เจ้าท่า เร่งดัน Beach Clean up เคลียร์พื้นที่ชายหาด ฟื้นฟูเหตุน้ำมันดิบรั่ว

จากเหตุการณ์กรณีน้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล บริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 ซึ่งกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ภายใต้แผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ(แผนชาติ) เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติและความรับผิดชอบทั้งรัฐและเอกชน ในการขจัดมลพิษจากน้ำมัน ตามแผนชาติที่จัดทำโดยคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน

นายภูริพัฒน์ ธีรกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลระยอง ได้มีน้ำมันบางส่วนเคลื่อนเข้าสู่ชายฝั่งเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 โดยกรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการจัดเก็บและยับยั้งคราบน้ำมันดิบทั้งในทะเลและบนชายฝั่ง จนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวมระยะเวลา 8 วัน 

    สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน กรมเจ้าท่า พร้อมด้วย ทัพเรือภาคที่ 1 ศรชล.จังหวัดระยอง กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ ได้ติดตามสถานการณ์ในทุกพื้นที่ ซี่งจากภาพถ่ายจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) และเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 802,804, 175 เรือเด่นสุทธิ และโดรนของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI)ลาดตระเวนพื้นที่ตั้งแต่ โซน A (บริเวณกองพันทหารราบที่ 7 ถึง ศูนย์วิจัยกรมประมง ระยะทาง 2 กิโลเมตร) โซน B (บริเวณศูนย์วิจัยกรมประมง ถึง หาดแม่รำพึง ระยะทาง 2 กิโลเมตร)โซน C (บริเวณหาดแม่รำพึง ถึง ลานหินขาว ระยะทาง 2 กิโลเมตร)โซน D (บริเวณลานหินขาว ถึง เขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด ระยะทาง 2 กิโลเมตร) โซน E 1 (บริเวณเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด) และโซน E 2 (บริเวณเกาะเสม็ด) ยังไม่พบคราบน้ำมันในทะเลและบริเวณชายฝั่งแต่อย่างใด โดยกรมเจ้าท่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมควบคุมมลพิษ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด IESG และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) ระยอง ได้หารือในเรื่องของการนำแผ่นดูดซับคราบน้ำมันขึ้นจากพื้นทราย เพื่อตรวจสอบคราบน้ำมันดิบและคืนพื้นที่ชายหาด  ซี่งสถานการณ์แนวโน้มดีขึ้นโดยตลอด ขั้นตอน Beach Clean up และเตรียมเข้าสู่ระยะการฟื้นฟูชายหาด เพื่อเคลียร์พื้นที่ชายหาดคืนสู่ระบบธรรมชาติและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยหลักเกณฑ์การลดระดับสถานการณ์ฉุกเฉิน ไปสู่ระยะแผนฟื้นฟู ต้องไม่พบคราบน้ำมันใหม่ในทะเล คราบน้ำมันบนชายฝั่งในทุกโซน A-E คราบน้ำมัน ผลจากการสำรวจใต้น้ำ ในทุกระยะ 1 กิโลเมตร 3 กิโลเมตร 5 กิโลเมตร และในพื้นที่อ่อนไหว ระยะเวลา 3 วัน ติดต่อกัน

   ในระยะฟื้นฟูจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและประเมินค่าความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากน้ำมัน อาศัยอำนาจตามข้อ 10(5) และ (8) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน พ.ศ. 2547 ประกอบกับข้อ 13 ของแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน จะได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและประเมินค่าความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมอันเนื่องมาจากน้ำมัน 

    สำหรับอำนาจหน้าที่ คณะอนุกรรมการฯ จะประเมินค่าใช้จ่ายในการขจัดคราบน้ำมันของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เข้าร่วมปฏิบัติการ อีกทั้งความเสียหายของพื้นที่ชายฝั่ง และพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนจัดทำแผนฟื้นฟูสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมัน/จัดทำแผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และแต่งตั้งคณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ ค่าเสียหาย ค่าเสียโอกาส ในพื้นที่ที่เกิดความเสียหาย ตลอดจนติดตามผลการดำเนินการชดใช้ค่าเสียหาย การฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพเดิมต่อไป

     ทั้งนี้ จังหวัดระยอง ได้ดำเนินการจัดตั้งจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีพบคราบน้ำมัน ณ บริเวณชายหาด บ้านสบาย สบาย รีสอร์ท ตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง โดยมีหน่วยงานที่เข้าร่วมดำเนินการ ดังนี้

(1) ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดระยอง
(2) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง
(3) อำเภอเมืองระยอง
(4) องค์การบริหารส่วนตำบลตะพง
(5) บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน)
(6) พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง

Scroll to Top