Watsons (วัตสัน) เผยทิศทางธุรกิจ ประจำปี 2567 เน้นขยายการเติบโต มุ่งหน้าชูกลยุทธ์การช้อปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์ (O+O) รับการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า พร้อมเดินหน้าความยั่งยืน เปิดตัว Greener Store แห่งแรกในไทย ใจกลางสยามสแควร์ ติดตั้งโชลาร์รูฟเพื่อนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้เป็นเครื่องปรับอากาศภายในร้าน และใช้วัสดุรีไซเคิลตกแต่งร้าน
พสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า แนวคิด Greener Store ถือเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของวัตสันในการสร้างวัฒนธรรมที่บ่มเพาะความยั่งยืนในกระบวนการดำเนินงาน และปฏิบัติการต่างๆ ในทุกๆ วัน ซึ่งแนวคิดดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดใช้พลังงาน รวมถึงเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน และการมีส่วนร่วมของลูกค้า
“ร้าน Watsons 95% อยู่ในห้างสรรพสินค้า ส่วนสาขาที่ทำได้ เราจะพยายามทำให้มากที่สุด ซึ่งต้นทุนในการเปลี่ยนร้านสู่ความยั่งยืนใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นประมาณ 20% แต่สามารถลดการใช้พลังงานได้ 25% ซึ่งคุ้มค่ากับการลงทุน” พสิษฐ์ กล่าวเสริม
สำหรับแผนในปี 67 นี้ Watsons เดินหน้าขยายเพิ่ม 50 สาขาทั่วไทยเป็นอย่างน้อย เท่ากับค่าเฉลี่ยในปีก่อนๆ และตั้งใจว่าอยากจะเปิดเป็นร้านแบบ Stand alone ประมาณ 10 สาขา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเล

ไม่เพียงแค่การทำสโตร์ให้สอดคล้องกับความยั่งยืน ยังนำ EV Truck มาใช้ในระบบโลจิสติกส์ ด้านการจัดส่งสินค้า โดยเริ่มต้นที่ 6 คัน แบ่งเป็นรถลากที่เดินทางระหว่างจัดหวัด 2 คัน และเป็นกระบะ 4 คัน ซึ่งในอนาคตตั้งเป้าจะเปลี่ยนระบบโลจิสติกส์เป็น EV ให้ได้ทั้งหมด 100%
ด้านความยั่งยืนผลิตภัณฑ์ ปัจจุบัน Watsons มีสินค้าที่สนันสนุนความยั่งยืนมากกว่า 1400 SKU จากสินค้าทั้งหมดประมาณ 5000 กว่า SKU ซึ่งสินค้าเหล่านี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำวัตถุดิบมาจากธรรมชาติ และเมื่อใช้แล้วไม่ทำลายธรรมชาติ โดยปีที่ผ่านมามีการใช้วัตถุดิบที่ผ่านการรีไซเคิลมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ 17% และในปี 2025 ตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 30%
ส่วนกลยุทธ์การตลาด ยังเดินหน้า กลยุทธ์ O+O (ช้อปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์) เพราะพฤติกรรมลูกค้าทั่วไปซื้อสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ต่อเนื่องมาจากหลังช่วงโควิด ซึ่งกลยุทธ์กลยุทธ์ O+O ถือว่าประสบความสำเร็จในการมอบประสบการณ์การชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อ โดยเฉพาะในปัจจุบันมีสมาชิกวัตสันคลับ มากกว่า 9 ล้านคนที่ได้รับสิทธิพิเศษผ่าน “โปรโมเชื่อม” โปรโมชั่นที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อการชอปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์สำหรับสมาชิกโดยเฉพาะ และการดำเนินกลยุทธ์ O+O ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาบริษัทเติบโต 2 ดิจิต (มากกว่า 10%) และในไตรมาส 1 ปี 67 ยังเติบโตได้ตามเป้าหมาย
พสิษฐ์ กล่าวเสริมอีกว่า “นอกเหนือจากความสำเร็จทางธุรกิจ Watsons ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืนของชุมชน ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่สดใส ด้วยโครงการริเริ่มต่างๆ เช่น แคมเปญ Give a Smile กับ Operation Smile ตั้งเป้าฟื้นฟูรอยยิ้ม 10,000 รอยยิ้มภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งก้าวต่อๆ ไปของเรา ก็จะยังคงมุ่งมั่นในการส่งต่อประสบการณ์การชอปปิ้งที่ดีที่สุด และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน รวมถึงสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับความสุขและยิ้มได้ในทุกๆ วัน”