สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ได้จัดกิจกรรมแรลลี่การกุศล ESG Econmass ประจำปี 2566 ในเส้นทางกรุงเทพฯ – หัวหิน ระหว่างวันที่ 25 – 26 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยมีสมาชิกสมาคมฯและครอบครัว พร้อมด้วยตัวแทนองค์กรภาคธุรกิจร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างคับคั่งกว่า 500 คน โดยมีไฮไลท์ที่สำคัญคือการร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมแก่โรงเรียนการศึกษาเด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ทั้งนี้สำหรับแนวคิดการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบการแข่งขันแรลลี่การกุศล ปี 2566 จัดขึ้นในธีม ESG Econmass เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของประเทศไทยในการสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยการแก้ไขวิกฤต 3 ด้าน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาสัมพันธ์บริษัท บริษัทเอเยนซี่และผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ และสร้างเสริมความเข้าใจ ความสามัคคี และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รวมถึงสร้างความสนุกสนาน ประทับใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรม
ขณะที่สมาคมฯเล็งเห็นถึงความสำคัญในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมและทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคมที่ยังต้องการการสนับสนุนเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน จึงนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดกิจกรรมมาตอบแทนสังคมในรูปแบบต่างๆ โดยปีนี้กำหนดจัดกิจกรรมที่โรงเรียนการศึกษาเด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นอกจากนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าวยังเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ องค์กรภาคเอกชน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และบริษัทเอเยนซี่ต่างๆได้มีส่วนร่วมทำคุณประโยชน์เพื่อสังคมไปพร้อมกัน
ส่วนด้านรูปแบบของการจัดงานในครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 กิจกรรมการแข่งขันแรลลี่ ซึ่งเป็นการร่วมกิจกรรมในรูปแบบของการแข่งขัน Rally โดยแบ่งทีม (รถ 1 คัน ต่อผู้โดยสาร 2 ท่าน) ประกอบด้วยสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ และประชาสัมพันธ์จากบริษัทต่างๆ และบริษัทเอเยนซี่ และส่วนที่ 2 กิจกรรมงานเลี้ยงกลางคืน ณ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน พร้อมคาดหวังว่าการจัดโครงการดังกล่าวจะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างแหล่งข่าว องค์กรที่เข้าร่วมกิจกรรม ผู้สื่อข่าว และสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเผยแผร่ข่าวสารที่ถูกต้อง