มหาวิทยาลัยศรีปทุม โดยคณะการออกแบบ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ผนึกกำลังภาคีการพัฒนาเมือง จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมี สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ร่วมกับมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล เดินหน้าโครงการ “เส้นทางสัญจรต้นแบบเพื่อทุกคน” แก้ไขปัญหาทางเท้าและสะพานลอยจากบริบทเมืองที่เปลี่ยนแปลง อาทิ ทางเท้าแคบ-บันไดสะพานลอยขวาง ใช้พื้นที่บางบัว–สะพานใหม่ ระยะทาง 4.3 กิโลเมตรเป็นต้นแบบการพัฒนาสำรวจร่วมกับภาคประชาชนเพื่อออกแบบแก้ปัญหาตามให้ทุกคนใช้ประโยชน์ได้ต่อเนื่องตลอดเส้นทาง
อาจารย์ธีรบูลย์ พิศาลอภิพงศ์ คณบดีคณะการออกแบบและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีปทุม กล่าวว่า การนำเสนอโครงการเส้นทางสัญจรต้นแบบเพื่อทุกคน ปรับปรุงพื้นที่ทางสัญจรริมถนน กรณีต้นแบบบางบัว – สะพานใหม่ เกิดจากการผนึกกำลังทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ-เอกชน และภาคประชาชน โดยความร่วมมือจาก สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร มูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล และประชาชนในพื้นที่ สำรวจปัญหาพื้นที่ทางสัญจรบางบัว–สะพานใหม่ บนแนวคิดรูปแบบการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุด
โดยจะแก้ปัญหาทางเท้า และสะพานลอยใน 3 ลักษณะหลัก คือ การออกแบบเพื่อแก้ปัญหาสิ่งกีดขวางบนทางเท้า รวมถึงปรับบันไดสะพานลอยตั้งแต่ช่วงชานพัก และขยายพื้นที่ทางเท้าด้านชิดอาคารริมทางสัญจร บนโรดแมปการแก้ไขที่เห็นชอบร่วมกันของทุกฝ่าย โดยมีเป้าหมายใช้เป็นโครงการนำร่องแก้ไขปัญหาทางเท้าเฉพาะจุดให้ทุกคนสามารถใช้ทางเท้าร่วมกันได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
–“เพราะแคร์ จึงชวนแชร์” นีเวีย ผุดโครงการ ปรับปรุงห้องสมุดยุคใหม่ เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ให้เด็กไทย
โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของมหาวิทยาลัยที่นอกเหนือจากการมุ่งพัฒนา ผลิตนักศึกษา สร้างบุคลากรคุณภาพสู่สังคมแล้ว อีกหนึ่งด้านที่ยังคงให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่องคือการพัฒนาชุมชน และสังคม โดยมีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs ตามภารกิจของสหประชาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับหลัก ESG แนวคิดการพัฒนาพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันทุกภาคส่วนเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งหากบริษัทเอกชนให้ความสำคัญร่วมมือปรับปรุงพื้นที่สัญจรของตัวเองเป็นอีกหนึ่งโครงการ ESG ที่เป็นรูปธรรมทำเพื่อชุมชน สังคมรอบข้างได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยังยืน SDGs ตามแนวทางขององค์กรสหประชาชาติ และให้พื้นที่ชุมชนโดยรอบ โดยรับรู้ถึงปัญหาขาดความสะดวกสบายในการใช้ทางเท้า บริเวณบางบัว–สะพานใหม่ ของชุมชนที่อยู่อาศัยใกล้เคียงเส้นทางเท้าริมถนน และติดกับสถานีรถไฟฟ้าที่มีผู้ใช้เส้นทางในการเดินทางจำนวนมาก ทั้งกลุ่มประชาชนวัยเรียน วัยทำงาน ผู้พิการ และผู้สูงอายุมาโดยตลอด ประกอบกับคณะการออกแบบ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านการสำรวจ วิจัย และออกแบบ
