เผยโฉม ‘Central Park Offices’ บนทำเล Super Core CBD เตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 68

เผยโฉม ‘Central Park Offices’ บนทำเล Super Core CBD เตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 68

เซ็นทรัลพัฒนา เผยโฉม Central Park Offices อาคารสำนักงานระดับ Class A ภายในโครงการมิกซ์ยูส Dusit Central Park ประกาศปักหมุดเตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 2568 ตั้งเป้าเป็นอาคารสำนักงานที่ดีที่สุดของเซ็นทรัลพัฒนาที่ผสานความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอาคารสำนักงานซึ่งเชื่อมต่อกับศูนย์การค้าภายในโครงการ Retail-Led Mixed Use

ทั้งนี้เซ็นทรัลพัฒนา ได้พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ใหม่ ‘Central Park’ ซึ่งประกอบไปด้วยศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน Central Park Offices โดยทั้งสองส่วนยังเชื่อมโยงกับโรงแรมดุสิตธานี และอาคารที่พักอาศัย ภายในโครงการมิกซ์ยูส Dusit Central Park มูลค่าการลงทุนรวม 46,000 ล้านบาท บนพื้นที่รวม 440,000 ตร.ม. บนที่ดิน 23 ไร่ มุมถนนสีลม-พระราม 4

เผยโฉม ‘Central Park Offices’ บนทำเล Super Core CBD เตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 68

นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ Chief Finance, Accounting and Risk Management Officer  บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “Central Park Offices จะเป็นอีกหนึ่งโครงการ Key Milestone สำคัญในการพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานของเซ็นทรัลพัฒนา โดยเราได้ทุ่มเทความเชี่ยวชาญตลอดกว่า 40 ปี ในฐานะผู้พัฒนาโครงการ Retail-Led Mixed Use ทำให้อาคารสำนักงาน 10 โครงการบนทำเลยุทธศาสตร์รอบกรุงเทพฯ ยังคงเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของย่าน CBD และย่านเศรษฐกิจนั้นๆ โดยมีจุดแข็งสำคัญคือการพัฒนาอาคารสำนักงานภายใต้แนวคิด Employee Centric ที่ตอบรับเทรนด์และ Evolving ไปพร้อมกับไลฟ์สไตล์การทำงานยุคใหม่อยู่เสมอ

อีกทั้งการเชื่อมโยงกับศูนย์การค้ายังเป็น Ecosystem ที่ดีในการตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้ใช้งานภายในอาคารได้ครบทุกมิติ โดยทุกอาคารใส่ใจมาตรฐานด้านความยั่งยืนและมี Facilities ครบครัน ทั้งนี้ ธุรกิจอาคารสำนักงานถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในทุกโครงการมิกซ์ยูสของเรา และในอีก 5 ปี (2567-2571) ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่องมากกว่า 10% ต่อปี”

เผยโฉม ‘Central Park Offices’ บนทำเล Super Core CBD เตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 68

การพัฒนาโครงการ “Central Park Offices” ซึ่งเป็นอาคาร Prestigious Class A จะเป็นอีกหนึ่งอาคารสำนักงานที่ดีที่สุดของเซ็นทรัลพัฒนา พร้อมมอบ “ประสบการณ์พิเศษที่เหนือกว่า” ภายในโครงการมิกซ์ยูส Dusit Central Park ด้วยจุดเด่น 3 ข้อ ดังนี้

  1. Prestigious Address: ศักยภาพที่แข็งแกร่งของทำเลหัวมุมถนนสีลมที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วในกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก เชื่อมต่อ Core Connectivity
  2. Walkable Proximity & Seamless Integration: การออกแบบพื้นที่โครงการคำนึงถึง Journey ในทุกส่วนของโครงการมิกซ์ยูส จึงสามารถมอบ “คุณภาพชีวิตที่ดี” ให้กับผู้ใช้งานได้แบบ Work/Life Integration ทำให้ผู้คนรู้สึกอยากมาทำงานและมาใช้ชีวิตที่นี่ เป็น Community ของคนทำงานรุ่นใหม่
  3. Unique Exclusivity: ทั้ง Hotel, Residence, Retail, และ Office ซึ่งมีเพียง 1 อาคารต่อ 1 Component ทำให้การใช้ชีวิตมีคุณภาพและสะดวกสบาย และเชื่อมโยงกัน
เผยโฉม ‘Central Park Offices’ บนทำเล Super Core CBD เตรียมเปิดไตรมาส 2 ปี 68

Central Park Offices : The Future Work/Life for Global Visionaries

คุณายุทธ เดชอุดม Head of Business Development Strategy บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนา ทุ่มเทความเชี่ยวชาญอย่างเต็มที่ ร่วมกับ Award-winning Design Consultant ระดับโลกในการพัฒนาอาคาร Central Park Offices แห่งนี้ และด้วยจุดแข็งของทำเลที่ดีที่สุด เชื่อมต่ออย่างลงตัวกับพื้นที่สีเขียว จะทำให้ที่นี่เป็นอาคารสำนักงานระดับโลกที่ผู้คนอยากมาใช้ชีวิต โดยมี Positioning ที่ชัดเจนและเหนือกว่าในการเป็น The Future Work/Life for Global Visionaries โดดเด่นด้วยแนวคิดสำคัญคือ

