เทคโนโลยีเสมือนหรือ Metaverse เข้าใกล้คนไทยมากขึ้นทุกที ล่าสุดมีผู้เปิดเมืองในโลกเสมือนใหม่ในชื่อ Velaverse เป็นการร่วมมือกันระหว่างภาคธุรกิจเอกชน และภาคการศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา
มารุต ขุ่มขุนทด CEO คลาส คอฟฟี่ จำกัด เจ้าของโปรเจกต์ Velaverse ให้สัมภาษณ์กับ Biztalk ว่า “Velaverse คือ โลกเสมือนที่มีพื้นที่ไม่จำกัด บริหารแบบกระจายอำนาจรูปแบบใหม่ (Decentralized) และเป็น Metaverse ตัวแรกๆ ที่เราพัฒนาออกมา เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในโลกเสมือน”
ด้วยความที่เป็นโลกใหม่ จึงสามารถสร้างแรงงานในโลกอนาคตได้อีกมากมาย นอกเหนือจากสายงานพัฒนาโปรแกรม ซึ่งแรงงานกลุ่มบล็อกเชน ผู้พัฒนาเว็บ 3.0 กราฟิก 3D หรือพัฒนา VR เป็นกลุ่มที่มีค่าตัวแพง
–CLASS CAFE เปิดตัว VELAVERSE นำร่องสู่ Metaverse เต็มรูปแบบแห่งแรกของโคราช
–Class Cafe เปิดตัว Class Coin รับกระแสคริปโตบูม ซุ่มพัฒนา “เวลาเวิร์ส” บุกธุรกิจเมตาเวิร์ส
“แทนที่จะให้เด็กจบใหม่ไปเริ่มต้นแบบไม่มีประสบการณ์ จะได้ค่าแรงต่ำ ในโลก Metaverse ไม่มีใครมีประสบการณ์ ทุกคนใหม่หมด คนที่เริ่มต้นก่อนจะได้รับประสบการณ์ที่ไม่มีใครมี เพราะฉะนั้นเงินเดือนก็จะสูงขึ้น”
สร้างแรงงานคนรุ่นใหม่ ค่าแรงสูง
มารุต กล่าวว่า สำหรับ Class ที่เริ่มต้นในภาคอีสาน เพราะตั้งใจว่าจะสร้างงานที่มีคุณภาพ เป็นแรงงานที่ได้เงินเดือนสูง
เด็กที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเพลง จากที่ต้องนั่งทำเพลงหรือรอไปทำงานเป็น DJ ในผับตอนกลางคืน แต่ถ้าเข้ามาทำ Sound Engineer ในโลก Metaverse เหมือนกับกลุ่ม DJ ที่เข้ามาทำงานใน Velaverse สามารถทำสถานีออนไลน๋ได้ 24 ชม.
คนที่มีความรู้ด้านการออกแบบตัวละคร เมื่อใส่ความรู้ด้าน NFT กับ Blockchain เข้าไป ก็จะเป็นคนที่มีความรู้ใหม่ๆ และมีค่าตัวสูงขึ้น หรือคนที่เรียนด้านสถาปัตยกรรม เรียนออกแบบ สามารถมาออกแบบอาคารใน Velaverse ได้
“บนโลก Metaverse เราแค่ปรับเปลี่ยนวิธีคิด เข้ามาทดลองสิ่งใหม่ๆ ด้วยตนเอง เพื่อทำความเช้าใจเป็นคนแรกๆ ก็จะเกิดอาชีพใหม่ๆ ได้ทันที”
มารุต กล่าวต่อว่า วันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ นี้ มีแผนจะเปิดให้ผู้ใช้เข้าไปเดินในเมืองได้ มาพบปะกับธุรกิจที่เข้ามาเปิดร้าน นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยเข้ามา คงต้องรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
สำหรับการซื้อสินค้า เมื่อทุกอย่างเป็นระบบดิจิทัล ผู้ซื้อแค่ไปหน้าร้านและเลือกบริการเดลิเวอรี ผู้ให้บริการก็จะส่งสินค้าไปถึงที่บ้านได้ทันที
ส่วนเสื้อผ้าที่เข้ามาขายใน Velaverse สามารถสร้างคอนเซปต์ ให้ผู้ซื้อลองชุดหรือเปลี่ยนเสื้อได้ เมื่อกดสั่งก็จะเชื่อมต่อให้ทางร้านส่งสินค้ามาได้เลย
