ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เผย 6 ตุลาคมนี้ เตรียมหารือปรับขึ้นอัตราค่าขนส่ง หลังราคาน้ำมันขยับขึ้นทำดีเซล B7 ราคาทะลุ 31.29 บาท ส่วน B10 28.29 บาทต่อลิตร ชี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่กว่า 75% ใช้ B7 กระทรวงพลังงานจะใช้ B10 เป็นฐานพิจารณาใช้เงินกองทุนน้ำมันพยุงราคาไม่ได้
นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานที่ปรึกษาสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ จะมีการประชุมสมาชิกสหพันธ์ เพื่อพิจารณาผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และพิจารณาว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราค่าขนส่งเท่าที่จำเป็นหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นจากการหารือกับสมาชิก พบว่ามีแนวโน้มที่จะต้องปรับขึ้นค่าขนส่ง แต่อยู่ในอัตราไม่เกิน 10% ของค่าขนส่งปัจจุบัน เพื่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด และ ผู้ประกอบการยังอยู่รอดได้
ส่วนกรณีที่กระทรวงพลังงาน ระบุว่า พร้อมใช้เงินกองทุนน้ำมันเข้ามาพยุงราคาดีเซล หากน้ำมันดีเซล B10 ขยับราคาขึ้นไปเหนือ 30 บาทต่อลิตร พร้อมเชิญชวนให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนจากการใช้น้ำมัน B7 มาเป็น B10 เนื่องจากราคาถูกกว่าถึงลิตรละ 3 บาทนั้น นายทองอยู่ และ ผู้ประกอบการรถบรรทุกส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า เป็นความพยายามที่จะบ่ายเบี่ยงการใช้เงินกองทุนเพื่อมาพยุงราคาน้ำมัน โดยระบุว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ มากกว่า 75% ใช้น้ำมันดีเซล B7 เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนสมรรถนะของรถให้ดีขึ้น อยู่ในมาตรฐานยูโร 4 ขึ้นไป ซึ่งหากใช้ B10 แม้ต้นทุนน้ำมันจะถูกกว่า แต่ภาระจะตกอยู่ที่การซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งเมื่อเทียบแล้วไม่คุ้ม / ส่วนรถเก่า ที่มีอายุ 10-20 ปี หรือมาตรฐาน ยูโร 2 รวมถึง เรือ และเครื่องจักรการเกษตร ยังสามารถใช้ B10 ได้ แต่ก็ถือเป็นส่วนน้อย ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงควรจะพิจารณาหามาตรการเข้ามาดูแลราคาน้ำมันโดยเร็ว เพราะผู้ประกอบการเองก็แบกรับภาระต่อไม่ไหว เนื่องจากได้รับผลกระทบรอบด้านทำให้ได้รับความเดือดร้อนไม่แพ้ภาคส่วนอื่น ๆ