เนสกาแฟเดินหน้าขับเคลื่อนหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟู (Regenerative Agriculture) ภายใต้โครงการ เนสกาแฟ แพลน 2030 เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมกาแฟในประเทศไทย โดยมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้แก่เกษตรกรและสร้างความพร้อมในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยมีความคืบหน้าในโครงการปลูกต้นไม้ในสวนกาแฟ เพื่อสนับสนุนการไปสู่เป้าหมายของกลุ่มเนสท์เล่ในการลดการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2050
เดวิด เรนนี่ สมาชิกคณะกรรมการบริหารกลุ่มเนสท์เล่และประธานกลุ่มแบรนด์ผลิตภัณฑ์กาแฟเนสท์เล่ เปิดเผยว่า “โครงการเนสกาแฟ แพลน 2030 เป็นการสร้างคุณค่าร่วมกันของเนสกาแฟกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ โดยเราได้ทำงานร่วมกันเพื่อเสริมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมกาแฟ โดยเป็นแผนบูรณาการที่นำหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟูมาช่วยเหลือเกษตรกร โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มผลผลิตจากการปลูกกาแฟ และปรับปรุงคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น”
–TCP สานต่อพันธกิจจัดการน้ำทุกมิติ นำร่องชุมชนต้นแบบ “เติมน้ำใต้ดิน” ต.นนทรี จ.ปราจีนบุรี
“เรากำลังเร่งทำงานเพื่อช่วยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และจัดการกับความท้าทายทางด้านสังคมและเศรษฐกิจที่เกษตรกรในหลายพื้นที่ รวมทั้งในประเทศไทยกำลังเผชิญ ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความคืบหน้าจากการทำงานเพื่อส่งเสริมหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟูในภาคใต้ของไทย โดยเกษตรกรได้รับประโยชน์จากผลผลิตที่ดีขึ้นและจากความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น นอกจากนี้ การศึกษาเชิงวิชาการในท้องถิ่น* ยังแสดงให้เห็นว่า รายได้สุทธิจากฟาร์มของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากเนสกาแฟมีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 88% ในปี 2565 ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปี 2561”
โจโจ้ เดลา ครูซ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟและครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “เนสกาแฟ มีส่วนช่วยพัฒนาวงการกาแฟในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ที่นักวิชาการเกษตรของเราได้ทุ่มเทในการร่วมทำงานกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถทำการเกษตรอย่างยั่งยืน และได้ผลผลิตดีขึ้น อันนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม โดยเนสกาแฟได้กระจายต้นกล้ากาแฟพันธุ์ดีกว่า 3.6 ล้านต้นให้แก่เกษตรกร และฝึกอบรมด้านการเป็นผู้ประกอบการสวนกาแฟให้กับเกษตรกรแล้วถึง 2,000 ราย”
“ความทุ่มเทและการทำงานเคียงข้างเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในท้องถิ่น ทำให้เราประสบความสำเร็จร่วมกันในการเพาะปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน 100% โดยเมล็ดกาแฟทุกเม็ดที่เนสกาแฟรับซื้อจากเกษตรกรในประเทศไทยได้รับการรับรองมาตรฐาน 4C (Common Code for the Coffee Community) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล เพื่อส่งมอบกาแฟคุณภาพให้กับผู้บริโภคชาวไทยและยังดีต่อโลกอีกด้วย” โจโจ้ กล่าวเสริม
“จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีความท้าทายมากขึ้น เราจึงได้นำโครงการเนสกาแฟ แพลน 2030 มาดำเนินการในประเทศไทย โดยมุ่งส่งเสริมหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟู เราจะสานต่อความร่วมมือกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และ PUR Projet ในการฝึกอบรมและให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคเพื่อเพิ่มผลผลิตในการปลูกกาแฟให้แก่เกษตรกร ตลอดจนสร้างความหลากหลายของผลผลิตในสวนกาแฟและดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ในสวนกาแฟเพื่อปรับปรุงคุณภาพดินและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของเรา”
การปลูกต้นไม้ในสวนกาแฟ เป็นอีกหนึ่งโครงการหลักในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนสท์เล่ได้จับมือกับ PUR Projet เพื่อดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ในสวนกาแฟ จำนวน 800,000 ต้นระหว่างปี ค.ศ. 2022-2026 ที่จังหวัดระนองและชุมพร เพื่อสนับสนุนเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจก
นอกจากนั้น เพื่อติดตามผลของการปลูกต้นไม้ในสวนกาแฟ เนสท์เล่จะเป็นบริษัทแรกที่ได้นำร่องการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมอันล้ำสมัยที่มีชื่อว่า Pléiades Neo satellites เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่ปลูกวัตถุดิบของเนสท์เล่สามารถเจริญเติบโตและงอกงามในระยะยาว โดยประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกของเนสท์เล่ที่จะนำร่องใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยนี้ที่จังหวัดชุมพรและระนองซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการปลูกต้นไม้ในสวนกาแฟตั้งแต่ปีที่แล้ว เทคโนโลยีนี้จะใช้ในการติดตามต้นไม้ที่ให้ร่มเงาที่ปลูกในสวนกาแฟของเกษตรกรไทยไปอย่างต่อเนื่องไปอีก 20 ปีข้างหน้า
วิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า “กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญมากของจังหวัดชุมพร เราต้องการส่งเสริมการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืนให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ นอกจากนี้ ทางจังหวัดเองก็ได้ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาชาวสวนกาแฟรุ่นใหม่ และขอขอบคุณเนสกาแฟที่มาดำเนินโครงการต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่องยาวนาน เพื่อส่งเสริมการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน ถือเป็นการขานรับกับนโยบายของทางจังหวัดชุมพรเป็นอย่างดี”
โค้ก โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย สร้างความฮือฮาให้กับตลาดเครื่องดื่มอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว "โค้ก" ซีโร่ กลิ่นวานิลลา ความอร่อยใหม่ที่ผสานความซ่าส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ "โค้ก" เข้ากับความหอมหวานละมุนละไมของวานิลลาได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือมาในสูตรไม่มีน้ำตาล ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen…
บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น (Epson) ประกาศแต่งตั้ง โยชิดะ จุนคิชิ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและตัวแทนผู้อำนวยการ (President and Representative Director) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ (Chief…
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดย กองสิ่งแวดล้อม ฝ่ายพัฒนาโครงการรถไฟฟ้า ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในการก่อสร้าง ช่วงเวลากลางคืน การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตลอดแนวเส้นทางโครงการฯ โดยเริ่มตั้งแต่จุดก่อสร้าง Cut…
LINE MAN ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Lotus’s และ Lotus’s go fresh ขยายฐานบริการ LINE MAN MART ให้ครอบคลุมกว่า 1,400 สาขาทั่วประเทศ…
พฤกษา ผนึกกำลัง โรงพยาบาลวิมุต มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพครบวงจรให้ลูกบ้านตลอดปี 2568 ภายใต้แนวคิด "สุขภาพดีเริ่มต้นที่บ้าน" จิตชญา ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดองค์กรกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง…
ออเนอร์ (HONOR) ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของสมาร์ทโฟนระดับแฟลกชิป HONOR Magic7 Pro 5G ที่สร้างยอดขายเติบโตสูงถึง 2.4 เท่า นับตั้งแต่เปิดให้พรีออเดอร์เมื่อวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568…