  1. Perfect Work/Life Harmony: โครงการที่ต้องการมอบคุณภาพชีวิตคนทำงานด้วยพื้นที่สีเขียว Rooftop Park ขนาด 7 ไร่ และดีไซน์ฟังก์ชัน Private Terrace ที่สามารถมองเห็นวิวสวนลุมพินีได้เต็มที่ตอบโจทย์ Modern Working Lifestyle ไม่ว่าจะเป็น
    • Productivity Pilgrim: คนทำงานรุ่นใหม่ต้องการ Productivity & Creativity จึงดีไซน์ Flexible Space ประกอบไปทั้ง flex space, ห้องประชุม, townhall ที่ใช้งานได้หลากหลาย
    • Sustainability-Minded: ตั้งเป้ามาตรฐาน LEED Gold, WELL Platinum และ Wired Score Gold และมีระบบที่ใส่ใจ Well-Being เช่น การกรองและควบคุมคุณภาพอากาศ, การเลือกใช้วัสดุที่ลดการดูดซับความร้อนและใช้กระจกที่ลดการสะท้อนแสง, มีระบบ Smart Energy Control, รวมถึงระบบ Security 
    • Health Enthusiast: พื้นที่สีเขียว Rooftop Park ที่สอดรับกับ Healthy Lifestyle ของคนเมือง รองรับกิจกรรมต่างๆ ด้วย Jogging Track ลู่วิ่งและ Trail พร้อมทำกิจกรรม Outdoor
    • After-Hours Networker: ไฮไลท์คือ Rooftop Bar บนชั้น 43 ที่สามารถชมวิวกรุงเทพได้แบบ   360 องศา และ Glasshouse ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ Retail มีร้านอาหารหลากหลาย
  2. Convenient Connectivity: โครงการมี Major Interchange Station ของ BTS & MRT 2 สายหลักตัดกัน อีกทั้งแต่ละอาคารภายในโครงการยังเชื่อมโยงกัน ทำให้ผู้ใช้งานจากทุกองค์ประกอบสามารถสัมผัสประสบการณ์ Privilege ของแต่ละส่วนได้อย่างลงตัว โดยส่วน Central Park Retail ถือเป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตประจำวันของพนักงานบริษัท ที่จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโครงการได้แบบ Complete Lifestyle  ตั้งแต่มื้อเช้ามี Grab & Go Food, มื้อกลางวันมีตั้งแต่ World-class Street Food ไปจนถึง Business Lunch, สามารถเดิน Shopping หรือ Relax ระหว่างวัน, ตอนเย็น Socialize บน Rooftop Bar
  3. Forward-Thinking Crowd: มอบการใช้ชีวิตระดับ Top-notch Quality ให้กับผู้คนที่มาใช้ชีวิตและทำงานที่นี่ เพื่อสร้างคอมมูนิตี้ของคนทำงานที่มีวิสัยทัศน์ทั้งจากบริษัทชั้นนำในไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ สีลมยังเป็นย่านที่แวดล้อมด้วย Affluent Neighbourhood ตั้งแต่ศูนย์กลาง Financial & Commercial District, ย่านที่อยู่อาศัยระดับ Ultra-luxury, Grade-A Office Towers, Embassies & Consulates รวมถึงมหาวิทยาลัย, โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ

ในย่านใกล้เคียงกันนี้ เครือ Central Group ยังปักหมุด Strategic Locations ทั้งเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล ชิดลม และหัวมุมถนนสีลมนี้กับโครงการ Dusit Central Park ที่จะเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กระดับโลก

โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับโลกภายใต้ความร่วมมือของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) โดยมีมูลค่าการลงทุนทั้งโครงการมิกซ์ยูสทั้ง 4 องค์ประกอบรวม 46,000 ล้านบาท พื้นที่รวม 440,000 ตร.ม. บนที่ดิน 23 ไร่ มุมถนนสีลม-พระราม 4  ประกอบไปด้วย โรงแรม Dusit Thani Bangkok จำนวน 39 ชั้น 257 ห้อง เตรียมเปิดกลางปี 2024; อาคารสำนักงาน Central Park Offices พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิด Q2/2025; ศูนย์การค้า Central Park พื้นที่ (GBA) 130,000 ตร.ม. เตรียมเปิด Q3/2025; และที่พักอาศัย พื้นที่ขนาด 50,500 ตร.ม. แบ่งเป็น Dusit Residences และ Dusit Parkside เตรียมเริ่มทยอยส่งมอบห้องให้ลูกค้าในปลายปี 2568

เครืออนันตรา ฉลองความสำเร็จกับก้าวสำคัญในการขยายโรงแรมกว่า 50 แห่งทั่วโลก พร้อมเปิดตัวอัตลักษณ์แบรนด์ใหม่

Scroll to Top