อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ผุดไอเดีย ปรับธุรกิจ เปลี่ยนโรงแรม เป็น โรงพยาบาล (BRING Hospital to Hotel) เพื่อให้บริการด้านสุขภาพมาตรฐานโรงพยาบาลในโรงแรม หาทางรอดธุรกิจยุคโควิด-19 พร้อมรับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวเชิงสุขภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้โรงแรมกว่าเท่าตัว
นายเกรียงไกร กาญจนโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะกลุ่มที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่คาดว่า 95% ของโรงแรมทั้งหมดหรือ กว่า 30,936 แห่ง จะไม่มีรายได้ในช่วงโควิด-19 / ขณะเดียวกันมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจ “เฮลท์แคร์” ในไทยเติบโตมากขึ้น ประกอบกับปัจจัยหนุนจากภาครัฐและเอกชน ที่พยายามผลักดันให้ไทยเป็น ‘Medical Hub of Asia”
อินเด็กซ์ ฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งโรงพยาบาลชั้นนำและบริษัท เรสท์ เมดิคอล(ประเทศไทย) จำกัด และ Sleep Lab และผู้แทนนำเข้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่มีมาตรฐานสากล จึงเกิดแนวคิด “เปลี่ยนโรงแรม เป็นโรงพยาบาล(BRING Hospital to Hotel) ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ANYA MEDITEC”(อ่านว่า อัน-ยา-เมด-ดิ-เทค) ซึ่งจะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างโรงแรม โรงพยาบาล และ เทคโนโลยี เข้าด้วยกัน เปิดเป็นบริการด้านสุขภาพ เช่น การตรวจ Screening Tast โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, บริการทดสอบประสิทธิภาพการนอน(Sleep test) วิเคราะห์ผลการนอนหลับและออกแบบโปรแกรมการรักษา โดยพบว่า คนไทยเฉลี่ย 19 ล้านคน ประสบปัญหาการนอนไม่มีคุณภาพ , การตรวจสุขภาพ (Health Check) รวมถึง พบนักจิตบำบัด , นักโภชนาการ และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ได้ที่โรงแรมซึ่งมีบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากกว่าโรงพยาบาล เน้นการ รู้ทัน-ป้องกัน-รักษา ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้จะมีการบริหารจัดการวางแผนธุรกิจและวางระบบให้กับโรงแรมตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สร้างโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจโรงแรม ด้วยการขยายฐานผู้เข้าพักกลุ่มใหม่ ที่นอกเหนือจากผู้ที่ต้องการพักผ่อนเพื่อการท่องเที่ยว สู่การพักผ่อนเพื่อดูแลสุขภาพ หรือ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ทำให้จำนวนการพักค้างคืนเพิ่มขึ้น เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวมากขึ้นเท่าตัว รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่รัฐบาลกำลังจะเปิดรับเข้ามาแบบ Long Stay ด้วย
ปัจจุบัน อันยา เมดดิเทค ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์โรงแรมระดับ 5 ดาว อย่างน้อย 2 แห่ง คือ โรงแรมชาเทรียม และ โรงแรมสุโขทัย และจะเปิดรับพาร์ทเนอร์โรงแรม 5 ดาว เพียง 10 แห่งในเฟสแรก โดยมั่นใจว่าธุรกิจนี้จะช่วยดันรายได้ให้กับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมให้กลับมาได้ในปี 2564 อย่างแน่นอน
นายเกรียงไกร ยังกล่าวถึงสถานการณ์ธุรกิจ ในช่วงโควิด-19 ว่าแม้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะผ่อนคลายมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าในเชิงเศรษฐกิจ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหรือยัง เพราะยังมีการประเมินถึงการลดการจ้างงานที่มีผลในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ทำให้ภาคธุรกิจจะต้องตั้งรับผลกระทบเชิงเศรษฐกิจมากขึ้น ส่วนธุรกิจในกลุ่มการจัดงานอีเว้นท์ ยอมรับว่าเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ยังคงเป็นตัวจำกัดจำนวนคนเข้าร่วมงาน ทำให้การฟื้นตัวกลับมาได้เพียงร้อยละ 25 เท่านั้น ส่วนการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่าง ๆ มองว่าไม่ส่งผลกระทบใด ๆ กับธุรกิจอีเว้นท์
