U City จะทำการเข้าซื้อหุ้น 24.9% ในบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (“Singer”) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 7 พันล้านบาท เข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดเพียงหนึ่งเดียวของซิงเกอร์ และเข้าลงทุน 9.9% ในบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) (“Jaymart”) ในจำนวน 4 พันล้านบาท โดยการลงทุนของ U City ในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นการเติบโตให้กับธุรกิจของซิงเกอร์และเจมาร์ทที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว จะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของซิงเกอร์และเจมาร์ท ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้
นอกจากนี้ U City ลงทุนอีก 1.5 พันล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้น 75% ในบริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“A Life”) ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 0.3% โดย U City วางแผนที่จะสนับสนุน A Life ในการขยายส่วนแบ่งการตลาด ผ่านกลยุทธ์ต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย การแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตขนาดย่อยที่เข้าถึงง่าย การขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตภายใต้เครือข่ายของ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) ซิงเกอร์ และ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) รวมไปถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ร่วมกับพันธมิตรใหม่ภายใต้เครือข่าย MOVE, MIX และ MATCH (หรือ “3M”) ของกลุ่มบีทีเอส ทั้งนี้ A Life จะมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อขยายการขายผลิตภัณฑ์ต่อไปในอนาคต โดยบริษัทฯ คาดว่าการลงทุนนี้จะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้เช่นกัน
ในขณะเดียวกัน U City ได้แสดงความตั้งใจที่จะยุติการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว บริษัทฯ จึงประกาศขายธุรกิจโรงแรมที่เหลืออยู่ในยุโรปเกือบทั้งหมด รวมถึงการขายแบรนด์เวียนนา เฮ้าส์ และส่วนหนึ่งของบริษัท แอ๊บโซลูท โฮเต็ล เซอร์วิส จำกัด ทั้งนี้บริษัทฯ คาดว่าธุรกรรมนี้จะสร้างกำไรให้แก่บริษัทฯ และ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี
นายกวิน กาญจนพาสน์ กรรมการ U City และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เนื่องจากสถานการณ์โควิด ทำให้ U City ได้ทำการทบทวนทิศทางการดำเนินธุรกิจในระยะยาวใหม่อีกครั้ง และการตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นการดำเนินการที่รวดเร็ว พร้อมลุย กลยุทธ์ในการพลิกฟื้นธุรกิจจากอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นขาลง เราเชื่อมั่นว่าจุดเปลี่ยนครั้งนี้ของ U City จะทำให้เราก้าวไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้น รวมถึงมุ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง โดยที่ U City จะสามารถใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์และเครือข่าย 3M ของกลุ่มบีทีเอส เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น บริษัทฯ จะดำเนินการขายพอร์ตอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ข้อตกลงและราคาที่สร้างผลกำไรให้แก่บริษัทฯ โดยที่เราจะจัดสรรเงินทุนที่ได้รับไปต่อยอดธุรกิจทางการเงินต่อไป”