เซ็นทรัลพัฒนา รับโล่ประกาศเกียรติคุณองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก (Climate Action Leading Organization: CALO) ประจำปี 2567 ระดับยอดเยี่ยม ด้วยผลการประเมินระดับ Gold ในหมวดการตรวจวัด (Measure) และการลดก๊าซเรือนกระจก (Reduce) และระดับ Bronze ในขั้นตอนการชดเชยก๊าซเรือนกระจก (Contribute) สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บมจ.เซ็นทรัลพัฒนากล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนามุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบ ภายใต้หลักการ ESGเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยปฏิบัติตามนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง พร้อมดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจก โดยอ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์ ตามแนวทาง SBTs (Science Based Targets) ในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 โดยแบ่งกิจกรรมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ มาตรการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างการก่อสร้าง มาตรการลดก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินงานศูนย์การค้า และการชดเชยคาร์บอน โดยยึดแนวทางตามมาตรฐานสากล ได้แก่ อาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ มาตรฐานอาคารเขียวในระดับนานาชาติ (LEED: Leadership in Energy & Environmental Design) เกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย (TREES – Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) และเกณฑ์การประเมินมาตรฐานอาคารสุขภาวะดีในระดับสากล ทำให้โครงการอสังหาริมทรัพย์ได้รับการรับรองมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ ออฟฟิศเศส, จี ทาวเวอร์ แกรนด์ พระราม 9, เซ็นทรัล จันทบุรี, เซ็นทรัล เวสต์วิลล์, เซ็นทรัล นครสวรรค์,เซ็นทรัล นครปฐม เป็นต้น”
ในปีที่ผ่านมา เซ็นทรัลพัฒนา ประสบความสำเร็จในลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้กว่า 189,414 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือ คิดเป็นร้อยละ 21.6 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2562 ผ่านโครงการต่างๆ เช่น
- การใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 26,011 เมกะวัตต์-ชั่วโมง จากการติดตั้ง Solar Rooftop และ Solar Carport กำลังการผลิตรวม 29.4 เมกะวัตต์ รวม 31 โครงการ ใน 28 ศูนย์การค้า (68% ของจำนวนศูนย์การค้าทั้งหมด) 1 โรงแรม และ 2 สำนักงาน
- การปรับปรุงระบบปรับอากาศโดยการนำเทคโนโลยี IoT และ AI มาช่วยประมวลผลและควบคุมการใช้พลังงาน
- การติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) เพื่อลดการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิง รวม 570 ช่องชาร์จ ใน 40 ศูนย์การค้า
- การดำเนินโครงการ Green Partnership รวมพลังพันธมิตรลดโลกร้อน ให้ความรู้และขอความร่วมมือแบรนด์นำร่อง จำนวน 46 แบรนด์ ในการลดใช้ไฟฟ้า โดยสามารถลดการใช้พลังงานไปได้ 318,169 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และในปีนี้ได้ขยายความร่วมมือกว่า 163 แบรนด์ 2,252 ร้านค้า
- การติดตั้ง Recycle Station เป็นจุดรับขยะแยกประเภทสำหรับช้อปเปอร์ และร้านค้า เพื่อเปลี่ยนขยะให้มีมูลค่า ก่อนส่งต่อไปรีไซเคิลและแปรรูปอย่างเหมาะสม จำนวนกว่า 31,425 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึงร้อยละ 67 ซึ่งสามารถลดสัดส่วนขยะฝังกลบลงได้ที่ร้อยละ 38 ของปริมาณขยะทั้งหมด
- การประหยัดน้ำ และติดตั้งระบบผลิตน้ำรีไซเคิลใน 18 โครงการ ทำให้สามารถบำบัดน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้ จำนวน 617,371ลูกบาศก์เมตร
- การดำเนินโครงการปลูกป่าดูดซับคาร์บอน 150,000 ต้น รวมถึง การชดเชยด้วย I-RECS และคาร์บอนเครดิต เป็นต้น
เซ็นทรัลพัฒนา ยังคงมุ่งมั่นสานต่อโครงการตามแนวทาง Journey to Net Zero2050 อย่างต่อเนื่อง โดยมีความก้าวหน้าต่อเนื่องตามแผนในด้านต่างๆ ทั้งEnergy การใช้พลังงานสะอาด ติดตั้ง Solar Rooftop หรือ Solar Street Light ในทุกศูนย์การค้า 100% Water ลดการใช้น้ำ ใช้น้ำซ้ำ และนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมติดตั้งระบบผลิตน้ำรีไซเคิล Waste สามารถแปลงขยะเพื่อลดปริมาณขยะฝังกลบและ Air ดูแลคุณภาพอากาศให้ได้มาตรฐานและยกระดับมาตรการ PM 2.5 เป็นต้น เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างคุณค่าให้กับผู้คน เติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน