สมาคมพาณิชย์อิเล็กทรอนิคส์ไทย (อีคอมเมิร์ซ) เตรียมเสนอรัฐบาลใหม่คุมเข้มมาตรฐานสินค้านำเข้าผ่านช่องทางออนไลน์ หลังพบส่วนใหญ่ไม่ผ่านมาตรฐาน และอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค

นายภาวุธ พงษ์วิทยภาณุ นายกสมาคมพาณิชย์อิเล็กทรอนิคส์ไทย มองเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้ง ว่า ยังคงจับตาเรื่องของเสถียรภาพทางการเมือง และนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่จะเป็นอย่างไร แต่ดีใจที่นโยบายพรรคการเมืองเริ่มให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่และมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ พร้อมระบุว่าอยากเห็นรัฐบาลใหม่สนับสนุนกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ และ เดินหน้าสานต่อนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยอยากให้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนมากขึ้น

-สำหรับส่วนของอีคอมเมิร์ซ ยอมรับว่ายังมีความกังวลมาตรฐานสินค้าจากต่างประเทศที่ทะลักเข้ามาผ่านช่องทางออนไลน์ โดยระบุว่า สินค้าออนไลน์ที่มีการซื้อ-ขายผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต่างๆ 80% เป็นสินค้ามาจากจีน คิดเป็นกว่า 40 ล้านชิ้น และส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) รวมถึงมีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ซึ่งผิดกฎหมาย และอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่ได้มีการคัดกรองสินค้าที่นำเข้าผ่านออนไลน์เหล่านี้ ในขณะเดียวกัน สินค้าไทยที่นำขึ้นจำหน่ายบนออนไลน์ กลับถูกตรวจสอบเรื่องมาตรฐานจากต่างชาติอย่างเข้มงวด จึงอยากให้รัฐพิจารณามาตรการคัดกรองสินค้าจากต่างชาติเหล่านี้ให้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังเตรียมเสนอให้รัฐบาลใหม่จัดตั้งหน่วยงานเข้ามาดูแลธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ชัให้ดเจน โดยรัฐเป็นผู้ให้การสนับสนุน ไม่ทำแข่งเอกชน รวมถึง เตรียมเสนอมาตรการจูงใจให้ผู้ประกอบการนำสินค้ามาจำหน่ายผ่านออนไลน์และจูงใจผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าไทยผ่านออนไลน์ โดยเสนอให้ลดภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 7% เหลือ 5% เฉพาะสินค้าและธุรกิจที่ผลิตในประเทศไทยเท่านั้น และขอชะลอการเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซ ออกไปอีก 2 ปี เพื่อให้ธุรกิจรายเล็กอยู่รอด เป็นต้น

Scroll to Top