ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ จาก TDRI เปิดเผย หลังการแถลงข่าวความร่วมมือของ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง เครือซีพี และ กลุ่มเทเลนอร์ ว่า การควบรวมของ ทรู และ ดีแทค หากทำสำเร็จ จะทำให้เกิดการผูกขาดมากขึ้นในระดับอันตราย
ในอดีตประเทศไทยนั้นมีประสบการณ์จากการผูกขาดโดยการควบรวมทั้ง
-เคเบิ้ลทีวี: เมื่อควบรวมทำให้แพ็กเกจราคาแพงขึ้น โดยเฉพาะแพ็กเกจที่ดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้
-โรงหนัง: มีราคาตั๋วหนังแพงเมื่อเทียบกับต่างประเทศ
-ค้าปลีก: การควบรวมร้านค้า ทำให้ผู้ซื้อไม่ได้โปรโมชั่นเท่าเดิม
-แพลตฟอร์ม รถยนต์-ส่งอาหาร: การที่ Grab ควบรวม Uber เข้าไป ทำให้มีการผูกขาดเพียงรายเดียว
-โรงพยาบาล: โรงพยาบาลเอกชน ราคาค่ารักษาแพงมากขึ้นเมื่อถูกควบรวม
สำหรับการผูกขาดเชิงโครงสร้างนั้น โดยปกติจะมีการวัดดัชนีการกระจุกตัว หรือ Herfindahl-Hirschman Index (HHI) โดยวัดค่าสูงสุดที่ 10,000 หากมีการผูกขาดเพียงรายเดียว
(วิธีคิดคือการ นำเปอร์เซ็น (%) ส่วนแบ่งตลาดมายกกำลัง 2 เช่น 100 ยกกำลัง 2 เท่ากับ 10,000)
ดร.สมเกียรติ ยกตัวอย่างการแข่งขันสมาร์ทโฟนที่มีคู่แข่งมากมายหลายยี่ห้อทั้ง Apple, Samsung, Oppo, Vivo, Xiaomi, Huawei เมื่อนำส่วนแบ่งตลาดของแบรนด์เหล่านี้มารวมกัน ก็ยังถือว่าต่ำกว่าค่าสูงสุด 10,000 มาก หมายความว่าผู้บริโภคมีทางเลือก และการแข่งขันยังไม่ถูกผูกขาด
“ตลาดโทรศัพท์มือถือไทยมีโครงสร้างกึ่งผูกขาดอยู่แล้ว ถ้าเกิดการควบรวมของ ทรู และ ดีแทค สำเร็จ ก็จะทำให้เกิดการกระจุกตัวเพิ่มขึ้นในระดับอันตราย เพราะเหลือตัวเลือกเพียงแค่ 2 ค่าย”
สำหรับผลกระทบที่เกิดจากการควบรวมนั้น แบ่งเป็นด้านบวก และ ลบ
ผู้ได้รับผลกระทบด้านบวก
คือ ผู้ถือหุ้นของบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย รวมถึง AIS จะได้ผลประโยชน์ไปด้วย ดูได้จากราคาหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นในวันที่ผ่านมา
ผู้ได้รับผลกระทบด้านลบ
ดร.สมเกียรติ มองว่า ตลาดโทรศัพท์มือถือไทยจะถอยหลังกลับไปก่อนปี 2547 โดย
-ผู้บริโภค ทั้งประชาชนทั่วไป และธุรกิจต่างๆ อาจจะถูกผูกขาดด้วยโปรโมชั่นต่างๆ ที่ถูกบังคับให้เลือกใช้
-คู่ค้าของบริษัทโทรคมนาคม ทั้งร้านค้า และสตาร์ทอัพ จะได้รับผลกระทบเพราะไม่ได้หมายความว่าการควบรวมจะสร้างนวัตกรรมออกมาได้มากจริงอย่างที่กล่าวอ้าง
-รัฐบาลจะเก็บภาษีจากผู้ประกอบการได้น้องลง
-เศรษฐกิจไทย จะถูกผูกขาดโครงสร้างพื้นฐานมากขึ้น และอาจจะตกขบวนกับการก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
สำหรับ กสทช. ที่มีกฎหมายเขียนไว้ชัดเจน ดร.สมเกียรติ มองว่า กสทช. ควรนำกฎหมายมากางดูโดยละเอียด ซึ่งกฎหมายให้อำนาจในการออกกฎหมายลูกได้ โดยไม่ต้องผ่านสภาฯ โดยทางกสทช. สามารถประกาศใช้ได้เลย เพื่อตรวจสอบการควบรวมให้ได้ เช่นเดียวกับ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ก็มีกฎหมายการแข่งขันทางการค้า ที่น่าจะเข้ามากำกับดูแลการผูกขาดได้ แต่ปัจจุบันทั้ง 2 หน่วยงานยังไม่ได้ออกมาสื่อสารอะไร
Biztalk Gadget จะมา รีวิว TECNO CAMON 40Pro สมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 7,000 บาท ที่มาพร้อมดีไซน์บาง เบา กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68/69 กล้อง…
โรงเรียนนานาชาติคิงส์คอลเลจกรุงเทพ (King’s Bangkok) เดินหน้าสานต่อพันธกิจสำคัญในการมอบโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมแก่เยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ประกาศมอบทุน ‘King’s Bangkok Academic Excellence Scholarship’ เป็นปีที่ 3 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนผู้ที่มีศักยภาพให้ได้รับการศึกษาในระดับนานาชาติอย่างเต็มที่ ทุนการศึกษานี้เปิดกว้างสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (Year…
ไปรษณีย์ไทย รุกตลาดท่องเที่ยว เปิดตัวบริการใหม่ "Travel Lite by Thailand Post" อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวให้เดินทางตัวเปล่า หมดกังวลเรื่องสัมภาระ สามารถฝากเก็บและรับ-ส่งกระเป๋าเดินทางและสัมภาระต่างๆ ได้ง่ายดาย ในราคาเริ่มต้นเพียง 100 บาท…
ตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะผันผวนอย่างหนัก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากนานาประเทศแบบไม่ทันตั้งตัว ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกเทขายหุ้นด้วยความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจตามมา เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นใน "วันปลดแอก" (2 เมษายน 2568) เมื่อผู้นำสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษ โดยกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำ 10% สำหรับสินค้าจากทุกประเทศที่ส่งเข้ามายังสหรัฐฯ…
ไปรษณีย์ไทย จับมือกับ บริษัท เทคซอส ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมกันพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีและข้อมูล สู่บริการใหม่ "Data-as-a-Service" หวังสร้างโอกาสทางธุรกิจและยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้บริการในแวดวงโลจิสติกส์ พิธีลงนามจัดขึ้น ณ อาคารภาณุรังษีไปรษณียาคาร สำนักงานใหญ่…
กสทช. เร่งเครื่องโอเปอเรเตอร์ เปิดใช้งานระบบ Cell Broadcast เต็มสูบ รองรับทั้ง Android และ iOS หวังแจ้งเตือนภัยพิบัติประชาชนได้ทันท่วงที แม้ระบบกลางของ ปภ. ยังไม่พร้อม ไตรรัตน์…
This website uses cookies.