ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ด (Tops) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอาหารด้วยแนวทางที่ยั่งยืน ผนึกกำลัง มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS Thailand) ตั้งเป้าลดปริมาณขยะอาหารให้เป็นศูนย์ พร้อมฉลองความสำเร็จการส่งมอบมื้ออาหารสะสมกว่า 5 ล้านมื้อ และช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากขยะอาหาร ได้มากถึง 3,000 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในงาน “Tops Sharing Food Sharing Happiness” กิจกรรมส่งมอบความสุขผ่านมื้ออาหาร ที่ปรุงจากวัตถุดิบอาหารส่วนเกินที่ยังคงคุณภาพดี และแจกจ่ายให้กับชุมชน โดยจัดขึ้นต่อเนื่องกว่า 5 ปีแล้ว และด้วยความมุ่งมั่นต่อพันธกิจของการลดปริมาณขยะอาหารอย่างต่อเนื่องและเห็นผลเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ ท็อปส์ สามารถคว้ารางวัล Outstanding Surplus Food Contributor Award จากเวที SOS Award Zero Summit 2023 ตอกย้ำเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย
จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “ท็อปส์มุ่งเน้นสร้างสรรค์พลังแห่งความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในยุทธศาสตร์คือการบริหารจัดการอาหารส่วนเกิน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ ภายใต้โครงการ “Small Acts Together พลังเล็กๆ เพื่อโลกที่ยั่งยืน” ที่ตั้งเป้าเดินหน้าภารกิจลดปริมาณขยะอาหาร ตอกย้ำเจตนารมณ์ของเซ็นทรัล รีเทล ในการเป็น Green & Sustainable Retail องค์กรค้าปลีกต้นแบบด้านความยั่งยืนแห่งเอเชีย และด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกันอย่าง มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS Thailand) ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี เราได้ส่งมอบมื้ออาหารให้กับชุมชนทั้งในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ไปแล้วกว่า 5 ล้านมื้อ ช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากขยะอาหาร ได้มากถึง 3,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และเราจะยังคงเดินหน้าสานต่อกิจกรรมดังกล่าวให้สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงที่กว้างขึ้น เป็นแบบอย่างและแนวทางให้แก่ทุกหน่วยงานได้เข้ามาร่วมกันช่วยลดปริมาณขยะอาหารให้เป็นศูนย์ เพื่อลดผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศ”
สำหรับการฉลองอีกหนึ่งไมล์สโตน แห่งความสำเร็จในการลดปริมาณขยะอาหารในครั้งนี้ ได้จัดขึ้นพร้อมกับกิจกรรม “Tops Sharing Food Sharing Happiness” โดย ท็อปส์ ร่วมกับ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS Thailand) เพื่อส่งมอบความสุขผ่านมื้ออาหารคุณภาพ ควบคู่ไปกับการช่วยลดค่าครองชีพให้คนในชุมชน โดยมีเชฟตุ๊กตา – สุพัตรา สารสิทธิ์ ผู้เข้าแข่งขันรายการ เชฟกระทะเหล็ก มาร่วมรังสรรค์เมนูอาหาร จากวัตถุดิบอาหารส่วนเกินที่ยังคงคุณภาพดีจากท็อปส์ เพื่อแจกจ่ายให้กับพี่น้องในชุมชนเขตบางพลัด และชุมชนใกล้เคียง รวมกว่า 5,300 มื้อ พร้อมกันนี้ ยังได้รับเกียรติจากนายธนิต ตันบัวคลี่ รองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร ให้เกียรติเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้
ด้าน ทวี อิ่มพูลทรัพย์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟซัสทีแนนซ์ กล่าวว่า “มูลนิธิ ฯ ได้รับความร่วมมือกับทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรมและภาคส่วนต่างๆ ที่มีเป้าหมายเดียวกันในการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยแนวคิดการจัดการอาหารส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึง บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล หรือ ท็อปส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่ายที่ร่วมงานกับ SOS ที่ให้การสนับสนุนและตระหนักถึงการแก้ไขปัญหาขยะอาหารอย่างยั่งยืน มาตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ด้วยการส่งต่ออาหารส่วนเกินที่ดี มีคุณภาพให้กับมูลนิธิฯ เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ขาดแคลนและด้อยโอกาสในสังคมไทย และยังช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อีกด้วย”
และด้วยความมุ่งมั่นของท็อปส์ ในการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และสร้างผลลัพธ์ต่อการลดปริมาณขยะอาหารแบบจับต้องได้ ส่งผลให้ ล่าสุด ท็อปส์ สามารถคว้ารางวัล Outstanding Surplus Food Contributor Award จากเวที SOS Award Zero Summit 2023 โดย มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS Thailand) ถือเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความทุ่มเทของท็อปส์ ในการร่วมขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนด้านอาหาร ในด้านการจัดการ Food Supply Chain ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการร่วมบริจาคให้ มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS Thailand) ได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แทนการทิ้งอาหารโดยเปล่าประโยชน์ และสร้างขยะอาหารให้น้อยที่สุด
“บริษัทฯ รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นอีกเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของท็อปส์ จากผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งท็อปส์เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการกระทำเล็กๆ จากทุกคน จะสามารถสานต่อเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ สู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อโลกที่ดีขึ้น และอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับเจเนอเรชั่นต่อๆ ไป” จักรกฤษณ์ กล่าวทิ้งท้าย