เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นที่น่าสนใจอยากมากเลยทีเดียวในช่วงก่อนเปิดเทอมที่ผ่านมาสำหรับ StartDee ภายใต้แนวคิดของผู้ก่อตั้ง และซีอีโอหนุ่มรุ่นใหม่ คุณไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาบูรณาการในการออกแบบหลักสูตร ผ่านการคิดค้น พัฒนา และทดลองใช้งานจริง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และพฤติกรรมการเรียนของเด็กนักเรียนทั่วประเทศ เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดการศึกษาไทย ล่าสุดขึ้นแท่น ท็อป 3 แอปพลิเคชันด้านการศึกษาไทยเป็นทีเรียบร้อย
ทั้งนี้ยังได้เปิด BIG DATA เผยพฤติกรรมเด็กเรียนออนไลน์มี 3 รูปแบบ ได้แก่ Power Learner, Active Learner และ Passive Learner พร้อมชู 3 จุดแข็ง “เข้าถึงทั่วประเทศ – บทเรียนดีที่ตอบโจทย์ และ เข้าใจนักเรียน”
จาก BIG DATA ของ StartDee พบพฤติกรรมเด็กเรียนออนไลน์ ที่แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ Power Learner, Active Learner และ Passive Learner
กลุ่มแรก คือ Power Learner เป็นกลุ่มนักเรียนที่มีความขยัน กระตือรือร้น มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนออนไลน์ และสามารถใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ได้อย่างคล่องแคล่ว ตลอด 3 สัปดาห์ นักเรียนกลุ่มนี้เข้ามาใช้งานอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นในทุกสัปดาห์ โดยระยะเวลาการเข้าใช้แอปรวมในสัปดาห์ที่ 3 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ 2 ถึง 43% ทั้งยังมียอดการทำแบบฝึกหัดโดยเฉลี่ยมากขึ้นถึง 14.8% สำหรับเด็กกลุ่มนี้ StartDee จึงมีฟีเจอร์ “My StartDee” รายงานผลการเรียนของผู้ใช้แต่ละคน พร้อมกับฟีเจอร์ “ตะลุยโจทย์” ให้ผู้เรียนเข้าไปตะลุยโจทย์เสริมสร้างความเข้าใจได้อย่างเต็มที่
กลุ่มที่สอง คือ Active Learner เป็นผู้เรียนกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ทั้งหมด ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเข้ามาใช้งานอย่างต่อเนื่อง แต่ยังใช้เวลาเรียนในแอปพลิเคชันไม่มากนัก โดยน้อง ๆ ส่วนใหญ่ยังคุ้นเคยกับการเรียนที่ได้พบเจอและมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน แต่ก็พร้อมเปิดรับแพลตฟอร์มออนไลน์ และใช้เป็นแหล่งข้อมูลเสริมในการทบทวนเนื้อหาที่โรงเรียน และทำความเข้าใจกับบทเรียนที่ยังไม่เข้าใจ เพื่อตอบโจทย์การเรียนออนไลน์ของเด็กกลุ่มนี้ StartDee จึงมีฟังก์ชันการค้นหา เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนเฉพาะบทเรียนที่สนใจได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ “กระทู้ถามตอบ” ที่เปิดให้ผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ในการเรียนร่วมกัน และถาม-ตอบคำถามระหว่างกันในแอปได้ เสมือนมีเพื่อนเรียนอยู่ด้วยกันตลอด
กลุ่มสุดท้าย คือ Passive Learner เป็นนักเรียนกลุ่มที่เข้ามาลงทะเบียนเรียนและทดลองใช้แอปพลิเคชันแล้ว แต่ยังขาดการเข้ามาใช้งานอย่างต่อเนื่อง เด็กกลุ่มนี้ใช้เวลาในการเรียนต่อสัปดาห์ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับสองกลุ่มก่อนหน้า ทั้งยังมองว่าการเรียนออนไลน์เป็นรูปแบบการเรียนที่น่าเบื่อ เน้นใช้งานออนไลน์แพลตฟอร์มเพื่อหาความบันเทิง เช่น เล่นเกม หรือรับชมคลิปบนยูทูปเป็น เพื่อจูงใจเด็กกลุ่มนี้ และเปลี่ยนแนวคิดว่าการเรียนออนไลน์ก็เป็นเรื่องสนุกได้ StartDee จึงออกแบบการใช้งานแอปให้มีความเป็นเกม (Gamification) พร้อมเสนอฟีเจอร์ “StartDee World” ให้ผู้เรียนได้สะสมเหรียญรางวัล เมื่อทำแบบทดสอบหรือภารกิจประจำวันสำเร็จ ซึ่งสามารถนำไปใช้ตกแต่งตัวละครร่วมกันกับเพื่อนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ StarDee ได้เปิดเผยถึง 3 จุดแข็งดังนี้