ซึ่งการซื้อสินค้าใน Velaverse จะใช้ Class Coin ชำระค่าสินค้าทั้งหมด
เมื่อถามว่า การถูกห้ามใช้คริปโทเคอร์เรนซีชำระสินค้า เป็นอุปสรรคไหม มารุต ตอบในประเด็นนี้ว่า “เราเข้าใจหน่วยงานรัฐ เพราะมันเป็นโลกใหม่ ไม่มีใครรู้ว่าทำไปแล้วจะเจอกับอะไรบ้าง เราเองก็อยากได้รับการส่งเสริม”
มารุต กล่าวต่อว่า ความโชคดี คือ โปรเจกต์ Velaverse เป็นการทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐ และเปิดโอกาสให้ภาครัฐเข้ามาศึกษา ว่าทำถูกต้องหรือไม่ ตรงไหนควรหรือไม่ควรทำ ซึ่งเราทำเรื่องที่ถูกต้องทั้งหมดเพื่อจะเดินไปข้างหน้า
Velaverse เป็นโปรเจกต์ที่คิดแบบไม่ซับซ้อน ผู้ใช้สามารถคริปโทฯ เป็นเหมือนจุดแลกบัตรเติมเงินในพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด เข้าข่าย Utility พร้อมใช้ ตามที่ ก.ล.ต. แนะนำมา
“เราเองในฐานะที่ทำงานสนับสนุนรัฐบาล และให้ความร่วมมือมาตลอด เราต้องทำงานด้วยกัน ไม่ใช่ขัดแย้งกัน เพื่อให้เราเดินไปข้างหน้าได้ กลับกัน ถ้าเกิดติดขัดในด้านใดก็แชร์กลับไปที่ภาครัฐ”
มารุต กล่าวต่อว่า การนำธุรกิจออกไปอยู่ต่างประเทศมันง่ายนิดเดียว แต่ถ้าเราทำให้เมืองไทยเกิดโอกาสใหม่ๆ สร้างให้คนมีงานทำ ให้ธุรกิจเดินหน้าได้ เรื่องแบบนี้หน่วยงานรัฐจะเข้ามาช่วย และเข้ามาสนับสนุนเรา ในภาวะที่เศรษฐกิจยากขึ้นเรื่อยๆ เงินเฟ้อสูงขึ้นเรื่อยๆ เราต้องร่วมมือร่วมใจกัน
โลก Metaverse แค่ฟองสบู่?
มารุต กล่าวว่า การที่บางคนมองว่าเป็นฟองสบู่นั้นเป็นข่าวดี เพราะหมายความว่าธุรกิจนี้จะเจริญมาก เติบโตมาก แพลตฟอร์มต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ยั่งยืน การเดินแบบไม่กอบโกย เดินแบบสร้างแรงงานไปด้วยกัน สร้างผู้ประกอบการใหม่ไปด้วยกัน จะช่วยสร้างพื้นที่ให้แข็งแรง การที่คนมีงานทำจริง มีรายได้จริง ไม่ใช่เพียงแค่เก็งกำไร คือการสร้างความยั่งยืน
คนที่จะเข้ามาลงทุนในโลกนี้ต้องเปิดใจมากๆ ทดลองเข้ามาก่อน มาลองซื้อขายที่ดิน ซื้อขายเหรียญ เรียนรู้ไปทีละสเต็ป พอเข้าใจมากขึ้นก็ค่อยเดินต่อ จนสามารถประเมินความเสี่ยงได้ รู้ว่าเราลงทุนได้แค่ไหน เพราะวันนี้มันเป็นพิ้นที่ใหม่ที่น่าลงทุน ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยง
อยากเข้าสู่โลก Velaverse ต้องทำอย่างไร
เมื่อเข้ามาที่ เว็บไซต์ https://velaverse.io ให้ทำการเปิดกระเป๋าตัง (Wallet) และ เข้าสู่ระบบเพื่อเข้าใช้พื้นที่
จากนั้นสามารถจับจองพื้นที่ ใช้บริการกับคนที่เปิดให้บริการแล้ว ในอนาคตจะมีธุรกิจค่อยๆ เปิดตามมา
คนที่เข้ามาจะเห็นเป็นแผนที่ 3 มิติ (3D) เหมือนเมือง สามารถจับจองที่ดินและสร้างเป็นบ้านตัวเอง เปิดร้านค้าตัวเอง เป็นการเปิดประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้คนเข้ามาช้อปปิ้ง ซึ่งในโลกเสมือนนี้สามารถออกแบบได้อย่างไร้ข้อจำกัด คนที่คิดนอกกรอบได้จะได้เปรียบ
