นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่า ปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนที่เกิดขึ้น น่าจะยืดยาวออกไปหลังจากทั้ง 2 ประเทศต่างตอบโต้กันด้วยมาตรการทางภาษี และตลาดยังเริ่มกังวลว่าหากเริ่มตอบโต้กันด้วยตลาดเงิน จะยิ่งส่งผลให้เกิดความปั่นป่วนยิ่งขึ้น ซึ่ในช่วง 1 เดือน ที่รอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวน และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง
เพราะเชื่อว่าสหรัฐจะมีมาตรการตอบโต้จีนออกมาอีก เพราะสหรัฐไม่ต้องการให้จีนขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจ ด้านเทคโนโลยี และเศรษฐกิจอันดับหนึ่ง
ส่วนปัจจัยในประเทศ หวังให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศโดยเร็ว เพื่อที่ออกมาตรการกระตุ้นการบริโภค และการลงทุนในประเทศเป็นหลัก เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจ ในภาวะที่การส่งออกในปีนี้ขยายตัวน้อยลง จากผลกระทบเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการสานต่อการลงทุนในอีอีซี ที่จะช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนให้ขยายตัวดีขึ้น
ทั้งนี้จากปัจจัยทั้งหมดทำให้มองว่า กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในปีนี้มองกรอบล่างที่ 1,500 จุด ส่วนเป้าดัชนีมีโอกาสขึ้นไปที่ 1,750 จุด ซึ่งในช่วงที่หุ้นย่อตัว เป็นจังหวะการสะสมหุ้นขนาดใหญ่เมื่อราคาปรับตัวลงมา ในกลุ่มที่ได้ผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ค้าปลีก ธนาคารพาณิชย์ การบริโภคในประเทศ และ หลีกเลี่ยงกลุ่มส่งออก น้ำมัน และ ปิโตรเคมี
