทริ์ อุณหคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หลังจากไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถไฟฟ้าโมโนเรล ที่เมืองอู๋หู มณฑลอานฮุย สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งโรงงานนี้เป็นผู้ผลิตโมโนเรล…