นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยอมรับว่า ขณะนี้ยังประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจในภาพรวมค่อนข้างลำบาก เพราะสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและอิหร่านยังไม่นิ่ง โดยต้องรอดูท่าทีของสหรัฐว่าจะตัดสินใจตอบโต้กลับอย่างรุนแรงหรือไม่ แต่ผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจนคือราคาน้ำมันที่พุ่งสูงใกล้แตะระดับ 70 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งหากสถานการณ์ตึงเครียดต่อเนื่อง ราคาน้ำมันก็มีโอกาสทรงตัวในระดับสูงต่อไปอีกระยะ / ตัวแปรสำคัญคือคือความรุนแรงในการใช้กำลังของทั้ง 2 ฝ่าย ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ยอมรับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ให้แย่ลงกว่าที่ประมาณการณ์ไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงขึ้น
-ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่าราคาน้ำมันโลกที่เพิ่มขึ้นกว่า 2.7 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล อาจต้องรอดูความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ว่าราคาน้ำมันจะยืนราคาระดับนี้ต่อไปหรือไม่ หากยังยืนราคา ก็มีโอกาสปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศขึ้นอีก เนื่องจากค่าการตลาดขณะนี้บางมาก
-ขณะที่นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมัน มองว่า ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศมีแนวโน้มปรับขึ้นราคาได้อีก 50 สตางค์ต่อลิตร หากไม่มีการแทรกแซงราคา โดยอาจเห็นประกาศขึ้นราคาได้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนกรอบราคาน้ำมันจะขยับไปถึง 80 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรล ตามที่นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตอบโต้ของสหรัฐและอิหร่านว่าจะบานปลายเป็นสงครามหรือไม่
