บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) สานต่อหลักสูตร “LEAD โดยเซ็นทรัลพัฒนา” เปิดรับสมัครผู้ประกอบการรุ่นใหม่ไฟแรง เข้าอบรม “LEAD รุ่นที่ 6” หลักสูตรรีเทลหนึ่งเดียวของไทยที่สร้างความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับผู้เรียนทุกรุ่น ด้วยโมเดล “เรียนจริง-ทำจริง-โตจริง” โดยมีเซ็นทรัลพัฒนาเป็น Business Incubator ช่วยให้แบรนด์แข็งแรงขึ้น บน Retail Ecosystem ของ Central Group ซึ่งมีกลุ่มธุรกิจและเครือข่ายพาร์ทเนอร์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ สร้างโอกาสให้เติบโตได้หลายรูปแบบ ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับการอยู่เคียงข้างและช่วยสร้างความสำเร็จให้กับพันธมิตรคู่ค้าของเซ็นทรัลพัฒนาที่มีอยู่กว่า 15,000 รายทั่วประเทศ
ดูรายละเอียดหลักสูตร LEAD รุ่นที่ 6 ได้ที่ https://shoppingcenter.centralpattana.co.th/lead
ประกาศรายชื่อ 40 แบรนด์ที่ได้รับเลือกภายในเดือนพฤษภาคม 2567 นี้
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “คอร์ส LEAD โดยเซ็นทรัลพัฒนา คือหลักสูตรรีเทลที่ตอบโจทย์ธุรกิจแบบทันยุคทันสมัย เนื้อหาแต่ละปีจะปรับเปลี่ยนให้ก้าวทันเทรนด์โลก อย่างเช่น เทคโนโลยี และการใช้ Big Data ที่กำลังเข้ามามีบทบาทกับพวกเรามากขึ้นทุกที เหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้ช่วยส่วนตัวแบบดิจิทัล กระทั่งอุปกรณ์เครื่องใช้อัจฉริยะต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในภาคธุรกิจ การค้า การให้บริการ รวมถึงทำการตลาดแบบ Marketing Intelligence ซึ่งผู้เรียนต้องทำความเข้าใจ และรู้วิธีนำมาใช้พัฒนาธุรกิจของตัวเอง โดยมีกูรูที่เป็น Retail Experts จากธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล และพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาร่วมกันถ่ายทอดให้คำแนะนำ
เมื่อจบหลักสูตรแล้ว แต่ละแบรนด์ยังมีโอกาสร่วมเป็นคู่ค้าใน Ecosystem ของเซ็นทรัลพัฒนา และเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน ด้วยการดูแลวางแผนทำงานอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ ช่วยตัดสินใจเลือกเจาะตลาดได้ถูกต้องตามจุดแข็งของแบรนด์ มีบริการแพลตฟอร์ม B2B2C Seamless Solution ที่จะช่วยต่อยอดสร้างโอกาสให้คู่ค้าเพิ่มยอดขาย ด้วยการยกระดับ Digitalized Services และ Experience App เพื่อให้บริการต่างๆ สามารถทำได้บนมือถือทั้งลูกค้าและคู่ค้า ทำให้ลูกค้าช้อปปิ้งได้แบบไร้รอยต่อ คู่ค้าก็สามารถเสนอสินค้าและบริการได้อย่างไร้ขีดจำกัด
นอกจากนี้คู่ค้าของเซ็นทรัลพัฒนา ยังจะได้รับการช่วยเหลือด้าน Business Operation ต่างๆ มากมายรวมถึงได้ใช้ Big Data จาก The 1 BIZ – Marketing Intelligence Solutions ซึ่งเป็น The Most Powerful CRM Tool ยุคใหม่พร้อมใช้งานสำหรับแบรนด์ทุกระดับ ช่วยแบรนด์ประหยัดต้นทุนและเวลาในการทำ CRM โดยมี Database ที่มากที่สุดในประเทศไทย และมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี มีครบทุกพฤติกรรมจับจ่ายใช้สอยแบบ 360 องศา จากฐานข้อมูล The 1 ช่วยให้แบรนด์สร้างโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด, รักษาลูกค้า Loyalty, ดึงดูดลูกค้าใหม่ และเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ”
ผศ.ปิติพีร์ รวมเมฆ Program Director ผู้ออกแบบหลักสูตร LEAD ตั้งแต่รุ่นที่1 กล่าวว่า “หลักสูตร LEAD ช่วยดึงศักยภาพของแบรนด์มาปั้นต่อ เรามองหาจุดแข็งของแบรนด์แล้วดึงให้สุด พัฒนาต่อยอดศักยภาพ และเน้นปฏิบัติจริงไม่ใช่แค่การนำเสนอเคสธุรกิจ โดยเซ็นทรัลพัฒนามีพื้นที่ให้ทดลองทำจริง วัดผลสำเร็จด้วยการทำยอดขายจริงในเวิร์คช็อป Pop-up market ในพื้นที่ศูนย์การค้า Prime location ของเซ็นทรัลพัฒนา เพื่อให้ผู้เรียนทดลองตลาดใหม่ สินค้าใหม่ได้ทันที จนหลายแบรนด์สเกลอัพธุรกิจได้เลยตั้งแต่ตอนเรียน ไม่ต้องรอทำหลังจบหลักสูตร ที่สำคัญคอร์ส LEAD สอนให้เรียนรู้การทำ Co-Creation ร่วมกับแบรนด์อื่น ได้มุมมองใหม่ๆ เหมือนเป็น Fast track สำหรับธุรกิจ SMEs ในการได้พื้นที่สำหรับทดลองจริง ได้ลองผิดลองถูก โดยมีเราคอยให้คำแนะนำ ทำให้แบรนด์รู้ทิศทางว่าควรไปต่อตรงไหน และนำประสบการณ์ที่ได้ไปต่อยอดกับธุรกิจได้จริง เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
สำหรับรุ่นต่อไปรุ่นที่ 6 เราตั้งใจจะเน้นความรู้ที่จะช่วยสร้างความสำเร็จในยุคใหม่ และตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้ายุคดิจิทัล ที่ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นกับการทำธุรกิจในยุคใหม่ ช่วยให้พฤติกรรมของผู้บริโภคได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ”
สูตรลัดความสำเร็จจากคำยืนยันของผู้จบคอร์ส LEAD โดยเซ็นทรัลพัฒนา
ก้อย สุรีย์พร พูนศักดิ์ไพศาล เจ้าของแบรนด์ชาใต้ ‘ชงดี’ จาก LEAD รุ่น 4 กล่าว่ว่า LEAD ทำให้เกิด ‘ชงดี’ LEAD ทำให้เราได้ลองทำจริง เจอปัญหาจริง การมีโอกาสได้ซ้อม ทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จเพิ่มมากขึ้น
“เรารู้สึกว่าชาใต้และขนม Local มีคาแรคเตอร์ของตัวเอง แต่ยังไม่เคยมีใครดึงออกมาเพื่อปรับให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ แบรนด์ ‘ชงดี’ เกิดขึ้นมาจากคอร์ส LEAD เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Pop-Up Event ของการเรียน LEAD แม้จะคาดเดามาแล้วว่าเราจะเจอปัญหาอะไรบ้าง แต่พอถึงเวลาที่แบรนด์เปิดตัวขึ้นมาจริงๆ ก็มีปัญหาอีกมากมายที่เราคาดไม่ถึง ซึ่งคำแนะนำของอาจารย์เอม และความช่วยเหลือของเพื่อนๆ ในคอร์ส ช่วยเราได้มาก คอร์สนี้ยังทำให้เรียนรู้การทำ Collaboration กับแบรนด์อื่น ทำให้เราสามารถนำสิ่งนี้ไปต่อยอดในอนาคตได้”
