บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) แถลงเปิด “เซ็นทรัล นครสวรรค์” มิกซ์ยูสภาคกลางตอนบน เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง ไลฟ์สไตล์คนเมือง ครอบคลุม Catchment Area 6 จังหวัด กว่า 1.57 ล้านคน ตั้งเป้ารองรับทราฟฟิกกว่า 25,000 คน/วัน พร้อมเดินหน้าจัดบิ๊กอีเวนต์ระดับประเทศดีงนักท่องเที่ยวเข้านครสวรรค์
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากรุกเมืองหลักมามากแล้ว วันนี้เซ็นทรัลพัฒนากลับมาเดินหน้ารุกพัฒนาเมืองรอง ซึ่งนครสวรรค์เป็นเมืองที่มีศักยภาพ ปากน้ำโพเป็นศูนย์กลางการค้ามาตั้งแต่ดั้งเดิม มีชุมชนชาวจีนมาก และมี GDP เป็นอันดับ 3 ของภาคเหนือ กว่า 100,900 ล้านบาท (รองจากเชียงใหม่ และกำแพงเพชร) มีรายได้ต่อครัวเรือนมากกว่า 21,000 บาทต่อเดือน
เปลี่ยนเมืองผ่าน สู่เมืองรองที่มีศักยภาพ
ที่ผ่านมานครสวรรค์เป็นเมืองทางผ่านสู่ทางเหนือ เป็นจุดแวะทานอาหารก่อนจะเดินทางต่อ จึงเห็นว่าในเมืองไม่มีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การค้าที่รวมร้านค้าชื่อดังเข้ามาอยู่ในที่เดียว โรงแรมหรู ไปจนถึงศูนย์สุขภาพขนาดใหญ่
ขณะที่นโยบายภาครัฐฯ ได้ประกาศยกระดับนครสวรรค์เป็น 1 ใน 10 จังหวัดเมืองรอง นำร่องสู่เมืองท่องเที่ยวหลัก นครสวรรค์ จึงเป็นจิ๊กซอว์สำคัญ เป็น Logistic Hub สำคัญ ในอนาคตจะมีรถไฟความเร็วสูงสายเหนือและรถไฟทางคู่สายนครสวรรค์-แม่สอด สามารถ Cross Border ไปยังกลุ่ม CLMV
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวว่า นครสวรรค์จะไม่ใช่เมืองผ่านอีกต่อไป แต่จะเป็นเมืองรองที่มีศักยภาพมาก เป็นเมืองที่มีบรรยากาศโรแมนติก เซ็นทรัล นครสวรรค์ จึงถูกออกแบบให้คนเข้ามาใช้ชีวิตได้ รองรับการออกกำลังกาย การสัตว์เลี้ยง พื้นที่สำหรับเด็ก และพื้นที่สำหรับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ โดยพื้นที่ทั้งหมด 42 ไร่ ถูกแบ่งออกเป็น ศูนย์การค้าฯ พื้นที่ GBA133,300 ตร.ม ส่วนในอนาคตจะมี คอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรม คอนโดมิเนียม “Escent Nakhon Sawan” แห่งแรกใจกลางเมือง สูง 19 ชั้น รวม 442 ยูนิต
นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ยังเตรียมรุกธุรกิจ Wellness ร่วมมือกับ รพ.สินแพทย์ พัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์กลาง Health & Medical Hub และยังเป็นพื้นที่รองรับผู้สูงอายุอีกด้วย
เดินหน้าจัดอีเวนต์ ดึงคนท้องถิ่นกลับมาพัฒนาบ้านเกิด
อีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ในการเข้ามาพัฒนาพื้นที่ของเซ็นทรัลพัฒนา คือ การจัดอีเวนต์ระดับประเทศ การส่งเสริมสินค้าพื้นเมือง และการดึงคนรุ่นใหม่กลับมาช่วยพัฒนาบ้านเกิด
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวว่า โจทย์ของการเปิดตัวที่นี่ เราตั้งเป้าจะจัดเทศกาลตรุษจีนให้ใหญ่เป็นอันดับต้นของไทย เราวางแผนกับเมืองเพื่อพัฒนา China Town ใหม่ นอกจากนี้ยังมีประเพณีอื่นๆ อย่าง งานสงกรานต์ (Nakhon Sawan Songkran Festival) หรือ งานเคานท์ดาวน์ ซึ่งจะช่วยดัน GDP ของเมืองให้โตขึ้นได้จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทั้งในไทยและต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีแผนช่วยโปรโมทสินค้าพื้นเมือง ให้เป็นสินค้าระดับประเทศ โดยนำของดีจากนครสวรรค์มาเชื่อม และนำของดีจากที่นี่ส่งไปทั่วประเทศ รวมถึงเตรียมจัดอีเวนต์ด้านอาหารไม่ว่าจะเป็น เทศกาลกาแฟ (Thailand Coffee Hub), งาน OTOP Roadshow 5 ภาคจากทั่วประเทศ มีครัวคุณต๋อย
นอกจากนี้ยังจับมือ 5 ร้านอาหารดัง ทำ Co-Creation นำวัตถุดิบท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อมารังสรรค์เป็น “สวรรค์นครเมนู” อาทิ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลานครสวรรค์ จากแหลมเจริญซีฟู้ด, สลัดรากบัวสวรรค์ไก่ย่างอบน้ำผึ้ง จาก Salad Factory, ข้าวหอมใบเตย จากลาวญวน, รากบัวดอกยูซุสไตล์เกาหลี จาก Sukishi Korean Charcoal Grill และ น้ำอ้อยจาก Bar B Q Plaza
“การดึงอีเวนต์ระดับประเทศมาที่นครสวรรค์ จะช่วยผลักดันให้เป็นฮับดึงนักท่องเที่ยวจากจังหวัดข้างเคียงเข้ามาท่องเที่ยวได้ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งเราได้ทำจุดชาร์จ EV เพื่อรองรับคนเดินทางและตั้งใจจะทำให้มากขึ้นเพื่อรองรับเทรนด์ในอนาคต”
จากกลยุทธ์การพัฒนาพื้นที่ให้เติบโตมากขึ้น ดร.ณัฐกิตติ์ เชื่อว่า จะช่วยดึงให้คนนครสวรรค์ที่เป็นคนรุ่นใหม่กลับมาสร้างธุรกิจที่บ้านเกิดมากขึ้น
ทั้งนี้ พนักงานที่ทำงานใน เซ็นทรัล นครสวรรค์ เป็นคนพื้นที่มากถึง 90%
สำหรับ “เซ็นทรัล นครสวรรค์” เป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 41 ของเซ็นทรัลพัฒนา มีมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 5,800 ล้านบาท ตั้งเป้าทราฟฟิกช่วงเปิดศูนย์การค้าฯ 25,000 คนต่อวัน ครอบคลุม Catchment Area กว่า 1.57 ล้านคน รวม 6 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, พิจิตร, ลพบุรี และกำแพงเพชร โดยคาดว่าในวันธรรมดา ลูกค้าจะเป็นคนนครสวรรค์ 80% เป็นคนจากจังหวัดใกล้เคียง 20% ส่วนสุดสัปดาห์จะเป็นคนนครสวรรค์ 60% และเป็นคนจากจังหวัดใกล้เคียง 40%
