วาสลีน ออกแคมเปญกระตุ้นคนไทยตระหนักถึงอันตรายจากแสงแดด ด้วยการเปลี่ยนแสงแดดช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกให้กลายเป็น ป้ายโฆษณาบิลบอร์ดจาก แสงพระอาทิตย์ขึ้น-ตก แสดงสัญลักษณ์ “!” เตือนภัย เพื่อเตือนให้คนไทยหันมาใส่ใจกับการใช้ผลิตภัณฑ์ กันแดด ดูแลปกป้องผิวจากรังสี UV ทุกเวลา แม้ในช่วงที่แดดไม่แรง
ในปี 2565 ตลาดผลิตภัณฑ์กันแดดในประเทศไทยมีมูลค่ารวม 9.45 พันล้านบาท* เติบโตขึ้น 18.4% โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์กันแดด 3.24 พันล้านบาท และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มี SPF 6.20 พันล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยให้ความสำคัญกับการปกป้องผิวพรรณจากแสงแดด โดยมีการใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตในเมือง หรือไปเที่ยวทะเล ซึ่งคนไทยรับรู้ถึงอันตรายจากแสงแดด ไม่ว่าจะเป็นผิวไหม้จากการตากแดด หรือความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง แต่จากผลสำรวจ** กลับพบว่ามีคนไทยเพียง 14.3% รับรู้ว่าแสงแดดในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดิน ก็มีอันตรายต่อผิวเช่นกัน เนื่องจากดวงอาทิตย์มีการแผ่รังสี UV ออกมาตลอดทั้งวัน แม้ในช่วงที่มีแสงแดดอ่อนๆ ในเวลา 6-8 โมงเช้า หรือเวลา 4-6 โมงเย็น จากงานวิจัยเรื่องปริมาณการแผ่รังสี UV ในประเทศไทย*** ได้มีการเก็บข้อมูลรังสี UV เป็นเวลาสิบปีที่จังหวัดนครปฐม พบว่าดวงอาทิตย์มีการแผ่รังสี UV ตั้งแต่เช้าช่วงเวลาตีห้าครึ่ง โดยมีการแผ่รังสี UV สูงสุดในช่วงเที่ยงวัน และลดการปล่อยรังสีลงจนสิ้นสุดในเวลา 1 ทุ่ม สะท้อนให้เห็นความสำคัญของการทาครีมกันแดดตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงเย็น ว่ายังเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อการปกป้องผิวพรรณ
–LG รวมโปรเครื่องใช้ไฟฟ้ารับหน้าร้อน มอบนวัตกรรมตอบโจทย์ทุกความต้องการของชาวไทย
ในปี 2565 วาสลีน มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 31.6% ของตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายมูลค่า 8.95 พันล้านบาท วาสลีนในฐานะผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในประเทศไทย มุ่งมั่นปกป้องผู้บริโภคจากภัยร้ายจากแสงแดดพร้อมสนับสนุนให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวล วาสลีน จึงประกาศความร่วมมือกับโอกิลวี่ ประเทศสิงคโปร์ ร่วมกันเตือนคนไทยผ่านการสื่อสารโดยใช้ ป้ายโฆษณาบิลบอร์ดจากแสงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก แสดงสัญลักษณ์ “!” เตือนภัยระดับสากล โดยแคมเปญสัญลักษณ์เตือนภัยนี้ จะปูพรมตามสถานที่ชุมชน 6 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ พาร์ค พารากอน อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ เอเชียทีค ท่ามหาราช เมมโมรี่บีช พังงา และอุทยาน 100 ปีจุฬาฯ ตีพิมพ์ลงในนิตยสารชั้นนำ เพื่อแสดงสัญญาณเตือนในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกโดยเฉพาะ สำหรับสื่อออนไลน์ มีการใช้อินฟลูเอนเซอร์ร่วมสร้างเอ็นเกจเมนต์ ด้วยการเปลี่ยนรูปพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกเป็นคำเตือนอีกด้วย
เพราะวาสลีนเชื่อว่าถ้าผิวดีก็ใช้ชีวิตเต็มที่ได้สุด วาสลีนจึงต้องการให้ทุกคนมีสุขภาพผิวแข็งแรง ด้วยการออกแคมเปญเตือนให้ทุกคนระวังแสงแดด โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่หลายคนมักมองข้าม
หลุยส์ ปิเอเร็ค Senior Global Brand Director วาสลีน กล่าวว่า “ภารกิจของวาสลีนคือการมอบผิวสุขภาพดีให้แก่ทุกคน และให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่มีขีดจำกัด เราต้องการสร้างการรับรู้แก่ทุกคนว่าแสงแดดอันตรายต่อผิวในทุกช่วงเวลาของวัน ซึ่งแคมเปญที่เรียบง่ายแต่โดดเด่นของวาสลีนนั้นทำได้จริงแบบตรงจุด”
นิโคลัส คูรอง Chief Creative Officer บริษัท โอกิลวี่ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวปิดท้ายว่า “นับแต่นี้เป็นต้นไป ทุกครั้งที่คุณเห็นพระอาทิตย์ตก หรือพระอาทิตย์ขึ้น คุณก็จะตระหนักได้ว่าต้องทาครีมกันแดด”