บริษัท ซีพีแรม จำกัด ขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ติดตั้ง Solar Rooftop ทั้ง 7 แห่งครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่ผ่านมาช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 9 ล้านบาทต่อปี พร้อมเดินหน้าติดตั้งเพิ่มตามเป้าหมายระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืน
สาธิต แสงเรืองอ่อน รองกรรมการผู้จัดการ สายงานสนับสนุนและยุทธศาสตร์ บริษัท ซีพีแรม จำกัด เปิดเผยว่า ซีพีแรมกำหนดเป้าหมายระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อมยั่งยืน รวมถึงได้เป็นการใช้พื้นที่บนหลังคาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถือเป็นโอกาสดีในการร่วมมือ ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม และนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทฯ ทั้งยังเป็นการดำเนินตามนโยบายการส่งเสริมพลังงานของภาครัฐ การประหยัดพลังงาน การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป โดยมีเป้าหมายมุ่งสู่องค์กรที่มีความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นอุตสาหกรรมโรงงานสีเขียว และบริษัทจะยังคงมุ่งมั่นแสวงหาแหล่งพลังงานอื่นๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ปัจจุบัน ซีพีแรม ติดตั้ง Solar Rooftop บนหลังคาโรงงานทั้ง 7 แห่งทั่วประเทศ มีรายละเอียดดังนี้
-มูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 188 ล้านบาท
-ใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์กว่า 16,000 แผง
-ใช้พื้นที่รวมกว่า 34,315 ตารางเมตร
-ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 7,200 กิโลวัตต์ต่อปี
-ลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้าในโรงงานได้ประมาณ 9 ล้านบาทต่อปี
-ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ปีละมากกว่า 4,700 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ (เทียบได้กับการปลูกต้นไม้จำนวน 499,000 ต้น)
ด้าน ชุมพล ลีละศุภพงษ์ ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส สำนักโรงงานชลบุรี บริษัท ซีพีแรม จำกัด ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ซีพีแรม(ชลบุรี) เป็นโรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทานที่ได้นำองค์ความรู้ด้านวิศวกรรม ร่วมกับบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ ออกแบบสายการผลิตร่วมกัน จนได้สายการผลิตอาหารแบบอัตโนมัติที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีประสิทธิภาพสูง มีสุขอนามัยที่ดี ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้ติดตั้ง Solar Rooftop เช่นกัน ติดตั้งแล้วเสร็จเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา
สำหรับโรงงาน ซีพีแรม(ชลบุรี) นั้น ปัจจุบันติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์กว่า 5,000 แผง ใช้พื้นที่ประมาณ 10.000 ตร.ม. สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 1 ล้านบาทต่อปี
จากความสำเร็จในการลดค่าไฟฟ้า ซีพีแรม ยังเตรียมการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มพื้นที่ลงโซลาร์ฟาร์มใน 7 โรงงานทั่วประเทศ
สาธิต กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มในอนาคตทั่วโลกจะใช้พลังสะอาดมากขึ้น และประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซีพีแรม เตรียมศึกษาเพื่อเลือกพื้นที่ในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ที่ไม่ใช่พื้นที่เศรษฐกิจมาก เพราะจะได้ลดปัญหาเรื่องการเคลื่อนย้าย
“ซึ่งปัจจุบันไฟฟ้าที่ผลิตได้ต่อวันยังไม่เพียงพอต่อการใช้ไฟฟ้าของโรงงาน แต่ถ้าในอนาคตเราสามารถผลิตได้มากกว่าที่ใช้ ก็จะศึกษาเรื่องการจัดเก็บไฟฟ้ามาใช้ในช่วงกลางคืนด้วย” สาธิต กล่าว
สำหรับพลังงานลม ที่เป็นพลังงานสะอาดอีกหนึ่งชนิด ทาง ซีพีแรม ได้ศึกษาแล้วว่าในประเทศไทยการใช้พลังงานลมนั้นไม่คุ้มกับการลงทุน จึงเลือกเดินหน้ากับการติดตั้งโซลาร์เซลล์เพิ่ม ทั้งนี้ อายุการใช้งานแผงโซลาร์เซลล์ ที่ติดตั้งนั้นมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 25 ปี ซึ่งเมื่อครบระยะเวลาผู้ผลิตก็จะรับคืนไปทำลายตามขั้นตอน
“ซีพีแรม ดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน ดังนั้นคงจะดีกว่าหากหันมาช่วยกันใช้พลังงานสะอาด อย่างเช่น พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแสงอาทิตย์ ที่ทุกคนสามารถร่วมด้วยช่วยกันทำได้ โดยไม่สร้างมลภาวะใด ๆ ให้แก่โลก และยังช่วยเสริมกำลังผลิตไฟฟ้า ในภาวะที่ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลัก ที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ มีแนวโน้มลดลงและกำลังจะหมดไปในอีก 5-7 ปีข้างหน้า ในขณะที่ความต้องการการใช้ไฟฟ้าในทุกภาคเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ พลังงานแสงอาทิตย์ จึงถือเป็นทางเลือกสำคัญที่จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในส่วนนี้ได้” สาธิต กล่าวสรุป
