หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน จับมือเดินหน้า “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” หนุนเอสเอ็มอีจังหวัดสมุทรปราการ และใกล้เคียง เข้าถึงสินเชื่อพิเศษจาก ธพว. อัตราดอกเบี้ยต่ำแค่ 3% ต่อปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อนำไปใช้เสริมสภาพคล่อง ส่งเสริมการจ้างงาน ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” ณ เทศบาลตำบลแพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ ว่า รัฐบาล โดยการนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยและเล็งเห็นถึงปัญหาของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจากเอสเอ็มอีเปรียบเสมือนฟันเฟืองที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย จึงมอบหมายนโยบายให้ช่วยเหลือเอสเอ็มอีเร่งด่วน ด้วยการจัดสรรเงินทุนให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้ดำเนินการ ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงสั่งการให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ดำเนินโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจังหวัดสมุทรปราการและใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจาก ธพว. ได้สะดวกครบถ้วนในจุดเดียว เพื่อให้มีเงินทุนไปใช้หมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ฟื้นฟูธุรกิจ และส่งเสริมการจ้างงานในพื้นที่ นอกจากนั้น ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เอสเอ็มอีทั่วประเทศรับรู้ถึงบริการสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจาก ธพว. เพื่อเข้ามาใช้บริการอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูง เพราะมีโรงงานอุตสาหกรรมระดับเอสเอ็มอีตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก การลงพื้นที่จัดโครงการในครั้งนี้ ธพว.ได้จัดเตรียมทีมงานให้คำแนะนำและช่วยบริการพาเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษต่างๆ ได้ทันที เช่น สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash เพื่อกลุ่มนิติบุคคลธุรกิจท่องเที่ยว วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเพียง 3% ต่อปี ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.875% ต่อปี ใน 3 ปีแรก เป็นต้น
ภายในงาน ยังมีพิธีมอบป้ายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จ.สมุทรปราการ ที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจาก ธพว. ในโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” รวม 41 ราย วงเงิน 62,319,000 บาท โดยนับแต่ต้นปีที่ผ่านมา ธพว. สนับสนุนสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอีในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จำนวน 431 ราย วงเงิน 565 ล้านบาท โดยเป็นการอนุมัติเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 250 ราย วงเงิน 285 ล้านบาท
นายสุริยะ เผยด้วยว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายให้ ธพว. ช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยดำเนินมาตรการพักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน ควบคู่กับเติมทุนใหม่เสริมสภาพคล่อง วงเงิน 1,700 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี อายุสัญญา 5 ปี ให้แก่เอสเอ็มอีในโครงการสินเชื่อประชารัฐต่างๆ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และเป็นทุนหมุนเวียน โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีเอสเอ็มอีเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้เงินต้น รวม 3,123 ราย วงเงิน 6,230.27 ล้านบาท และได้รับอนุมัติสินเชื่อใหม่ 2,364 ราย วงเงิน 534.62 ล้านบาท
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า จากที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบนโยบายให้ ธพว. ดำเนินโครงการ “เติมพลัง SMEsไทย ก้าวไปด้วยกัน” เพื่อผลักดันสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษของ ธพว. ไปสู่เอสเอ็มอี โดยเฉพาะรายย่อยทั่วประเทศ ดังนั้น ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2563 เป็นต้นมา ธพว. ได้จัดกิจกรรม “SME D Services Extra Cash” ในหลายพื้นที่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ระยอง น่าน และนครราชสีมา เป็นต้น สามารถสร้างประโยชน์ให้เอสเอ็มอี 276 ราย พาเข้าถึงแหล่งทุนแล้ววงเงินกว่า 326 ล้านบาท และจะดำเนินการจัดอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศต่อไป
สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ เทศบาลตำบลแพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ และ ธพว. ภายในงานมีกิจกรรม “SME D Services Extra Cash” ซึ่งเป็นบริการ ONE Stop Services สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยพิเศษของ ธพว.ได้ครบถ้วนในจุดเดียว