‘สินิตย์’ ปลื้ม! ปี 65 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าอุตสาหกรรม ไปตลาดคู่ FTA โต 21.4% นำรายได้เข้าประเทศกว่า 1.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เผยสินค้าส่งออกสำคัญ ทั้งมันสำปะหลัง ไก่แปรรูป น้ำตาลทราย อัญมณีและเครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์ยาง หลายประเทศมีแนวโน้มนำเข้าสินค้าอาหารเพิ่ม แนะผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล แสวงหาตลาดใหม่ขยายส่งออกด้วย FTA
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้าไทยไปยังกลุ่มประเทศคู่ค้าที่ไทยมีความตกลงการค้าเสรี (FTA) ด้วย โดยได้รับรายงานว่า ในปี 2565 การส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าอุตสาหกรรมของไทยยังคงขยายตัวได้ดี เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สำหรับสินค้าเกษตรแปรรูป มีมูลค่า 14,690.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+21.2%) คิดเป็นสัดส่วน 64.5% ของการส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปทั้งหมด สินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่า 126,825.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+0.2%) คิดเป็นสัดส่วน 56.2% ของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมทั้งหมด ส่วนสินค้าเกษตร ส่งออกมูลค่า 18,826.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (-2.0%) คิดเป็นสัดส่วน 70.5% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด เนื่องจากการส่งออกไปตลาดหลักอย่างจีนหดตัวอย่างต่อเนื่อง จากการดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์
“การส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปและสินค้าอุตสาหกรรมเติบโตได้ดี และมีแนวโน้มที่หลายประเทศต้องการนำเข้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าอาหาร ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญกับการพัฒนายกระดับสินค้าให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล สอดคล้องกับกระแสรักษาสิ่งแวดล้อม เพิ่มความหลากหลาย สร้างจุดเด่นให้กับสินค้า รวมทั้งแสวงหาตลาดที่มีศักยภาพใหม่ๆ ขยายการส่งออก โดยใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA ซึ่งในปี 2566 กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ มีแผนจะเร่งเดินหน้าเจรจา FTA ที่ค้างอยู่ให้สำเร็จตามเป้าหมาย พร้อมทั้งจะเปิดเจรจากับคู่ค้าใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนการส่งออกของไทยในอนาคต” นายสินิตย์กล่าว
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลว่า ในปี 2565 สินค้าส่งออกสำคัญที่ยังสามารถขยายตัวได้ดี ในกลุ่มประเทศคู่ FTA และนำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ สินค้าเกษตร อาทิ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง มูลค่า 3,931.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+10.5%) ไก่แปรรูป มูลค่า 1,775.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+11.3%) ไก่สด แช่เย็น แช่แข็ง มูลค่า 1,095.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+24.2%) ข้าว มูลค่า 1,053.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+4.6%) และกุ้งสด แช่เย็น แช่แข็ง มูลค่า 438.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+13.7%)
สำหรับสินค้าเกษตรแปรรูป อาทิ น้ำตาลทราย มูลค่า 2,704.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+95.7%) ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ มูลค่า 1,953.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+46.3%) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่นๆ มูลค่า 1,435.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+7.1%) อาหารสัตว์เลี้ยง มูลค่า 1,422.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+7.8%) และอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป มูลค่า 1,376.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+4.6%) และสินค้าอุตสาหกรรม อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ มูลค่า 7,715.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+41.9%) แผงวงจรไฟฟ้า มูลค่า 6,523.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+4.1%) ผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 6,505.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+8.5%) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล มูลค่า 5,027.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+7.1%) และทองแดงและของทำด้วยทองแดง มูลค่า 3,185.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (+6.0%)