จึงเป็นตัวเชื่อม กทม. มูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล กลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ และประชาชนในพื้นที่มาร่วมสำรวจและวางแผนการแก้ไขทางเท้าให้เป็นมิตรต่อการเดินทางของทุกคน หากสามารถดำเนินการแล้วเสร็จ โครงการนี้นำร่องเป็นมาตรฐานโครงการต้นแบบ ปลดล็อกการแก้ปัญหาทางเท้าทั้งระบบได้อย่างยั่งยืน บนความร่วมมือของทุกภาคส่วน และเป็นต้นแบบให้เอกชนออกมาเชื่อมโยงประสานความร่วมมือหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขทางสัญจรในพื้นที่ของตังเอง โดยที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขได้ถาวรและรวดเร็ว เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคหลายส่วนทั้ง ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ระบบสื่อสาร รวมถึงสตรีทเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ การดำเนินการแก้ไขบนความร่วมมือเป็นทางออกสำคัญของการแก้ไขปัญหานี้ และหวังว่าโครงการนี้จะการเป็นตัวจุดประกายให้พื้นที่อื่นๆร่วมมือกันปรับทางเท้าบริเวณชุมชนของตนเองในทั้งในพื้นที่ กทม. และต่อยอดไปทั่วประเทศ
กฤษณะ ละไล ประธานมูลนิธิอารยสถาปัตย์ กล่าวเพิ่มเติม “ด้วยรูปแบบผังเมืองปัจจุบันที่เปลี่ยนไป ส่งให้ทางเท้า แคบลง มีสิ่งกีดขวาง พื้นขรุขระ ส่งผลให้ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกับผู้พิการ ผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเพราะประเทศไทยได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวแล้ว การเดินทางไปไหนมาไหนด้วยตัวเองไม่สะดวกและขาดความปลอดภัย ปัจจุบันพบปัญหาที่ผู้พิการและผู้สูงอายุในการสัญจรทางเท้า เช่น ผู้ใช้วีลแชร์สัญจรไม่ได้เพราะบันไดสะพานลอยกีดขวางทำให้ทางเท้าแคบลง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆบนทางเท้า ถูกขยับขยายไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เอื้อต่อผู้ใช้ทางเท้า
ทั้งนี้การเชื่อมโยงทางสัญจรให้สามารถเชื่อมโยงใช้งานกันอย่างทั่วถึงไร้รอยต่อ ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย หากมองว่าคนพิการไม่มี แต่มีเพียงสภาพแวดล้อมที่พิการ หากร่วมมือแก้ไขสภาพแวดล้อมที่พิการได้จะเป็นแก้ปัญหาทางสัญจรที่ยั่งยืน ทำให้กทม.เป็นหนึ่งในเมืองหน้าอยู่บนหมุดแผนที่โลกได้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้การคำนึงถึงการออกแบบทางเท้าให้สามารถรองรับการใช้ชีวิตได้อย่างเท่าเทียมกันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ตามหลักออกแบบอารยสถาปัตย์ (Universal Design) เพื่อให้ทุกคนได้มีสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณูปโภคต่าง ๆ ได้โดยไม่เกิดอุปสรรคในการใช้ชีวิต
ดังนั้น การออกแบบอารยสถาปัตย์ในพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบการใช้งานที่เหมาะสมกับประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้งาน วัสดุอุปกรณ์ ราวจับ ความลาดชัน รวมไปถึงสัญลักษณ์ต่าง ๆ เพื่อเอื้อต่อความสะดวกให้การเดินทางตามวัตถุประสงค์ของ โครงการ “เส้นทางสัญจรต้นแบบเพื่อทุกคน”