สา ธนิสา วีระศักดิ์ศรี เจ้าของแบรด์ RAVIPA จาก LEAD รุ่น 2 กล่าว่ว่า นับจากวันที่ได้เข้าไปเรียน LEAD เราได้นำสิ่งที่เรียนไปปรับใช้จริง และลองขายจริง ทุกวันนี้ก็ยังนำสิ่งที่เรียนมาปรับใช้จริงกับ “RAVIPA” ค่ะ
“แบรนด์ Ravipa เติบโตขึ้นมากจากวันที่เราเข้าไปเรียน LEAD การได้ออกบูธในงาน Pop-Up Event ทำให้เราเปลี่ยนความคิดใหม่ว่าแบรนด์เราสามารถที่จะไปศูนย์การค้าสาขาอื่นได้ ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้าในเมือง ทำให้เรารู้สึกเหมือนออกจากคอมฟอร์ทโซน ได้เรียนรู้การทำธุรกิจในมุมใหม่ ทุกวันนี้ Ravipa ยังคงใช้วิธีนี้อยู่ในการขยายแบรนด์ คือลองออก Pop-up ก่อน เพื่อทดลองตลาด รู้จักกลุ่มลูกค้า และนำสิ่งที่ได้จากการลองขายมาปรับใช้ ก่อนที่จะเปิดเป็นหน้าร้านในพื้นที่นั้นๆ”
แจ็ค อติโรจน์ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด แบรนด์ Beautrium จาก LEAD รุ่น 4 กล่าว่ว่า คอร์สนี้ทำให้กลับมามองแบรนด์ตัวเองอีกครั้ง LEAD สอนในสิ่งที่ใช้งานได้จริง และทำให้เราลองคิดนอกกรอบ คิดต่อยอดจากสิ่งที่เรามี
“Beautrium เราเริ่มกันมา 12 ปีแล้ว จากทางพี่ชายมองว่าน่าจะมีพื้นที่หนึ่งที่รวบรวมแบรนด์บิวตี้ ปัจจุบันเรามี 40 สาขา และเป็นหนึ่งในผู้นำด้านบิวตี้สเปเชียลตี้สโตร์ LEAD สอนเรื่องธุรกิจในทุกแง่มุม แต่ไม่ได้สอนในมุมวิชาการ เป็นการสอนเราในมุมการนำไปประยุกต์ใช้งานจริง มันทำให้เรากลับมามองตัวเองว่ามีมิติไหนที่เราขาดตกบกพร่องไปหรือเปล่า หรือบางมิติที่เราไม่เคยนึกถึงเลย LEAD สนับสนุนให้เราได้คิดนอกกรอบให้ลองคิดว่าถ้าเราจะต่อยอดธุรกิจ เราจะใช้สิ่งที่เรามีอยู่ให้เราไปต่ออย่างไรได้บ้าง ในคอร์สเราสามารถที่จะแลกเปลี่ยนการทำธุรกิจกับเพื่อนๆ ได้ จบคอร์สมาเราก็มีโอกาสได้เป็นพาร์ทเนอร์กับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน”
บูม จิตพล ศิริวัฒนเมธางกูร Co-founder แบรนด์ GENTLEWOMAN จาก LEAD รุ่น 1 กล่าว่ว่า LEAD คือก้าวแรกของการทำรีเทล ทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ที่หลากหลาย จากทั้งเพื่อนและอาจารย์
“เราเริ่มต้นทำแบรนด์ตอนอายุ 26 จากการอยากเห็นแบรนด์เสื้อผ้าไทยไปได้ไกลและอยากทำในแบบของเรา เลยเกิดเป็น GentleWoman การที่เราได้เข้ามาเรียนคอร์ส LEAD ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนที่ทำรีเทล แม้จะคนละสายแต่ก็สามารถนำความคิดที่ทุกคนแชร์มาปรับใช้กับแบรนด์ของเราเองได้ ทำให้ความรู้เรื่องรีเทล ของเรากว้างมากขึ้น เซ็นทรัลคือผู้เชี่ยวชาญด้านรีเทลอยู่แล้ว การมาเรียนรู้สึกเหมือนเรามาเจอเพื่อนที่เข้ามาเรียนคณะรีเทลเหมือนกัน”
–นีเวีย จับมือ วัตสัน ชวนแชร์พลังใจ ส่งต่อความห่วงใยแก่ผู้ป่วยมะเร็ง