คลังแจงเงื่อนไขลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ นำรายได้ครอบครัวคำนวณด้วย ขณะที่คนมีบัตรเครดิต กู้บ้านเกิน 1.5 ล้าน กู้รถเกิน 1 ล้านหมดสิทธิ์เข้าโครงการ เตรียมงบปี 66 จำนวน 60,000 ล้านบาท รองรับผู้ลงทะเบียน 17 ล้านคน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้มีมติเห็นชอบโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 และการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นการปรับปรุงข้อมูลผู้มีรายได้น้อยให้เป็นปัจจุบัน และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรสวัสดิการสังคมของภาครัฐแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนและครอบครัวของผู้ลงทะเบียนด้วย ขณะเดียวกันก็มีการปรับเงื่อนไข คุณสมบัติของผู้ลงทะเบียน โดยจะตรวจสอบคุณสมบัติทั้งรายบุคคล และครอบครัว ใน 7 คุณสมบัติหลัก ประกอบด้วย
- ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
- ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
3.ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์นักการเมือง ฯลฯ - ต้องมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง หากมีครอบครัวก็ต้องมีรายได้เฉลี่ยของครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี (โดยนำรายได้รวมของผู้ลงทะเบียนและครอบครัวหารด้วยจำนวนบุคคลทั้งหมดในครอบครัว)
- หากผู้ลงทะเบียนมีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝาก ,สลาก , พันธบัตร และตราสารหนี้ภาครัฐ ต้องมีมูลค่าไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน หากมีครอบครัวก็ต้องมีทรัพย์สินทางการเงินของครอบครัวเฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนเช่นกัน
- ต้องไม่มีวงเงินกู้ หรือมีเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง หากมีเงินกู้บ้าน ต้องไม่เกิน 1.5 ล้านบาท , วงเงินกู้รถ ไม่เกิน 1 ล้านบาท
- ต้องไม่มีบัตรเครดิต
- ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือ หากมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น หากมีบ้านพร้อมที่ดิน จะต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา ห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตามเมตร , หากเป็นบ้านพร้อมที่ดินเพื่อการเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือบ้านพร้อมที่ดินที่ใช้ประโยชน์อื่นที่ไม่ใช่การเกษตร ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่ , หากมีที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่ ส่วนที่ดินเพื่อการเกษตรต้องไม่เกิน 10 ไร่
นอกจากนี้ หากพบการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้งต่อปีก็ถือว่ามีกำลังทรัพย์ในการเดินทางเช่นกัน อาจถูกพิจารณาตัดสิทธิ์ได้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐล่าสุด มีจำนวน 13.45 ล้านคน จากตัวเลขผู้มีรายได้น้อยในปี 60 จำนวน 18.76 ล้านคน เบื้องต้นกระทรวงการคลังวางงบประมาณสำหรับสวัสดิการในรอบนี้ไว้ราว 17 ล้านคน วงเงินราว 60,000 ล้านบาท เป็นงบปี 66 เนื่องจากผลกระทบจากโควิด19 อาจมีผลให้สถานะทางการเงินของประชาชนเปลี่ยนแปลงไป บางรายมีรายได้ลดลง
คาดว่าจะเริ่มเปิดลงทะเบียนได้ราวไตรมาส 3 ของปีนี้ ผ่านช่องทางการลงทะเบียนของหน่วยงานต่างๆ เช่น ธนาคารของรัฐ กรุงไทย ออมสิน ธ.ก.ส. และประชาชนจะได้รับเงินในไตรมาส 4 ซึ่งจะเป็นการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะยังคงเดิม แบ่งเป็น 200 กับ 300 บาท ทั้งนี้จะมีการประเมินผลการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการจัดประชารัฐสวัสดิการอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง พร้อมรายงานผลการประเมินต่อคณะรัฐมนตรีและหลักเกณฑ์และวิธีการประเมิน ให้เป็นไปตามคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม