อาณาจักร Xiaomi มีขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ คำนี้อาจจะไม่จริงนัก แต่ถ้าบอกว่า มี่ ขายตั้งแต่ไม้แคะหูอัจฉริยะยันรถยนต์ อันนี้ถูกต้อง!
แบรนด์นี้ คุ้นหู คุ้นตากันดีในบ้านเรา หลังจากผ่านการครบรอบ 10 ปี ฉาวหมิ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “เสี่ยวมี่” นั่นแหละ วันนี้เลยพาไปส่องแก็ดเจทล้ำ กับประวัติของแบรนด์ดังจากแดนมังกร ที่ขายมันทุกอย่างซะหน่อย
จุดกำเนิดในปี 2004 ที่เริ่มมีการก่อตั้งแบรนด์ Xiaomi นี้ ไม่ได้เริ่มจากการทำอุปกรณ์ใดๆทั้งสิ้นเลยนะ! อย่าพึ่ง งง เพราะจุดเริ่มต้นมาจากการพัฒนาซอฟท์แวร์ เอาระบบ Android มาปรับแต่งนั่นแหละ
แต่ที่ปรับแต่งจนได้รับการยอมรับเพราะพี่แกโดดเด่น รวมคนเก่งๆ 8 คนมาร่วมกันพัฒนา MIUI หรือ Me You I ที่เรียบง่าย หรูหรา มาพร้อมฟังก์ชันแบบครบๆ
จนไปจับการทำมือถือที่เป็นตัวทอปอัดเทคโนโลยีมาแบบจัดเต็ม เรียกว่าเป็น “เรือธง ในราคาจับต้องได้” จากนั้นมือถือก็ติดลมบนยอดขายถล่มทลายกันทีเดียว
ถัดมาไม่นานก็ไปร่วมมือกับสตาร์ทอัพ ให้ทุนพัฒนาหม้อหุงข้าว อัจฉริยะ ที่เรียกเสียงฮือฮาสร้างยอดขายถล่มทลายอีกครั้ง จนล่าสุดก็อย่างที่เราเห็นว่ามีสารพัดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า แก็ดเจท มือถือ เครื่องฟอกอากาศ ตู้ปลา ทีวี หูฟัง ที่โกนหนวด สกูตเตอร์ นาฬิกา และอีกสารพัดอย่าง
เรียกว่าครองใจแฟนคลับทั่วโลกไปเพียบ จนเสียวหมี่ขึ้นทำเนียบติดอันดับที่ 468 ของ Fortune Global 500 ซึ่งเป็นการจัดอันดับบริษัทที่มั่งคั่งที่สุดของโลก รวมถึงจัดอันดับบริษัทที่มีนวัตกรรม 50 อันดับแรกของโลกในปี 2563 ของ Boston Consulting Group, การจัดอันดับโดย Derwent ในรายชื่อนักประดิษฐ์ระดับโลก 100 อันดับแรกในปี 2563 และการจัดอันดับของ BrandZ ซึ่งจัดอันดับบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุด 100 อันดับแรกของโลกซึ่งเสียวหมี่อยู่ที่อันดับ 81
ส่วนอนาคตของ Mi จะเป็นอย่างไรนั้น คุณเหลย จุน ประธานบริษัท ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง บอกว่า กลยุทธ์หลักคือ 1.กลับไปเป็นสตาร์ทอัพอีกครั้ง ด้วยความมุ่งมั่นเหมือนช่วงที่เราเป็นสตาร์ทอัพ 2.กองทุน Xiaomi Industry Fund ลงทุนในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์และบริษัทผู้ผลิตอัจฉริยะกว่า 70 แห่ง และ 3.วางแผนให้นานขึ้น เดินหน้าให้ไกลกว่าเดิม พัฒนาสิ่งต่างๆที่มีคุณค่าในระยะยาว
