เซ็นทารา (Centara) ประกาศแผนธุรกิจปี 2568 ทุ่มทุนเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่งทั่วโลก พร้อมเปิดงบลงทุน 3 ปี 15,000 ล้านบาท ปรับโฉมโรงแรม ชูธง “The Place to Be” จุดหมายปลายทางแห่งความสุขของนักเดินทางทั่วโลก เล็งทะยานสู่ 1 ใน 100 แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกภายในปี 2570 ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบริการ ด้วยการสร้างสรรค์ประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ปี 67 กำไรพุ่ง 43% บุกตลาดมัลดีฟส์เต็มสูบ
ปี 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นปีแห่งความสำเร็จของเซ็นทารา ด้วยรายได้รวม 11,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% และกำไรสุทธิ 1,097 ล้านบาท เติบโตถึง 43% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของรีสอร์ทในมัลดีฟส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดตัว “เซ็นทารา มิราจ ลากูน มัลดีฟส์” รีสอร์ทธีมดินแดนใต้น้ำสุดอลังการ และการเตรียมเปิด “เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์” ในเดือนเมษายนนี้ ส่งผลให้เซ็นทารามีโรงแรมและรีสอร์ทในมัลดีฟส์รวม 4 แห่ง ภายใต้แบรนด์และคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกัน ตอบสนองทุกความต้องการของนักเดินทาง
เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “The Centara Collection” ชูอัตลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
เซ็นทาราไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาแบรนด์ให้แข็งแกร่ง โดยล่าสุดได้เปิดตัว “The Centara Collection” แบรนด์ใหม่ล่าสุดที่นำเสนอโรงแรมที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานดีไซน์ท้องถิ่น และประสบการณ์การเข้าพักที่น่าประทับใจ ปัจจุบันมีโรงแรมในเครือนี้ 3 แห่ง ได้แก่ มัชชาฟูชิ ไอส์แลนด์ รีสอร์ทและสปา มัลดีฟส์, รุกข์ คีรี เขาใหญ่ และวารีวาน่า รีสอร์ท เกาะพะงัน และมีแผนขยายไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ในปีนี้
นอกจากการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เซ็นทารายังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงโรงแรมแฟล็กชิปในประเทศไทย เริ่มจาก
“เซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า หัวหิน” ที่จะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มห้องพักหรูอีก 70 หลัง ภายใต้แบรนด์ The Centara Collection และห้องพักที่จะสร้างใหม่เพิ่มอีก 200 ห้อง ภายใต้แบรนด์ Centara Life ซึ่งคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท
“เซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า กระบี่” ที่จะเปลี่ยนโฉมเป็น “Centara Reserve” โรงแรมหรูระดับลักชัวรีแห่งที่สองของโลก โดยโครงการนี้จัดงบประมาณ 700 ล้านบาทสำหรับการปรบโฉม
นอกจากนี้ยังมีที่เกาะสมุย ที่เล็งสร้างวิลล่าเพิ่ม 40-50 ห้อง โดยจะมีสระน้ำในทุกห้อง และ ที่ดูไบ (Centara Mirage Beach Resort Dubai) ที่มียอดผู้เข้าพักเฉลี่ย 85% ในปีที่ผ่านมา มีแผนจะเพิ่มจำนวนห้องอีก 200 ห้อง ภายใต้งบประมาณ 550 ล้านบาท โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2 ปี ทำให้โรงแรมแห่งนี้จะมีห้องพักรวม 800 ห้อง
ขยายอาณาจักรโรงแรมทั่วโลก
ในปี 2568 เซ็นทาราวางแผนเปิดโรงแรมและรีสอร์ทใหม่ 9 แห่งทั่วโลก เริ่มจาก “เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์” ในเดือนเมษายนนี้ ตามด้วยโรงแรมในต่างประเทศอีก 4 แห่ง ได้แก่ อันนะปุรณะ เมาท์เทน รีสอร์ท ในเนปาล, โรงแรมภายใต้แบรนด์ The Centara Collection บนเกาะบาหลี และโรงแรมอีก 2 แห่งในเวียดนาม รวมห้องพักทั้งหมด 977 ห้อง นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดโรงแรมในประเทศไทยอีก 4 แห่ง ได้แก่ เกาะพีพี, เกาะสมุย และจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ด้านญี่ปุ่น หลังจากที่เปิด เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า (Centara Grand Hotel Osaka) ไปเมื่อกลางปี 2566 และในปีที่ผ่านมา มียอดเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 78% ทำให้เซ็นทาราเล็งเปิดโรมแรมที่ญี่ปุ่นเพิ่มเช่นกัน โดยเล็งพื้นที่ในเมือง โตเกียว ฟุกุโอกะ ฮอกไกโด รวมถึงที่ โอซาก้า
ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ด้วยเทคโนโลยี
ไม่เพียงแค่การเปิดโรงแรมเพิ่ม เซ็นทารายังมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับให้แก่ลูกค้า ด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย การนำระบบแชทบอท AI มาใช้ในการจอง และการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ภายใต้แบรนด์ Centara Grand และ Centara
รวมถึงมีแผนลดการใช้พลังงานและปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% และลดการใช้น้ำและการทิ้งขยะ 20% ภายในปี 2572 และตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ในปี 2567 เซ็นทาราสามารถลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อห้องพักได้มากกว่าเป้าหมายถึง 19% และมีโรงแรม 8 แห่งติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ นอกจากนี้ โรงแรมในเครือยังได้รับการรับรองด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนจาก GSTC มากถึง 93%
ที่ผ่านมาเซ็นทาราได้รับการประเมินจาก S&P Global ให้เป็น Industry Mover และได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิก S&P Global Sustainability Yearbook 2024 ได้รับการประเมินจาก MSCI ในระดับ A ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง และได้รับการประเมิน SET ESG Ratings 2024 ระดับ AAA จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับความเสมอภาคและความเท่าเทียม โดยมีสัดส่วนผู้บริหารหญิง 49%
เป้าหมายชัดเจน มุ่งสู่ Top 100 แบรนด์โรงแรมระดับโลก
“ปี 2567 เป็นปีแห่งความสำเร็จของเซ็นทารา และปี 2568 จะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่า ด้วยเป้าหมายรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 23% และการขยายธุรกิจไปยังจุดหมายปลายทางใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่ 1 ใน 100 แบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลกภายในปี 2570” ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าว
–จับตาปี 68 อสังหาฯ ไทยระอุ “China+1” ดึงดูดทุนโลก, ออฟฟิศพรีเมียมบูม, โรงแรมหรูโกยไมซ์
