“สุดยอดผลไม้ภาคตะวันออก” ยกระดับตลาดผลไม้ภาคตะวันออก ศูนย์ผลไม้เมืองร้อนแห่งเอเชีย

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในพิธีเปิดเพจ “สุดยอดผลไม้ภาคตะวันออก” ภายใต้โครงการยกระดับตลาดผลไม้ภาคตะวันออกให้เป็นศูนย์ผลไม้เมืองร้อนแห่งเอเชีย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

โดยนายชัยรัตน์ บุญส่ง พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ในนามพาณิชย์กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก (จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา) ได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการว่า กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกมีศักยภาพเป็นแหล่งผลิตผลไม้เมืองร้อน เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย กล้วยไข่ สับปะรด สละ ชมพู่ ขนุน มะยงชิด มะม่วง ฯลฯ ซึ่งเป็นสินค้าเศรษฐกิจหลักของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก โดยผลไม้ส่วนใหญ่ส่งออกไปต่างประเทศ และมากกว่าร้อยละ 90 ส่งออกไป จีน เวียดนาม และฮ่องกง โดยผู้ส่งออกชาวจีนมาตั้งจุดรวบรวม (ล้ง) ในพื้นที่ และผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ จะรวบรวมส่งผลผลิตให้ผู้ส่งออกชาวจีน ซึ่งอาจทำให้คนไทยเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากการส่งออกสินค้าผลไม้ และมีความเสี่ยงสูงที่ผู้ส่งออกชาวจีนอาจจะร่วมกันกำหนดราคารับซื้อผลไม้ ที่ไม่เป็นธรรม หรือตลาดต่างประเทศที่มีการกำหนดมาตรการกีดกันทางการค้า หรือกำหนดมาตรฐานสินค้านำเข้าอย่างเข้มงวด เช่น ในปี 2562 กำหนดให้โรงคัดบรรจุผลไม้ต้องได้รับมาตรฐาน GMP และแปลงเพาะปลูกจะต้องได้รับมาตรฐาน GAP เป็นต้น ทำให้การส่งออกผลไม้มีความยุ่งยากมากขึ้นและมีสินค้าตกค้างในประเทศและราคาผลไม้ตกต่ำใน บางช่วงเวลา

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลและส่งเสริมด้านการตลาด จึงเสนอขออนุมัติโครงการยกระดับตลาดผลไม้ภาคตะวันออกให้เป็นศูนย์ผลไม้เมืองร้อนแห่งเอเชีย ภายใต้แผนปฏิบัติราชการของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสแสวงหาคู่ค้ารายใหม่และเปิดตลาดใหม่ๆ พร้อมทั้งจัดหากิจกรรมรองรับหากมีสินค้าล้นตลาดภายในประเทศ โดยกระตุ้นให้มีการบริโภคภายในประเทศ โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นในโครงการฯ ได้แก่

  1. กิจกรรมฝึกอบรมพัฒนาทักษะและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ภายในประเทศ เมื่อวันที่ 1 – 2 มีนาคม 2565 ถ่ายทอดสดผ่านระบบ ZOOM จากห้องพราวมณี โรงแรม นิว แทรเวิลลอด์จ จังหวัดจันทบุรี มีผู้ประกอบการภาคตะวันออกเข้าร่วมทั้งสิ้นจำนวน 50 ราย และจัดทำเพจ “สุดยอดผลไม้ ภาคตะวันออก” ขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการภาคตะวันออกที่เข้าร่วมอบรมฯ
  2. กิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching) กับต่างประเทศในวันนี้มีผู้ประกอบการภาคตะวันออกเข้าร่วมทั้งหมดจำนวน 30 ราย เป็นการเจรจาออนไลน์กับประเทศกัมพูชา จีน และสวิตเซอร์แลนด์
    ด้านประธานในพิธีกล่าวสรุปก่อนทำพิธีเปิดเพจว่า ปัจจุบันเกษตรกรไทยปลูกผลไม้ 57 ชนิด มูลค่าการส่งออก ราว 4.5 หมื่นล้านบาทในแต่ละปี การส่งออกผลไม้ไทยกระจุกอยู่ที่ 3 ชนิด คือทุเรียน ลำไย และมังคุดส่งให้กับตลาดใหญ่เพียง 2 แห่งคือ จีนและเวียดนาม คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด และข้อมูลการพยากรณ์ผลไม้ตะวันออกของสินค้า 4 ชนิด ปี 2565 ได้แก่ทุเรียน มังคุด เงาะ และกองลองในพื้นที่ 3 จังหวัด (จันทบุรี ระยอง ตราด) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 หรือคิดเป็น 1.14 ล้านตัน เมื่อเทียบกับ ปี 2564 ที่มีจำนวน 9 แสนตัน
    ดังนั้น การจัดโครงการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ เกษตรกร ในภาคตะวันออก ได้อบรมพัฒนาทักษะ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ภายในประเทศ ต่างประเทศ พร้อมทั้งจัดทำเพจ “สุดยอดผลไม้ตะวันออก” เพื่อสร้างโอกาสในการหาคู่ค้ารายใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการพึ่งพาตลาดหลักเพียงอย่างเดียว รวมถึงกระตุ้นให้มีการบริโภคภายในประเทศ จึงเป็นโครงการที่มีประโยชน์และน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
Scroll to Top