1. เข้าถึงทั่วประเทศ
ภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ พบว่ามีเด็กนักเรียน 1,196 โรงเรียนจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ เข้ามาลงทะเบียนเรียนในระบบของ StartDee เหตุที่ StartDee สามารถเข้าถึงเด็กไทยได้อย่างครอบคลุม มีปัจจัยหลักมาจากการออกแบบบทเรียนสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายผ่านสมาร์ทโฟนทุกรุ่นรองรับทุกระบบ ทั้ง iOS และ Android ซึ่งสมาร์ทโฟนนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงเด็กไทยได้มากถึง 86% ทั่วประเทศ (อ้างอิงจากฐานข้อมูลของ OECD)
2. บทเรียนดีที่ตอบโจทย์
เมื่อเจาะลึกไปที่ Big Data เกี่ยวกับพฤติกรรมการเรียนออนไลน์ของเด็กนักเรียนทั่วประเทศ พบว่ามีรูปแบบการเรียนออนไลน์ที่เหมาะสำหรับเด็กไทย อยู่ 3 ประการหลัก ได้แก่ บทเรียนดี ต้อง “สั้น กระชับ ประทับใจวัยรุ่น” , บทเรียนดี ต้อง “ปรับช้า-เร็วได้ตามใจ กดหยุดเมื่อไรก็ได้ตามต้องการ” , บทเรียนดี ต้อง “มีเรื่องราว”
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้โดยง่าย StartDee จึงนำแอนิเมชันบทบาทสมมติมาเล่าให้ต่อเนื่องตลอดทั้งบทเรียน โดยเมื่อพิจารณา 10 อันดับคลิปวิดิโอที่ได้รับความนิยมสูงสุดภายในแอป พบว่าทุกคลิปล้วนมีความสั้น กระชับ และมีลักษณะความเป็นเรื่องราว ได้แก่
“เปิด” บทเรียนอย่างน่าสนใจด้วยบทบาทสมมติ
“เล่า” ด้วย story ประจำบทเรียนที่สอดคล้องกันในทุกหัวข้อย่อย
“ลื่นไหล” ด้วยแอนิเมชันและ real-time pop-up text
“ปิด” ด้วยการสรุปรวบยอดก่อนจบคลิป
3. เข้าใจนักเรียน
จาก BIG DATA ของ StartDee พบพฤติกรรมเด็กเรียนออนไลน์ แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ Power Learner, Active Learner และ Passive Learner โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มจะมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ StartDee จึงได้มีฟีเจอร์ที่เฉพาะเจาะจงแต่ละกลุ่มเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพฤติกรรมของเด็ก ดังนี้
Power Learner กลุ่มนักเรียนที่มีความขยัน กระตือรือร้น มีฟีเจอร์ “My StartDee” รายงานผลการเรียนของผู้ใช้แต่ละคน พร้อมกับฟีเจอร์ “ตะลุยโจทย์” ให้ผู้เรียนเข้าไปตะลุยโจทย์เสริมสร้างความเข้าใจได้อย่างเต็มที่
Active Learner เป็นผู้เรียนกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด มีฟีเจอร์ “กระทู้ถามตอบ” ที่เปิดให้ผู้เรียนสามารถมีปฏิสัมพันธ์ในการเรียนร่วมกัน และถาม-ตอบคำถามระหว่างกันในแอปได้ เสมือนมีเพื่อนเรียนอยู่ด้วยกันตลอด
Passive Learner เป็นนักเรียนกลุ่มที่เข้ามาลงทะเบียนเรียนและทดลองใช้แอปพลิเคชันแล้ว แต่ยังขาดการเข้ามาใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพื่อจูงใจเด็กกลุ่มนี้ จึงมีฟีเจอร์ “StartDee World” ให้ผู้เรียนได้สะสมเหรียญรางวัล เมื่อทำแบบทดสอบหรือภารกิจประจำวันสำเร็จ