ไปรษณีย์ไทย ร่วมกับ บริษัท เอสซีจี แพ็คเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) (SCGP) เชิญชวนคนไทยร่วมรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกครั้งกับโครงการ ไปรษณีย์ reBOX #3 ภายใต้แนวคิด“reBOX to School” หลังได้รับกระแสตอบรับดีต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 – 2564 โดยในปีนี้ ไปรษณีย์ไทยและ SCGP เตรียม รีไซเคิลกล่อง/ซองที่ไม่ใช้แล้วเป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้ เพื่อส่งมอบให้นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศในช่วงปลายปี โดยผู้ที่สนใจสามารถรวบรวมกล่อง/ซองที่ไม่ใช้แล้ว มาให้ได้ที่ไปรษณีย์ใกล้บ้านทั่วประเทศ รวมทั้งจุดรับรวบรวมอื่นๆ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ตุลาคม 2565
–ธอส. โชว์ New High ผลการดำเนินงานปี 64 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 2.47 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.65%
–ครม.เห็นชอบของขวัญปีใหม่ 65 ลดเงินสมทบเหลือร้อยละ 60 ต่ออีก 6 เดือน (ก.พ. – ก.ค. 65)
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ในฐานะหน่วยงานการสื่อสารและขนส่งของชาติ ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้จัดโครงการไปรษณีย์ reBOX ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อความต่อเนื่องในการสร้างประโยชน์สู่สังคม พร้อมทั้งรณรงค์ให้คนไทยเปลี่ยนมุมมองในการจัดการกล่อง/ ซองที่ไม่ใช้แล้ว เปลี่ยนจากขยะบรรจุภัณฑ์ธรรมดาให้กลับมามีคุณค่า แก่สังคมอีกครั้ง อีกทั้งมุ่งเน้นให้เกิดการลดขยะเพื่อสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
ซึ่งโครงการไปรษณีย์ reBOX #3 เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “reBOX to School” โดยไปรษณีย์ไทย จะรวบรวมกล่อง/ซองที่ไม่ใช้แล้วจากคนไทย ส่งให้กับ บริษัท เอสซีจี แพ็คเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อรีไซเคิล เป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้ ส่งมอบเป็นของขวัญทางการศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้
โครงการไปรษณีย์ reBOX เริ่มดำเนินการในช่วงปี 2563 สามารถรวมกล่อง/ซองที่ไม่ใช้แล้วได้กว่า 72,000 กิโลกรัม สามารถรีไซเคิลเป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้มอบให้นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทั่วประเทศ ได้ถึง 224 ชุด และต่อเนื่องมาจนถึงช่วงกลางปี 2564 ที่ต่อยอดเป็น “ไปรษณีย์ reBOX” เปลี่ยนกล่อง/ซอง ที่ไม่ใช้แล้วเป็นเตียงสนาม รวมทั้ง “กล่อง BOX บุญ” บรรจุหน้ากากอนามัยทางการแพทย์มอบให้แก่โรงพยาบาลเพื่อใช้ในการรับมือกับภาวะการระบาดของเชื้อโควิด-19
สามารถรวบรวมกล่อง/ซองกระดาษจากคนไทยได้ถึง 228,000 กิโลกรัม รวม 2 ปี มีปริมาณกล่อง/ซองกระดาษกลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิลกว่า 300,000 กิโลกรัม เป็นไปตามแนวคิด Circular Economy ที่มุ่งเน้นให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรหรือวัสดุกลับมาใช้ใหม่ เพื่อให้เกิดของเสียลดลง จนนำไปสู่การไม่มีของเสียเกิดขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณการใช้ทรัพยากรที่เกี่ยวข้องพบว่า กล่องและซองที่กลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิลเหล่านี้จะช่วยลดการตัดต้นไม้ได้ถึง 787,000 ต้น ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 1,155,880 กิโลวัตต์ ลดคาร์บอนฟุตปริ้นต์ที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์และเป็นตัวการของภาวะโลกร้อนได้ 195,000 กิโลกรัม สามารถลดการใช้น้ำมันที่เกิดจากกิจกรรมการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงได้อีกถึง 110,000 แกลลอน และยังสามารถลดการใช้น้ำได้ 2,002,000 แกลลอน
นอกจากนี้ โครงการไปรษณีย์ reBOX ยังได้รับการตอบรับจากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมกล่อง/ซองที่ไม่ใช้แล้วจำนวนมากในหน่วยงาน และร่วมเป็นจุดให้บริการรับรวบรวมกล่อง/ซองจากประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บริษัท ซีพีแรม จำกัด บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) เป็นต้น
สำหรับโครงการ “ไปรษณีย์ reBOX” #3 นี้ ไปรษณีย์ไทยขอเชิญชวนคนไทยร่วมกันทําสิ่งดีๆ และส่งต่อความสุขไปสู่นักเรียนโรงเรียนตํารวจตระเวนชายแดนได้ง่ายๆ โดยนำกล่อง/ซองที่ไม่ใช้แล้วมาให้ได้ที่ไปรษณีย์ ทั่วประเทศ จุด Drive Thru ที่ทำการไปรษณีย์ รวมถึงจุดรับกล่อง/ซองของพันธมิตร ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2565