จังหวัดนนทบุรี ร่วมกับ กฟผ. รณรงค์ลด PM 2.5 แจกหน้ากากป้องกันฝุ่นจำนวน 20,000 อัน ระดมจิตอาสา รถดับเพลิงฉีดล้างทำความสะอาดพื้นถนน พร้อมคุมเข้มกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น
วันนี้ (23 มกราคม 2563) จังหวัดนนทบุรี และ กฟผ. ร่วมจัดกิจกรรม “ชาวนนท์ รณรงค์ลด PM 2.5” เพื่อช่วยเหลือประชาชนจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในอากาศสะสมเกินค่ามาตรฐาน โดยมีนางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้บริหาร กฟผ. เข้าร่วมกิจกรรม ณ กฟผ. สำนักกลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า จังหวัดนนทบุรี และ กฟผ. มีความห่วงใยต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จึงได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น โดยมอบหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 จำนวน 20,000 อัน ให้แก่เทศบาลเมืองบางกรวย ชุมชน โรงเรียนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่กลางแจ้ง พร้อมทั้งระดมจิตอาสาและรถดับเพลิงฉีดล้างทำความสะอาดพื้นถนนป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่น ส่วนในภาพรวมของจังหวัดนนทบุรี ได้จัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดจนเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจจับรถควันดำ ควบคุมดูแลโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก กวดขันมาตรการป้องกันฝุ่นละอองในพื้นที่ก่อสร้างและรถบรรทุกขนดิน งดการเผาขยะ เศษวัชพืช หรือผลผลิตทางการเกษตรโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันสาเหตุของการเกิดฝุ่นละออง
ด้านนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพื่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน โดยในส่วนของ กฟผ. ได้ดำเนินมาตรการลดฝุ่นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การเปิดระบบพ่นละอองไอน้ำบนยอดตึก 20 ชั้นของ กฟผ. ฉีดพ่นวันละ 3 ช่วงเวลา ช่วงละ 2 – 3 ชั่วโมง ซึ่งจะเปิดระบบอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ฝุ่นจะคลี่คลาย รวมทั้งติดตั้งรถตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศในพื้นที่อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนรณรงค์ให้พนักงาน กฟผ. ใช้รถมินิบัสไฟฟ้า (EV Bus) และรถบริการสาธารณะเพื่อลดการใช้รถส่วนตัว รวมถึงหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งโดยไม่จำเป็นและสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกนอกอาคาร
นอกจากนี้ กฟผ. ยังมีมาตรการป้องกันการเกิดฝุ่นในภาพรวม เริ่มตั้งแต่ในส่วนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ซึ่งได้ติดตั้งระบบดักจับฝุ่นด้วยไฟฟ้าสถิต (ESP) ระบบกำจัดมลสารอื่น ๆ รวมถึงการใช้เทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงในโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ เพื่อควบคุมดูแลการปลดปล่อยมลสารให้อยู่ในระดับมาตรฐานของประเทศไทยและตรวจวัดอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนสามารถติดตามและตรวจสอบได้จากป้ายแสดงผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและเว็บไซต์ของโรงไฟฟ้า กฟผ. ในพื้นที่ รวมถึงส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 5 การติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า และการพัฒนารถโดยสารประจำทางใช้แล้ว ของ ขสมก. ให้เป็นรถไฟฟ้าต้นแบบเพื่อช่วยลดการปล่อยมลพิษทางอากาศและ PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน พร้อมทั้งรณรงค์ขอความร่วมมือประชาชนรอบเขื่อนและโรงไฟฟ้าห้ามจุดไฟเผาป่าและวัชพืช โดยร่วมกับชุมชนจัดตั้งทีมเฝ้าระวังไฟป่า ทำแนวกันไฟ และจัดทีมดับไฟป่าเพื่อร่วมปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าให้สงบลงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดโครงการสร้างฝายชะลอน้ำรอบพื้นที่เขื่อนของ กฟผ. เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผืนป่าและลดโอกาสของการเกิดไฟป่า