ประสิทธิ์ อินทโฉม รองผู้อำนวยการ สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้พัฒนาระบบคมนาคมทั้งรถเมล์ชานต่ำและรถไฟฟ้าที่พร้อมจะส่งคนพิการไปยังจุดหมาย รวมถึงได้เดินหน้าพัฒนาปรับปรุงทางเท้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมให้คนพิการเดินทางได้ด้วยตนเองตามกำลังความสามารถ ลดการพึ่งพาผู้อื่น แต่การพัฒนาเมืองและระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่เอื้อต่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต การปรับปรุงเส้นทางการจราจร การตัดถนน อาจทำให้ทางเท้าซึ่งสร้างตามมาตรฐานไปกระทบการใช้งานของประชาชน การขยายความกว้างถนนทำให้ทางเท้าแคบลง บันไดสะพานลอยกลายเป็นสิ่งกีดขวาง ตำแหน่งสถานีรถไฟฟ้า การติดตั้งเสาไฟ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ บนพื้นที่ทาง ทำให้การใช้งานทางเท้าเปลี่ยนแปลงไป
สำนักการโยธากรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีปทุมลงพื้นที่ศึกษา บนเส้นทางบางบัว-สะพานใหม่ ร่วมกับกรุงเทพมหานครและกลุ่มคนพิการผู้ใช้ทางเท้า เพื่อรับฟังความคิดเห็นทั้งปัญหาโดยตรงและทางอ้อมจากประชาชน นำไปสู่การพัฒนารูปแบบให้สอดรับกับความต้องการ ในเบื้องต้นเสนอแก้ปัญหาทางเท้าและสะพานลอยใน 3 ลักษณะหลัก ๆ ประกอบด้วย การปรับสิ่งกีดขวางบนทางเท้า / ปรับบันไดสะพานลอยตั้งแต่ช่วงชานพัก และขยายพื้นที่ทางเท้าด้านชิดอาคาร
โดยมหาวิทยาลัยศรีปทุมได้ยื่นเสนอกับกรุงเทพมหานคร พร้อมรับความเห็นชอบ ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาลักษณะปัญหาอื่นๆตลอดเส้นทาง เพื่อนำร่องพัฒนารูปแบบมาตรฐานในการแก้ปัญหา นำไปปรับปรุง และขยายผลสู่พื้นที่อื่นๆต่อไป โครงการเส้นทางสัญจรต้นแบบเพื่อทุกคน ถือเป็นโครงการต้นแบบการผนึกกำลังความร่วมมือของภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกันสำรวจและออกแบบแก้ไขร่วมกัน บนการเดินหน้านโยบายปรับปรุงพัฒนาพื้นที่ทางเท้า รวมถึงปรับปรุงสะพานลอยให้เหมาะสมกับการใช้งานของทุกคน และคงความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน สอดรับกับนโยบายของกรุงเทพมหานครได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน และจะกลายเป็นโครงการการนำร่องต้นแบบการจัดการเส้นทางสัญจรบนทางเท้า
AIS จับมือ OPPO เปิดตัว OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิป รุ่นล่าสุด ในราคาเริ่มต้นเพียง 18,999 บาท พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษให้กับลูกค้า AIS…
ออเนอร์ กรุ๊ป เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู "Once Wongamat" บนทำเลทองวงศ์อมาตย์ ชูจุดเด่นการออกแบบที่ผสานความหรูหรา และความยั่งยืนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ออเนอร์ กรุ๊ป (Honour Group)…
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด มอบประกันอุบัติเหตุจากกรุงไทย แอกซ่า ฟรี 30 ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม - 31 ธันวาคม 2567…
พฤกษา โฮลดิ้ง ไม่หยุดยั้งที่จะสร้างสรรค์สังคมแห่งโอกาสที่เท่าเทียม เดินหน้าสู่ปีที่ 6 ของโครงการ “บ้านใส่ใจเพื่อคนพิการ By PRUKSA” โดยผนึกกำลังร่วมกับ โรงพยาบาลวิมุต และ อินโนโฮม คอนสตรัคชัน ในเครือ…
บาร์บีคิวพลาซ่า จับมือ วิตอะเดย์ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการน้ำดื่มผสมวิตามิน ส่ง "วิตอะเดย์ กะหล่ำปลี วอเตอร์" รสชาติสุดว้าว พร้อมดึงพี่ GON ร่วมสร้างสีสัน เอาใจสายเฮลท์ตี้ แถมโปรโมชั่นสุดคุ้มชุดประหยัดหมู 2…
เคยไหม? เลื่อนฟีดโซเชียลมีเดียแล้วเจอคลิปโป๊ ๆ ของคนดัง หรือแม้แต่คนรู้จัก แต่เอะใจว่า...มันดูแปลก ๆ เหมือนไม่ใช่ตัวจริง นั่นอาจเป็นเพราะคุณกำลังเผชิญหน้ากับ "Deepfake Porn" ภัยร้ายยุค AI ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ Deepfake…